อาชญากรรม

หนุ่มคลั่งถือปืนบุกโรงเรียน จับอดีตเมียเป็นตัวประกัน สารภาพน้อยใจ ตามง้อเมียไม่สำเร็จ

โดย petchpawee_k

9 ก.พ. 2567

39 views

หนุ่มถือปืนบุกยิงกลางโรงเรียน ง้อครูสาวอดีตแฟนจับเป็นตัวประกันเพิ่งเลิกกันม่ถึงปี ตำรวจปิดล้อมอพยพเด็ก 100 กว่าชีวิตไปหลบอยู่ภายในห้องเรียนปิดประตู  จนท.เกลี้ยกล่อม 5 ชั่วโมง ยอมเดินลงมาจากอาคารถือปืนจ่อหัวตัวเองมาอยู่หลังเสาธง วางปืนยอมมอบตัว พบออกจากงานเพราะยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด คาดเครียดจึงมาก่อเหตุ  ขอโทษแม่ที่เป็นลูกไม่ดี


วานนี้ (8 ก.พ.) เวลา 11.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม รับแจ้งเหตุยิงปืนในโรงเรียนบ้านเขวาทุ่ง ม.10 ต.ภารแอ่น อ.พยัคฆภูมิพิสัย ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงรุดมาตรวจสอบ พบผู้ก่อเหตุได้ถือปืนเดินเข้ามาภายในโรงเรียนมีปากเสียงกับอดีตภรรยา และจับอดีตภรรยาเป็นตัวประกันกักขังไว้ในอาคารเรียน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ให้นักเรียนและครูไปอยู่ในที่ปลอดภัยและเจรจาเกลี้ยกล่อมให้ผู้ก่อเหตุคืนตัวประกัน โดยเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมสถานการณ์


ขณะเกิดเหตุเกิดเหตุทั้งเด็กนักเรียนและคุณครูต่างแตกตื่นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่คุณครูจะอพยพนักเรียนจำนวนกว่า 150 คนเข้าไปหลบอยู่ภายในห้องเรียนปิดประตู และโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต่อมาทราบว่าผู้ก่อเหตุ คือนายอัครวัต  หรือป๊อด อายุ 36 ปี  สวมเสื้อสีดำกางเกงขายาว โดยได้ถือปืนเข้ามาจี้บังคับ ครูเพ็ญ อายุ 32 ปี ไว้เป็นตัวประกัน ที่บริเวณชั้น 2 ของอาคารเรียน


เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงได้เจรจาต่อรอง ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะยอมปล่อยให้เจ้าหน้าที่ได้ลำเลียงเด็กนักเรียน ออกมาจากโรงเรียน โดยออกทางด้านหลังอาคาร และเดินอ้อมรั้วโรงเรียนไปอีกหมู่บ้านที่อยู่ข้าง ๆ โดยให้ผู้ปกครองมารอรับส่วนตัวประกันคือครูเพ็ญก็ได้ปล่อยตัวเช่นเดียวกัน


เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดล้อมและเจรจาเพื่อให้ทราบข้อเรียกร้องแต่นายอัครวัต ไม่ยอมเจรจาด้วยจนกระทั่งใกล้เวลา 17.00 น. พ่อกับแม่และญาติได้เดินทางมาจาก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ มาเจรจา ก่อนที่นายอัครวัต จะเดินลงมาจากอาคาร โดยได้ถือปืนจ่อหัวตัวเองลงมาก่อนที่จะมาอยู่ที่หลังเสาธง ญาติได้เจรจาให้วางปืน ก่อนที่จะวางปืนลง และยอมมอบตัวก้บเจ้าหน้าที่แต่โดยดี


จากนั้นตำรวจได้ชาร์จตัวนายอัครวัต โดยแขนข้างขวาได้รับบาดเจ็บใส่เฝือก ก่อนควบคุมตัวขึ้นรถไปสอบสวนต่อที่ สภ.พยัคภูมิพิสัย ระหว่างนั้นนักข่าวพยายามสอบถามนายอัครวัต ถึงชนวนเหตุแต่เจ้าตัวไม่ตอบ


โดยเด็กนักเรียน เล่าว่า ขณะเกิดเหตุผู้ก่อเหตุได้ขับรถเข้ามาในโรงเรียนก่อนถามหาครูเพ็ญ จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด ก่อนที่ครูจะพานักเรียนไปหลบในห้อง และเจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือ และปล่อยตัวประกันออกมา และได้ยินเสียงปืนขึ้นอีก 1 นัด รวมเป็น 3 นัด ซึ่งหลังเหตุการณ์สงบทางครูกับนักเรียนได้ช่วยกันเก็บถาดใส่อาหารที่กินค้างเอาไว้ตอนกลางวันไปล้าง เพราะผ่านไปหลายชั่วโมง มดขึ้นถาดอาหารหมดไม่สามารถรับประทานได้


แม่ของผู้ก่อเหตุ เผยว่า ลูกชายเพิ่งเลิกกับภรรยาไม่ถึงปี เพราะไม่เข้าใจกัน แต่ลูกชายโทรไปหาอดีตภรรยาทุกวัน แต่อดีตภรรยาไม่ยอมรับสาย บล็อกเบอร์โทรศัพท์หมด ก่อนเกิดเหตุลูกชายขอให้พ่อมาส่งที่โรงเรียนแต่พ่อไม่ยอมมาส่งโดยบอกว่า “ไม่ต้องไปหรอก เมียเขาสอนหนังสือไม่มีเวลารับสาย” จากนั้นลูกชายก็มาที่โรงเรียนฯ ให้เพื่อนมาส่ง  ตนเองมาถึงโรงเรียนจุดเกิดเหตุ บอกเจ้าหน้าที่ขอเจอลูกได้มั้ย เจ้าหน้าที่บอกให้ลูกชายสงบสติอารมณ์ก่อน โดยลูกชายเขาขอโทษแม่ที่เป็นลูกไม่ดีทำตัวแบบนี้


ก่อนหน้านี้ลูกชายบอกกับตนตลอดว่าจะไปง้อภรรยา แต่ภรรยาไม่ยอมให้โอกาส โดยทั้งสองมีลูกด้วยชายด้วยกัน 1 คน วัย 4 ขวบเศษ อยู่อนุบาล 2 เมื่อก่อนลูกสะใภ้ไปสอนอยู่ที่ จ.บึงกาฬ ลูกชายก็ไปอยู่กับภรรยา จนย้ายมาสอนที่ จ.มหาสารคาม ลูกชายก็มาอาศัยอยู่ด้วย เพิ่งเลิกกันไม่ถึงปีเพราะลูกชายชอบดื่มเหล้า ยืนยันว่าลูกชายไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด


ส่วนอาวุธปืนเป็นของพ่อเก็บไว้อย่างดีไม่รู้ว่าลูกชายเอามาได้ยังไง หลังเกิดเหตุแม่รับแจ้งเหตุก็รีบเดินทางมาก็ไม่ได้ตกใจอะไร คิดว่าลูกชายคงสงบสติอารมณ์ไม่ได้ อารมณ์ชั่ววูบ ไมเคยอารมณ์ร้าย และหลังจากที่ลูกชายยอมมอบตัว ตนได้นำนมไปให้กิน ลูกชายพูดว่า “ผมขอโทษนะแม่ที่ผมคิดผิดไป”


ด้านนายบุญชู พ่อของครูเพ็ญ กล่าวว่า ลูกสาวรับราชการเป็นครู ส่วนลูกเขย ยังไม่มีงานการเป็นหลักแหล่ง อยู่บ้านเลี้ยงลูก มีปัญหาอะไรก็ไม่ค่อยจะได้ถาม อาจจะคิดว่าลูกเขยคงจะน้อยใจ ที่ถูกต่อว่าว่าไม่ได้ทำการทำงาน ตัวลูกเขยเป็นคนชอบกินเหล้า ซึ่งถ้าไม่ได้ทำงาน ก็อาจจะคิดมาก ที่จริงแล้วครอบครัวตนเองก็ไม่ได้ว่าอะไร ก่อนปีใหม่กินเหล้าเมามาก เลยบอกให้กลับไปอยู่บ้านก่อน ที่อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ หลังปีใหม่ก็ค่อยกลับมาอยู่ด้วยกัน ไม่คิดว่าจะมาในลักษณะแบบนี้


นางพรรณี บุดมาก ผญบ.ม.10 บ้านเขวาใต้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียนที่เกิดเหตุ เล่าว่า ในหมู่บ้านไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ก่อนเกิดเหตุกำลังประชุมกับกรรมกการสถานศึกษาเรื่องจัดเวรยามเฝ้าโรงเรียนหลังยกเลิกคูเวร พอทราบว่าเกิดเหตุในโรงเรียนตนจึงประกาศเสียงตามสายไม่ให้ชาวบ้านเข้าไปในสนามโรงเรียบนและให้นำลูกหลานออกจากโรงเรียน โดยช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงพักเที่ยงเด็กนักเรียนกำลังสวดมนต์ก็ได้ยินเสียงปืนดัง ครูจึงพาเด็กเข้าห้องเรียนปิดล็อคประตูไว้

ด้านนายสัมฤทธิ์ หน่อแก้ว นายอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุเด็กกำลังรับประทานอาหารกลางวัน ผู้ก่อเหตุจับอดีตภรรยาและลูกชายวัย 4 ขวบ เป็นตัวประกัน จากการเจรจาของเจ้าหน้าที่ตำรวจนายอัครวัต ก็ยอมปล่อยตัวอดีตภรรยาออกมา สาเหตุเบื้องต้นทราบว่า นายอัครวัต ผู้ก่อเหตุเคยทำงานอยู่บริษัทแห่งหนึ่งและออกจากการทำงาน เบื้องต้นทราบว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติดด้วย โดยตัวผู้ก่อเหตุและอดีตภรรยาไม่ได้อาศัยอยู่ด้วยกัน


ทั้งนี้หลังเกิดเหตุเด็กนักเรียนคนอื่น ๆ ต่างพากันวิ่งหนีออกจากโรงอาหาร ยกเว้นอดีตภรรยาและลูกของผู้ก่อเหตุถูกจับเป็นตัวประกัน โดยนายอัครวัต ไม่ได้บอกว่าต้องการอะไร เจ้าหน้าที่ได้ให้ญาติพี่น้องของนายอัครวัต มาเจรจา อย่างไรก็ตามคาดว่าน่าจะเกิดจากความเครียด ระหว่างเข้าเจรจาเกลี้ยกล่อมเจ้าหน้าที่ทีทีมแพทย์จากโรงพยาบาลพยัคฆภูมิพิสัย เข้ามาดูแลสภาพจิตใจด้วย


หลังจากญาติของนายอัครวัต ที่ จ.บุรีรัมย์ ทราบข่าวต่างวิตกกังวลเป็นอย่างมาก คอยลุ้นว่านายอัครวัต จะยอมมอบตัวตอนไหน จนกระทั่งมาทราบว่าตำรวจพยัคฆภูมิพิสัย  /นายครรชิต ก้อนคำใหญ่ อายุ 48 ปี สมาชิก อบต.หัวฝาย อ.แคนดง น้าชายของนายอัครวัต เผยว่า สองสามีภรรยามักจะมีปากเสียงกันเป็นประจำ ฝ่ายหญิงซึ่งเป็นครู ย้ายจาก จ.หนองบัวลำภูมาอยู่ อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม โดยหลานมักจะมาหาลูกและตามง้อเมียให้มาคืนดีกัน ส่วนฝ่ายหญิงบอกไม่เอาแล้ว ทำให้หลานเกิดความเครียดมาโดยตลอด แต่ไม่แสดงอาการ วันนี้หลานยังขับรถให้พระไปบิณทบาตรแล้วหายตัวไป จนกระทั่งมาทราบข่าวว่าไปจี้ภรรยาและลูกเป็นตัวประกัน ส่วนตัวเชื่อว่าหลานชายเครียดเรื่องเดียวคือ ”ตามง้อแต่ไม่สำเร็จ”


ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เผยว่า นายอัครวัต ให้เพื่อนขับรถยนต์กระบะมาส่งที่โรงเรียน จากนั้นเดินเข้าไปในโรงเรียนถามครูในโรงเรียนว่า “ครูเพ็ญอยู่ไหน” ครูคนดังกล่าวจึงชี้ไปที่ห้องที่ครูเพ็ญสอนอยู่ซึ่งตอนนั้นเป็นช่วงพักเที่ยงเด็กลงมากินข้าวหมดแล้ว เหลือครูเพ็ญที่ยังอยู่ในห้อง โดยนายอัครวัต เข้าง้อขอคืนดีแต่ง้อสำเร็จจึงชักปืนออกมายิงขึ้นฟ้า 1 นัด จากนั้นยิงขึ้นฟ้าอีก 1 นัด จับอดีตภรรยาเป็นตัวประกัน ซึ่งตำรวจโทรเรียกแม่ของนายอัครวัต มาช่วยเกลี้ยกล่อมจึงยอมปล่อยตัวอดีตภรรยาออกมา


ขณะนั้นนายอัครวัต ยังไม่ยอมมอบตัว ก่อนถือปืนเดินอยู่บนอาคารแล้วเดินลงมาข้างล่างใช้ปืนขนาด .38 จ่อหัวตัวเอง กระทั่ง 16.45 น.ยอมวางปืนและยกมือขึ้นเพื่อมอบตัว สามารถควบคุมตัวได้ตั้งแต่เวลา 16.45 น. รวมระยะเวลาที่ตำรวจเจรจาเกลี้ยกล่อมนาน 5 ชั่วโมง ตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ 126 มิลลิกรัม  ตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วง อ้างว่าทานยารักษาโรคประจำตัว


พ.ต.อ.จักราวุธ จงศิริ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ในเบื้องต้นพบว่าผู้ก่อเหตุมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด อยู่ที่ 126 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งผู้ต้องการยอมรับว่าได้ดื่มมาก่อนที่จะมาก่อเหตุ ส่วนการตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะ เบื้องต้นพบว่าฉี่ม่วง แต่ต้องทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง เพราะผู้ต้องหาแจ้งว่ามีการกินยามา ก็ต้องไปตรวจพิสูจน์ทราบอีกครั้ง เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา บุกรุกในสถานที่ราชการ พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หรือที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนความผิดเกี่ยวกับเรื่องชีวิตและร่างกายจะสอบอีกครั้งหนึ่งว่า มีเจตนาแบบใด จึงจะสามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้


ด้านนายอัครวัต หรือนายป็อด เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า สาเหตุที่ก่อเหตุขึ้นก็คือเรื่องของความน้อยใจที่มีกับครอบครัว เพราะได้ขอคืนดีกับภรรยามาโดยตลอด ง้อมาประมาณเดือนเศษ ภรรยาก็ไม่ใจอ่อน ตอนที่เข้าไปในโรงเรียนก็กะว่าจะเข้าไปคุยเฉยๆ แต่ก็ทะเลาะมีปากเสียงกัน เกิดอารมณ์โมโห ก็เลยก่อเหตุขึ้น ไม่คิดว่าเหตุการณ์จะรุนแรงบานปลายขนาดนี้ ยังไงก็ต้องขอโทษสังคมด้วย  


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/IcrVfI0dXMI


คุณอาจสนใจ

Related News