อาชญากรรม

แม่ของผู้ก่อเหตุถือปืนบุกโรงเรียนเผยลูกชายติดเหล้า เป็นเหตุให้เลิกกันกับภรรยาที่เป็นครู

โดย kanyapak_w

8 ก.พ. 2567

505 views

จากกรณีเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุคนร้ายถือปืนบุกเข้าไปในโรงเรียนบ้านเขวาทุ่ง หมู่ 10 ต.ภารแอ่น อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม ก่อนยิงปืน 2 นัดภายในโรงเรียน และจับภรรยาซึ่งเป็นครูเป็นตัวประกัน และพาเข้าไปไว้ในห้องพักครู




ซึ่งภายหลังจากเกิดเหตุทั้งเด็กนักเรียนและคุณครูต่างแตกตื่นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่คุณครูจะอพยพนักเรียนจำนวนกว่า 150 คนเข้าไปหลบอยู่ภายในห้องเรียนปิดประตู และโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต่อมาทราบว่า ผู้ก่อเหตุ คือ นายอัครวัต หรือนายป็อด อายุ 36 ปี โดยได้ถือปืนเข้ามา จี้บังคับครูเพ็ญ หรือ น.ส.วันเพ็ญ อายุ 32 ปี ไว้เป็นตัวประกัน ที่บริเวณชั้น 2 ของอาคารเรียน




เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงได้เจรจาต่อรองก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะยอมปล่อยให้เจ้าหน้าที่ ได้ลำเลียงเด็กนักเรียน ออกมาจากโรงเรียน โดยออกทางด้านหลังอาคาร และเดินอ้อมรั้วโรงเรียนไปอีกหมู่บ้านที่อยู่ข้างๆ โดยให้ผู้ปกครองมารอรับ ส่วนตัวประกันคือครูเพ็ญ ก็ได้ปล่อยตัวเช่นเดียวกัน



โดยเด็กนักเรียนบอกว่าขณะเกิดเหตุคนร้ายได้ขับรถเข้ามาในโรงเรียนก่อนถามหาครูเพ็ญ จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด ก่อนที่ครูจะพานักเรียนไปหลบในห้องด้านหลังโรงอาหาร และเจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือ และปล่อยตัวประกันออกมา และได้ยินเสียงปืนขึ้นอีก 1 นัด รวมเป็น 3 นัดในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดล้อม และเจรจา เพื่อให้ทราบข้อเรียกร้อง แต่นายป็อดไม่ยอมเจรจาด้วย



จนกระทั่งใกล้เวลา 17.00น. พ่อกับแม่ และญาติได้เดินทางมาจากอำเภอสตึกจังหวัดบุรีรัมย์มาเจรจา ก่อนที่นายป๊อดจะเดินลงมาจากอาคาร โดยได้ถือปืนจ่อหัวตัวเองลงมา ก่อนที่จะมาอยู่ที่หลังเสาธง ญาติได้เจรจา ให้วางปืน ก่อนที่จะวางปืนลง และยอมมอบตัวก้บเจ้าหน้าที่ แต่โดยดี จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปสอบสวนต่อ ที่ สภ.พยัคภูมิพิสัย



ทั้งนี้ นางอัญญาพร อายุ 60 ปี แม่ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ลูกชายตนและลูกสะใภ้แต่งงานอยู่กินกันมานานและมีลูกชาย 1 คน อายุ 5 ขวบ เมื่อก่อนทำงานและอาศัยอยู่ที่กรุงเทพ ต่อมาลูกสะใภ้สอบบรรจุครูได้ที่ อ.พยัคฆภูมิพิสัย และพาลูกชายมาอยู่ด้วย ส่วนลูกชายก็มีปัญหากับที่ทำงานจนต้องออกจากงานและย้ายกลับมาอยู่ที่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ และเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทั้งคู่มีปากเสียงกันหนัก จนลูกสะใภ้บล็อกเบอร์โทรศัพท์ ทำให้ขายการติดต่อกัน จนสุดท้ายลูกชายก็เลยเดินทางมาหาเพื่อจะเคลียร์ใจ และขอโอกาสกลับไปอยู่เป็นครอบครัวกันอีกครั้ง แต่ไม่เป็นผลจนเกิดเหตุนี้ขึ้น



ส่วนปัญหาที่เลิกกันเพราะว่าลูกชายตนชอบกินเหล้าเมาและยังไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง ยืนยันว่าไม่มีอาการเสพยา ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนของพ่อซึ่งก็เก็บไว้อย่างดีในบ้านซึ่งก็ไม่รู้ว่าเขาเอามาก่อเหตุได้อย่างไร และกว่าตนจะทราบเรื่องก็มีตำรวจโทรมาแจ้งข่าวในช่วงบ่าย และถูกมาพาตัวมาช่วยเจรจาให้ลูกชายตนยอมมอบตัว



โดยตนไม่คิดว่าลูกชายจะก่อเหตุรุนแรงถึงขั้นนี้เพราะปกติลูกชายตนไม่ใช่คนอารมณ์ร้าย ส่วนแขนที่บาดเจ็บเนื่องมาจากไปเล่นกีฬาแขนจึงหัก ทั้งนี้ก่อนจะถูกนำตัวขึ้นรถไปยัง สภ.พยัคฆภูมิพิสัย ลูกชายได้พูดกับตนว่าขอโทษที่ทำตัวเช่นนี้เป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ซึ่งก็ได้แต่ปลอบและยอมรับในความผิดที่เกิดขึ้น โดยลูกชายก็ได้บอกขอโทษแม่ ไม่น่าทำให้เกิดเรื่องใหญ่โตขนาดนี้




ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเหตุการณ์สงบทางครูกับนักเรียนได้ ช่วยกันเก็บสำรับอาหารที่กินค้างเอาไว้ตอนกลางวันไปล้างเพราะผ่านไปหลายชั่วโมงมดขึ้นถาดอาหารหมดแล้ว ไม่สามารถรับประทานได้ จานที่มดไม่ขึ้นเด็กนักเรียนก็ได้ตักอาหารใส่ปากเนื่องจากความหิว เพราะเด็กๆบอกว่ายังไม่ได้กินข้าวกลางวันเลย



ขณะที่นายสัมฤทธิ์ หน่อแก้ว นายอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับแจ้งว่าผู้ก่อเหตุบุกเข้ามาที่โรงเรียน จับภรรยาเก่าเป็นตัวประกัน ซึ่งเด็กนักเรียนกำลังรับประทานอาหารกลางวันอยู่ จากการเจรจาของเจ้าหน้าที่ก็ยอมปล่อยภรรยาออกมา ส่วนสาเหตุเบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุเคยทำงานอยู่บริษัทแห่งหนึ่งแล้วถูกออกจากงาน คาดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยผู้ก่อเหตุได้แยกกันอยู่กับภรรยา ตอนนั้นอยู่คนเดียวบนอาคารเรียน โดยไม่ได้บอกถึงความต้องการว่าต้องการอะไร ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ให้ญาติเข้ามาเจรจาพูดคุย พ่อแม่ มาคุย ยังไม่มีข้อสรุป แต่ทราบว่าเกิดจากปัญหาความเครียด และการออกจากงานจึงมาก่อเหตุขึ้น ทั้งนี้ มีทีมดูแลสภาพจิตใจจากแพทย์โรงพยาบาลพยัคฆภูมิพิสัย และทีมสาธารณสุขอำเภอที่จะมาเยียวยาในเรื่องของสภาพจิตใจให้กับเด็ก ๆ และครูในโรงเรียน




นางพรรณี ผญบ.ม.10 บ้านเขวาใต้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียนที่เกิดเหตุ เล่าว่า ตอนเกิดเหตุไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ มีคนโทรแจ้งว่าเกิดเหตุ ก็เลยกลับมา ทางเจ้าหน้าที่เลยได้แจ้งให้ตนประชาสัมพันธ์เสียงตามสายว่าไม่ให้คนในหมู่บ้านเข้าไปใกล้กับบริเวณโรงเรียน ให้พาลูกหลานออกข้างนอกให้หมด ตัวคุณครูเคยเห็นหน้าค่าตากันอยู่ เคยเจอที่งานมุทิตาจิต ผอ.คนก่อน ครูก็อยู่ดี ๆ มาเกิดเหตุ เหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่มาก่อน ซึ่งไม่กี่วันที่ผ่านมา ได้มีการประชุมร่วมกัน 5 หมู่บ้าน ที่เป็นเขตบริหารของโรงเรียนว่าจะมีการจัดเวรยามเข้าเวร หลังยกเลิกครูเวร ทาง อบต. ได้ประชุมผู้นำ ว่าจะจัดเวรกันมาดูนักเรียนประมาณ 170 คน ถึงชั้น ม. 3 แต่ก็ไม่คิดว่าจะมาเกิดเหตุการณ์ขึ้นเสียก่อน ครูในโรงเรียนเล่าให้ฟังว่าเป็นช่วงพักเที่ยงพอดี เด็กกำลังจะสวดมนต์ก่อนกินข้าว พอได้ยินเสียงปืน ครูก็พาเด็กนักเรียนไปหลบในห้องเรียน ปิดล็อกห้อง ตำรวจมา ไปเคาะห้อง พอเห็นว่าปลอดภัย จึงได้พากันออกมา



คุณอาจสนใจ