ชาวบ้านเอือมพฤติกรรม หนุ่มคลั่งยาทุบแม่ ชอบเดินแกว่งมีด ด่ากราดหาเรื่องคนในชุมชน

วันที่ 3 ก.พ.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า ภายหลังจากที่ ทีมงานเพจสายไหมต้องรอด เข้าช่วยเหลือ นางสุดใจ อายุ 73 ปี ถูกลูกชายคือนายโต๋ อายุ 47 ปี ทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส มีอาการเลือดคั่งในสมอง  

ทีมข่าวอาชญากรรม ช่อง 3 ได้พูดคุยกับเพื่อนบ้านในชุมชน เปิดเผยว่า นายโต๋มีพฤติกรรมคลุ้มคลั่งและอาละวาดภายในชุมชนมาหลายปีแล้ว จนเป็นที่หวาดกลัวของคนในชุมชน บ่อยครั้งที่นายโต๋มักจะเดินถือมีดภายในชุมชนและตะโกนด่าคนในชุมชนไปเรื่อยๆ รวมทั้งยังพูดจาท้าทายให้คนในชุมชนมาทะเลาะวิวาทด้วย จนทำให้ชาวบ้านเกรงกลัวว่าได้รับอันตราย

ที่ผ่านมาเคยแจ้งตำรวจให้มาจับกุมหลายครั้ง แต่ก็พบว่าตำรวจก็ปล่อยตัวในเวลาต่อออกมา เชื่อว่านายโต๋เสพยาเสพติดและเมาสุราจนขาดสติคุ้มคลั่ง อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา นายโต์ไม่เคยทำร้ายคนในชุมชน ส่วนคนในบ้านนั้น ตนไม่ทราบและไม่มีใครกล้าไปที่บ้านเวลาที่นายโต๋อาละวาดในบ้าน เลยไม่รู้ว่า มีการทำร้ายร่างกายคนในบ้านหรือไม่ แต่ทราบเพียงแค่ว่า เขามักจะชอบทำลายข้าวของภายในบ้าน

ส่วนในวันเกิดเหตุวันที่ 17 มกราคมนั้น ตนได้ยินเสียงแค่นายโต๋อาละวาดอย่างหนักภายในบ้าน แต่ก็ไม่มีใครกล้าไปดู เพราะกลัวจะได้รับอันตราย พอตกเย็นพี่ชายนายโต๋กลับมาที่บ้านแล้วก็รีบมาบอกว่าแม่ล้ม จึงช่วยโทรแจ้งรถพยาบาลมารับ ก่อนที่จะทราบภายหลังว่า นางสุดใจถูกทำร้ายร่างกายด้วยฝีมือของนายโต๋ ทั้งนี้หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายโต๋ออกจากชุมชนไปดำเนินคดี ตนรู้สึกโล่งใจและสบายใจอย่างมากที่ออกไปจากชุมชนได้เสียที แต่ก็หวั่นกลัวว่า ทางตำรวจจะปล่อยตัวและนายโต๋จะกลับมาที่ชุมชนแห่งนี้อีก

ชาวบ้านอีกรายนึงเปิดเผยกับทีมข่าวอาชญากรรม ช่อง 3 ว่า ตนเคยปะทะหน้ากับนายโต๋ครั้งหนึ่งืตอนนั้นนายโต๋เกิดอาการคลุ้มคลั่งและเดินตะโกนด่าไปเรื่อย ก่อนที่จะมาจ้องหน้าตนและพูดจาคำหยาบ พร้อมชักชวนให้ตนไปต่อยกับเขา ด้วยความหวาดกลัวตนจึงรีบหนีเข้าบ้านทันที ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็ผ่านมานานหลายปีแล้ว แต่คนในชุมชนเองก็ยังคงรู้สึกหวาดกลัวและเอือมระอากับพฤติกรรมของนายโต๋และอยากให้นายโต๋ออกไปจากชุมชนแห่งนี้เพื่อนำไปดำเนินคดีและบำบัดยาเสพติด