อาชญากรรม

รวบแก๊งโจร ควงปืนปล้นร้านทองกลางห้างดัง อ.ไชยา ตะลึง! พบเยาวชนอายุ 14-15 ร่วมด้วย

โดย petchpawee_k

2 ก.พ. 2567

58 views

ความคืบหน้ากรณีเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มคนร้าย ใช้ปืนขนาด.38 จำนวน 3 กระบอก  บุกปล้นชิงทรัพย์ร้านทองเยาวราชกรุงเทพ ในห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาไชยา ริมถนนทางหลวงเอเชีย 41 ต.เลม็ด อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี  ได้สร้อยทองรูปพรรณ จำนวน 40 เส้น น้ำหนัก 33.5 บาท มูลค่าประมาณ 1.3 ล้านบาท 


โดยหลังก่อเหตุ พบว่า กลุ่มคนร้ายนำรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุไปทิ้งคลองชลประทานบ้านในไร่ หมู่ที่ 3 ต.เวียง อ.ไชยา ห่างที่เกิดเหตุประมาณ 3.7 กิโลเมตร แล้วหลบหนีไป  


เมื่อวานนี้ (1 ก.พ.67)  พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร  ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เปิดเผยว่า จับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุในคดีนี้ได้แล้ว 4 คน จากจำนวนผู้ก่อเหตุทั้งหมด 5 คน ที่น่าตกใจคือ มีเยาวชนอายุ 18-14 ปี ร่วมก่อเหตุด้วย


โดยช่วงเช้า นำตัวผู้ต้องหา 4 คน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ประกอบด้วย นายสรายุทธ อายุ 38 ปี หัวหน้าแก๊งทำหน้าที่บุกปีนเข้าไปกวาดเอาทอง, นายภูวดล อายุ 18 ปี ถือปืน 2 กระบอกทำหน้าที่คุ้มกันขณะก่อเหตุ, นายอโนชา อายุ 33 ปี ทำหน้าที่ชี้เป้า, นายสมโชค อายุ 15 ปี ทำหน้าที่ดูต้นทาง ส่วนคนที่ 5 อัครพนธ์ อายุ 14 ปี ทำหน้าที่ขี่รถจักรยานยนต์มารับคนร้ายที่จุดทิ้งอำพรางรถในคลอง ขณะนี้ยังจับตัวไม่ได้


พล.ต.ท.สุรพงษ์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งรัดสืบสวนติดตามจับกุมคนร้าย โดยพบว่ามีคนร้ายทั้งหมด 5 คน เป็นเยาวชนอายุ 14 และ 15 ปีอยู่ 2 คน จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับและหมายเรียก ในข้อหา ร่วมกันปล้นทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีและใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม


จากการสืบสวนทราบว่านายอโนชา มีพฤติกรรมเป็นพ่อค้ายาเสพติดและเป็นญาติกับนายสรายุทธ ซึ่งนายสรายุทธ เป็นหนี้พนันฟุตบอลออนไลน์ 2 ล้านบาท จึงคิดปล้นร้านทองหาเงินใช้หนี้ แต่ไปดูลาดเลาแล้วไม่สามารถลงมือได้ จึงมาบอกนายอโนชา ให้ชักชวนกลุ่มวัยรุ่นที่เป็นลูกน้องส่งยาเสพติดอยู่แถวชุมชนใต้โค้ง ต.ท่าข้าม อ.พุนพิน ร่วมก่อเหตุแบ่งหน้าที่กันทำงาน ซึ่งนายสรายุทธ คนวางแผนและตัวการสำคัญ เจ้าหน้าที่ตามไปจับกุมได้ที่  อ.แกดำ จ.มหาสารคาม ส่วนอีก 3 คนจับได้ในพื้นที่ อ.พุนพิน และเหลือเยาวชนอายุ 14 ปีจะได้ตัวเร็วๆนี้


ทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันวางแผนโดยมาดูเป้าหมายก่อนลงมือก่อเหตุ 1 สัปดาห์ หลังก่อเหตุได้แยกย้ายกันหลบหนี และนำทองคำที่ปล้นมาได้ ไปขายที่กรุงเทพฯและจังหวัดต่างๆ ในภาคตะวันออก จากนั้นนำทองคำและเงินที่ได้จากการขายมาแบ่งกัน โดยตำรวจใช้เวลา 10 วันสามารถปิดคดีได้  ซึ่งนายสรายุทธ หัวโจกเป็นผู้ชักชวนชี้นำเยาวชนที่เปราะบางมีปัญหาครอบครัวมาร่วมก่อเหตุด้วยความฮึกเหิมและคึกคะนอง เป็นเรื่องที่น่าห่วงใยมาก


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/5YQLvexC9BI



คุณอาจสนใจ

Related News