อาชญากรรม

สะเทือนขวัญ นักเรียน ม.2 ชักมีดแทงคอเพื่อนดับคา รร. อ้างแค้นใจ ถูกคนตายไถเงินครั้งละ 20 บาท

โดย petchpawee_k

30 ม.ค. 2567

135 views

สุดยื้อ! นักเรียน ม.2 โดนเพื่อนแทงตายกลางโรงเรียนขณะยืนเข้าแถว เป็นแผลฉกรรจ์ลำคอ-ท้ายทอย อ้างโดนท้าทาย เพื่อนเล่าผู้ตายพูดว่า “พอแล้วกูขอโทษ’ ผู้ก่อเหตุไม่หยุดยังวิ่งไล่แทง ด้านผกก.คลองตัน ยันยังไม่พบอาการเด็กก่อเหตุเป็นเด็กพิเศษ เตรียมส่งตรวจสภาพจิตก่อนคุมตัวส่งศาลวันนี้ (30 ม.ค.)

วานนี้ (29 ม.ค.) เวลาประมาณ 09.00 น ตำรวจ สน.คลองตัน ได้รับแจ้งว่ามีเหตุนักเรียนชั้นมัธยมต้น โรงเรียนนาคนาวาอุปถัมภ์ ในซอยพัฒนาการ 26 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ ก่อเหตุใช้อาวุธมีดแท่งเพื่อนนักเรียนขณะเข้าแถวเคารพธงชาติ ได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงประสานหน่วยกู้ชีพรถพยาบาลและอาสาสมัครกู้ภัยเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุและเหตุการณ์ช่วยเหลือ

เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจและตำรวจนครบาลคลองตันเข้าตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุภายในโรงเรียนนาคนาวา หลังเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบข้อมูลว่าผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นนักเรียนชายชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 อายุ 14 ปี ถูกแทงเข้าที่บริเวณลำคอด้านขวา 1 แผล และท้ายทอย 1 แผล เป็นแผลฉกรรจ์จมกองเลือด ภายในลานอเนกประสงค์ภายในโรงเรียน คุณครูและกู้ภัยเร่งให้ความช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลวิภาราม เสียชีวิตในเวลาต่อมา


ส่วนคนก่อเหตุแทงเป็นนักเรียนชายชั้น ม. 2/3 ไปที่ สน.คลองตัน แต่เนื่องจากเด็กยังเป็นเยาวชนยังคงต้องประสานผู้ปกครองและหน่วยงานสหวิชาชีพ เข้าร่วมสอบปากคำด้วย ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยถึงสาเหตุการก่อเหตุได้  มีรายงานว่าเด็กที่ก่อเหตุซื้อมีดปอกผลไม้ ซ่อนมีดใต้ถังขยะหลังเสาธงก่อนก่อเหตุ


สำหรับนักเรียนคนก่อเหตุมีรายงานข่าวว่าเป็นเด็กพิเศษ ก่อเหตุในช่วงเวลาเข้าแถวเคารพธงชาติช่วงเช้า ผู้เสียชีวิตกับนักเรียนคนก่อเหตุมีการเย้าแหย่กัน พอถึงช่วงเวลาปล่อยแถวแยกเข้าห้องเรียน นักเรียนคนก่อเหตุได้ใช้อาวุธมีดปอกผลไม้แทงเข้าที่บริเวณท้ายทอยและลำคอ ก่อนเด็กนักเรียนที่ถูกแทงจะวิ่งมาขอความช่วยเหลือจากคุณครู คุณครูจึงพยายามใช้ผ้าช่วยห้ามเลือดและโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน


ส่วนอาวุธที่ใช้ก่อเหตุคุณครูไม่ทราบว่านักเรียนนำเอามาจากไหน และยืนยันว่ามาตรการของโรงเรียนมีการเข้มงวดตรวจสอบอาวุธอยู่บ่อย แต่ไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ส่วนเด็กผู้ก่อเหตุยืนยันว่าเป็นเด็กพิเศษ แต่ที่ผ่านมาก็พูดคุยปกติกับเพื่อนในชั้นเรียน และไม่ทราบว่าเด็กนักเรียนที่เสียชีวิตกับเด็กนักเรียนที่ก่อเหตุมีปัญหากันมาก่อนหรือไม่


ขณะที่ในส่วนของเด็กที่ก่อเหตุในมีรายงานว่าเป็นเด็กที่มีพัฒนาการช้าแต่ไม่ได้เป็นคนที่มีความรุนแรงหรือใช้ความรุนแรงกับเพื่อนร่วมห้อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ภายในโรงเรียนต่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและไม่คิดว่า เด็กที่ก่อเหตุในครั้งนี้ก่อเหตุรุนแรงได้ถึงขนาดนี้


ด้านนายสราวุธ สวัสดิ์พล อาสาสมัครกู้ภัยที่เดินทางมาช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นคนแรก เล่าเหตุการณ์ขณะช่วยเหลือ ว่า ตนเองได้รับแจ้งช่วงเวลาประมาณ 08.40 น. เมื่อเดินทางมาถึงที่โรงเรียนก็พบว่าน้องผู้ได้รับบาดเจ็บนอนจมกองเลือดบริเวณกลางลานกีฬาในร่ม ตนเองจึงเข้าไปช่วยเหลือเมื่อตรวจสอบพบว่ามีบาดแผลบริเวณลำคอสองฝั่ง นอนหมดสติไม่ไม่รู้สึกตัว


เมื่อตรวจสอบไม่พบว่ามีชีพจรจึงเริ่มทำการปั๊มหัวใจ ก่อนที่ในเวลาต่อมารถกู้ชีพจากทางโรงพยาบาลตำรวจจะเดินทางมาถึง และช่วยเหลือนำส่งเคลื่อนย้ายออกไปที่โรงพยาบาลวิภาราม ซึ่งทราบว่าขณะนี้น้องที่ได้รับบาดเจ็บเสียชีวิตขณะถูกช่วยเหลือที่โรงพยาบาลฯ

เพื่อนของเด็กที่เสียชีวิตและก่อเหตุ เผยว่า ก่อนเกิดเหตุเข้าแถวปกติ ก่อนขึ้นห้องครูประกาศให้ทำกิจกรรม ตนเห็นทางผู้ก่อเหตุและผู้ตายวิ่งเล่นกันอยู่กลางสนาม ทุกคนไม่เอะใจเพราะทั้งคู่แหย่เล่นกันบ่อย โดยผู้ก่อเหตุควักมีดออกมาแทงเพื่อนเข้าที่บริเวณลำคอและท้ายทอย จากนั้นเขาวิ่งหนีไปหลังเวที


ส่วนเพื่อนที่โดนแทงล้มจมกองเลือด มีอาการชัก คุณครูวิ่งเข้ามาช่วยและห้ามเลือด/ ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุตนไม่เห็นว่าทั้งคู่เล่นอะไรกัน แต่ได้ยินเพื่อนคนอื่นที่เห็นเหตุการณ์บอกว่าทั้งคู่วิ่งไล่จับกัน เพื่อนคนอื่นก็เชียร์กัน คิดว่าแค่วิ่งเล่นกันปกติ ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุสลดขึ้น ตนไม่เคยเห็นเพื่อนที่ก่อเหตุพกมีดมาโรงเรียน และไม่เคยเห็นใช้ความรุนแรง ปกติเป็นเด็กเรียบร้อยไม่เคยทะเลาะวิวาท


เพื่อนๆ รู้ว่าเพื่อนที่ก่อเหตุเป็นเด็กพิเศษ เขาจะเป็นคนอยู่ไม่นิ่ง เสียใจกับเหตุที่เกิดขึ้นไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ปกติโรงเรียนจะค้นกระเป๋านักเรียน แต่มีนักเรียนบางคนไม่ยอมให้ขนและไม่พอใจให้ค้นกระเป๋ามองว่าเป็นการละเมิดสิทธิ์ ทางโรงเรียนจึงยกเลิกการค้นกระเป๋า


ทีมข่าวได้สอบถามเพื่อนนักเรียนของผู้ตายคนหนึ่ง ที่อยู่ในเหตุการณ์ ให้ข้อมูลว่า ตนเองเห็นเพื่อนถูกผู้ก่อเหตุวิ่งไล่แทง ซึ่งผู้ตายได้พูดว่า “พอแล้ว กูขอโทษ’ แต่ผู้ก่อเหตุก็ยังไม่หยุดยังวิ่งไล่แทงเพื่อนของตนเอง และก็เห็นเพื่อนล้มลงนอนดิ้นอยู่กลางสนามมีเลือดพุ่งไหลออกมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งตนเองเห็นเพื่อนแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้แต่สงสาร


ส่วนผู้ก่อเหตุตนเองเคยเห็นพฤติกรรมเป็นคนกร่างๆ ชอบทำตัวเป็นนักเลงเก็บตัวเงียบหากไม่พอใจใคร ก็จะมีอาการตัวสั่นโมโหคล้ายคนอารมณ์รุนแรงและเก็บกด ตนเองยังพบว่าผู้ก่อเหตุยังเคยเอาช้อนมาทำเป็นมีดและยังพกมีดมาโชว์ที่โรงเรียนด้วย ซึ่งที่ตนเองรู้มาผู้ก่อเหตุไม่ใช่เป็นเด็กพิเศษแต่อุปนิสัยจะค่อนข้างจะล้นๆ


ต่อมา พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เดินทางมายังจุดเกิดเหตุเพื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และพนักงานสอบสวน สน. คลองตัน เปิดเผยสั้นๆ ว่า ในส่วนของเด็กที่ได้รับบาดเจ็บเสียชีวิตแล้ว ส่วนตัวเด็กที่ก่อเหตุคุมตัวไปที่ สน.คลองตัน ประสานสหวิชาชีพเข้ามาทำการสอบตัวเด็กที่ก่อเหตุ


โดย พ.ต.อ.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผู้กำกับการ สน.คลองตัน เปิดเผยภายหลังเดินทางมารับฟังการสอบปากคำ ผู้ปกครองของเด็กที่ก่อเหตุแทงเพื่อน ร่วมชั้นเรียนเมื่อช่วงเช้าวันนี้ที่ห้องสอบสวนเด็ก สน. คลองตัน ระบุว่า เบื้องต้นจากการพูดคุยกับทางผู้ปกครอง ยังไม่พบว่ามีประเด็นเกี่ยวกับเรื่องการที่เด็กผู้ก่อเหตุเป็นเด็กพิเศษ รวมถึงส่วนตัวยังได้มีการพูดคุยกับน้องก็เห็นว่าสื่อสารกันได้ตามปกติไม่มีอาการของการเป็นเด็กพิเศษแต่อย่างใด รวมถึงประเด็นเรื่องของการบูลลี่ และการท้าทายกัน คงต้องรอการตรวจสอบเพราะยังไม่มีรายละเอียดในประเด็นนี้


ขณะที่ในส่วนของหน่วยงานสหวิชาชีพ ได้เดินทางมาร่วมทำการสอบปากคำของตัวเด็กผู้ก่อเหตุเป็นที่เรียบร้อย โดยขั้นตอนต่อจากนี้จะมีการส่งตัวเด็กไปทำการตรวจเรื่องของสภาพจิตใจ ตามข้อสงสัยของสังคม ที่มีกระแสข่าวว่าเด็กเป็นเด็กพิเศษ เพื่อให้สิ้นสงสัย


 รวมถึงตรวจสอบว่าเด็กมีภาวะเก็บกดหรือไม่ ก่อนที่จะมีการนำเด็กกลับมาคุมตัวไว้ในห้องคุมตัวเด็ก และจะมีการนำส่งต่อศาล เยาวชนและครอบครัวกลาง ในวันนี้ (31 ม.ค.) เนื่องจากพนักงานสอบสวนสามารถคุมตัวเด็กเยาวชนเอาไว้ได้เพียง 24 ชั่วโมงเท่านั้น เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาพกพาอาวุธมีดไปในเมืองหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร และฆ่าผู้อื่นโดยใช้อาวุธมีด

---------------------------

รปภ.เล่าเหตุการณ์ช่วยชีวิตเด็ก ม.2 ถูกเพื่อนแทง ผู้ปกครองทยอยรับบุตรหลานกลับบ้าน เผย จะพาลูกย้ายโรงเรียนเพราะไม่ปลอดภัย โรงเรียนไม่มีการตรวจอาวุธ ทั้งที่บริเวณโดยรอบมักจะมีนักเรียนหรือวัยรุ่นตีกันเป็นประจำ


ทีมข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.เอ (นามสมมติ) พนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงเรียน เล่าว่า หลังจากนักเรียนเลิกแถวแล้วกำลังจะขึ้นห้องเรียน ตนก็อยู่ในป้อม แต่จู่ๆ เด็กนักเรียนคนที่ถูกแทง ก็วิ่งออกมาเพื่อขอความช่วยเหลือ เอามือกุมบาดแผลบริเวณลำคอไว้ แล้วก็วิ่งมาล้มลงตรงกลางสนามกีฬา


ตนจึงรีบวิ่งออกไปช่วย เอาผ้าไปอุดบริเวณแผล ไม่ให้เลือดไหลไปมากกว่านี้ โดยตอนนั้นน้องนิ่ง พูดไม่ได้ เพราะเลือดไหลเยอะมาก ตนก็พยายามบอกน้องว่า “อย่าหลับนะๆ” พยายามเรียกให้เขามีสติตลอด ส่วนคนก่อเหตุ ตนเห็นว่าวิ่งตามน้องที่ได้รับบาดเจ็บมา ไม่ยอมพูดจาอะไร แต่สายตาจ้องมายังน้องตลอด จนคุณครูต้องมารีบจับตัวและระงับเหตุเอาไว้


ตนไม่รู้เลยว่า เด็กนักเรียนทั้งสองคนมีปัญหาอะไรกัน แต่รู้เพียงว่าคนก่อเหตุเป็นเด็กพิเศษที่มีพัฒนาการช้า แต่จากการสังเกตก็เห็นน้องมีกลุ่มเพื่อน ยิ้มแย้มแจ่มใสตามปกติ วันเกิดเหตุก็ไม่ได้เห็นว่ามีอาการเครียด และทั้งสองคนก็ไม่ได้สนิทสนมกัน จึงไม่ทราบเลยว่า สาเหตุที่ก่อเหตุแบบนี้เกิดจากอะไร ทั้งนี้ที่ผ่านมาโรงเรียนก็มีมาตรการในการตรวจอาวุธของนักเรียนอยู่แล้ว แต่ยอมรับว่าไม่ได้ตรวจทุกวัน

-----------------------------------------------------

คุมตัวนักเรียนวัย 14 มือแทงเพื่อนกลางโรงเรียนฯ สอบปากคำโดยสหวิชาชีพ แม่ยกมือไหว้ขอโทษครอบครัวผู้ตาย ปัดตอบลูกชายมีพฤติกรรมความรุนแรง-เป็นเด็กพิเศษหรือไม่ ตอบเพียงว่า “เดี๋ยวให้เสร็จกระบวนการก่อน”


ต่อมา ตำรวจ สน.คลองตัน ได้ควบคุมตัวเด็กชายวัย 14 ปี ผู้ก่อเหตุ  พร้อมผู้ครองไปทำการตรวจสอบบ้านพักเพิ่มเติม ก่อนนำตัวกลับมาที่ สน.คลองตัน นำตัวเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำ


ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามแม่ของเด็กที่ก่อเหตุ แม่ตอบสั้น ๆ ว่า “ลูกชายโดนแกล้ง” และปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์และไม่ตอบในประเด็นว่าลูกเป็นเด็กพิเศษหรือไม่ ก่อนเจ้าหน้าที่จะนำตัวเด็กไปสอบปากคำโดยสหวิชาชีพ ภายในห้องสวบสวนเด็ก-สตรีและเยาวชน โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้เสื้อแขนยาวคลุมศีรษะเด็ก เลี่ยงการถ่ายภาพของสื่อมวลชน


จากนั้น 15.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวเด็กชายวัย 14 ที่ก่อเหตุ ออกจาก สน.คลองตัน ขึ้นรถกระบะไปทำการตรวจสุขภาพจิต โดยเจ้าหน้าที่ใช้เสื้อกันยาวคลุมศีรษะเด็กเดินออกมาจากด้านในโรงพัก นักข่าวพยายามสอบถามเด็กคนดังกล่าวถึงแรงจูงใจที่ลงมือใช้มีดแทงเพื่อนเสียชีวิต เจ้าตัวไม่ตอบคำถามใดๆ


ผู้สื่อข่าวก็สอบถามแม่เด็กที่ก่อเหตุว่าอยากจะขอโทษครอบครัวของผู้ตายหรือไม่ คุณแม่ยกมือไหว้ขอโทษ ก่อนกล่าวว่า “ขอโทษค่ะ” ก่อนกล่าวต่อว่า “ขอให้เสร็จกระบวนการของเค้าก่อนนะ” พอสอบถามว่าลูกชายมีพฤติกรรมความรุนแรงมาก่อนหรือไม่ รวมถึงเป็นเด็กพิเศษหรือไม่ คุณแม่ตอบเพียงว่า “เดี๋ยวให้เสร็จกระบวนการก่อนนะคะ” และขออนุญาตปิดประตูรถก่อน ก่อนที่จะขับออกไป


ขณะเดียวกัน นายณัฐภูมินทร์ กิ่งทอง พี่ชายของเด็กอายุ 14 ปี ที่เสียชีวิต ซึ่งได้เดินทางมาที่ สน.คลองตัน และเดินมายังจุดที่นักข่าวอยู่ บอกต้องการเจอหน้าเด็กที่ก่อเหตุด้วยอารมณ์โกรธแค้น แต่ไม่ได้เจอเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้นำตัวขึ้นรถขับออกจากโรงพักไปแล้ว


พี่ชายผู้เสียชีวิต กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสภาพจิตใจครอบครัวย่ำแย่ทุกคน เหตุใดผู้ก่อเหตุต้องมาแทงน้องชายตน ซึ่งน้องชายตนเป็นเด็กที่ร่าเริง เป็นคนสร้างเสียงหัวเราะให้กับเพื่อนในห้อง ส่วนประเด็นที่ผู้ก่อเหตุให้การว่า ก่อนเกิดเหตุน้องชายตนและผู้ก่อเหตุมีการขัดแย้งทะเลาะกันภายในห้องนั้น ตนอยากจะถามกลับว่า ขัดแย้งในเรื่องอะไร และตนมองว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ทางโรงเรียนต้องการปิดข่าว ไม่ให้เด็กออกมาให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน หากตนมีโอกาสเจอคนก่อเหตุ ตนอยากจะถามว่า แทงน้องชายตนเรื่องอะไร ตนอยากรู้ต้นสายปลายเหตุว่ามันเกิดจากอะไร


จากการสอบถามเพื่อนของน้องชาย เล่าให้ตนฟังว่า ทั้งคู่ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะอะไรกันมาก่อน ทั้งคู่ก็ยัง แหย่เล่นกันตามปกติ ในส่วนที่ผู้ก่อเหตุให้การว่าน้องตนได้มีการไถเงินเขานั้น ส่วนตัวตนไม่เชื่อเพราะน้องตนก็ได้เงินไปโรงเรียนวันละ 150 บาท เขาจะไปไถเงินเพื่อนทำไม  


ส่วนประเด็นที่มีการเผยแพร่แชตว่าผู้ก่อเหตุ มีการเตรียมแผนตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมานั้น ส่วนตัวตนไม่ทราบ แต่ดูจากแชตก็น่าจะเป็นความจริง จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนรู้สึกแค้นผู้ก่อเหตุเป็นอย่างมาก เพราะมาทำร้ายน้องชายตนจนเสียชีวิต

-------------------------------

ขณะที่ พ.ต.อ.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผู้กำกับการ สน. คลองตัน เปิดเผยภายหลัง นำตัวผู้ก่อเหตุไปที่ สน.คลองตัน สอบปากคำร่วมกับสหวิชาชีพ และผู้ปกครองและดำเนินการตามกฎหมายว่า เบื้องต้นมีการแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและพกอาวุธมีด ส่วนกรณีที่ผู้ก่อเหตุเป็นเด็กพิเศษ ยังไม่มีข้อมูลและผลการรักษายืนยัน จากการสอบปากคำผู้ก่อเหตุให้การปกติ ตอบคำถามและพูดคุยได้รู้เรื่องทุกอย่าง


หลังจากนี้จะมีการนำตัวผู้ก่อเหตุไปตรวจที่โรงพยาบาลเพื่อยืนยันอาการ นอกจากนี้จากการพูดคุยกับนักเรียนทั้ง 2 ห้อง ของผู้ก่อเหตุและเสียชีวิตทราบว่า ทั้งคู่เล่นกันปกติ แต่วันนี้อาจเป็นไปว่าอาจมีการแหย่กัน และทะเลาะกันแต่ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร จึงทำให้ผู้ก่อเหตุลงมือดังกล่าว


ขณะที่ข้อมูลของตำรวจ มีรายงานว่าจากการสอบถามเบื้องต้นเด็กให้การ อ้างว่าถูกผู้ตายกลั่นแกล้งมาได้ 2 สัปดาห์แล้ว ส่วนที่มีการระบุว่า เป็นเด็กพิเศษนั้น เบื้องต้นยังไม่พบประวัติการรักษา แต่กำลังจะไปรักษา


สำหรับประเด็นที่บอกว่าเด็กผู้ก่อเหตุไม่กลัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะเคยมาโรงพักหลายครั้งนั้น จากข้อมูลพบว่าเคยมีการก่อเหตุลักทรัพย์ร้านสะดวกซื้อมา แต่นานมาแล้ว ประเด็นที่เพื่อนนักเรียนให้ข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุเคยดูดเนื้อหรือดูดกัญชานั้น จากข้อมูลชุดสอบสวน ระบุว่า ตัวเด็กยอมรับว่าเคยดูดเนื้อจริง แต่นานแล้ว เมื่อเดือนกันยายน ปีที่แล้ว


วันนี้ได้สอบปากคำเด็กและพยานทั้งคุณครูที่เห็นเหตุการณ์ และแม่ผู้เสียชีวิต สำหรับสาเหตุการก่อเหตุ เกิดจากความคับแค้นใจ ที่ถูกผู้ตาย มักจะมาบังคับขอเงินผู้ก่อเหตุในช่วงเที่ยง ครั้งละ 20 บาท โดยมักจะก่อเหตุบนอาคารเรียน อ้างว่าจะนำไปซื้อบุหรี่ ด้วยความคับแค้นใจจึงไปซื้อมีดพกติดตัวมาโรงเรียนในเช้าวันนี้ หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปสอบปากคำพยานในโรงเรียนว่าพบเห็นพฤติกรรมแบบนี้จริงหรือไม่


ทั้งนี้ผู้กำกับ สน.คลองตัน ยืนยันว่า จากการสอบปากคำพบว่าพฤติกรรมของเยาวชน 14 ปี มีสติสัมปชัญญะเต็ม 100% สามารถตอบคำถามได้ชัดเจน นักจิตวิทยาและบุคคลที่ร่วมสอบปากคำลงความเห็นว่าเด็กมีสภาพจิตที่ปกติ แต่ในทางคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งผู้ก่อเหตุไปตรวจสุขภาพจิตอีกครั้ง

-------------------------

แม่เด็ก ม.2 ที่เสียชีวิต ยังรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ ไม่เคยรับรู้ปัญหาของลูกชายกับเพื่อน ช่วงเช้าก่อนเกิดเหตุสลดมาส่งลูกที่โรงเรียน ไม่คิดว่าจะเจอหน้าลูกเป็นครั้งสุดท้าย พี่ชายตะโกนเรียกน้องกลับบ้าน ลั่น! อยากเจอหน้าเด็กที่ก่อเหตุ


วานนี้แม่ของเด็กอายุ 14 ปี ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ เดินทางมาให้ข้อมูลกับทางตำรวจ สน.คลองตัน เพิ่มเติม โดยระบุกับสื่อมวลชนก่อนที่จะเดินทางเข้าสู่ตัว สน. ว่า จนถึงตอนนี้ส่วนตัวยังคงรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้


ส่วนเรื่องปัญหาของลูกกับเพื่อนตนเองไม่เคยรับรู้เพราะลูกชายไม่เคยมาเล่าอะไรให้ฟัง แต่ตัวลูกไม่เคยมีปัญหาอะไรกับใครรวมถึงตัวผู้ก่อเหตุ และตนเองก็ไม่เคยเห็นตัวน้องที่เป็นผู้ก่อเหตุในครั้งนี้เช่นกัน


ตนเองจะเดินทางมาส่งลูกที่โรงเรียนทุกเช้า ก็ได้สอบถามลูกในทุกวันแต่ลูกชายก็ไม่ได้เล่าอะไรให้ฟังเลย จนเมื่อเช้าวันนี้หลังจากส่งลูกได้ไม่นาน ก็ได้รับการติดต่อมาจากทางอาจารย์ที่โรงเรียนว่าลูกชายอยู่ในสภาพไม่ดี บาดเจ็บสาหัสจากการถูกทำร้าย พอเดินทางมาที่โรงเรียนก็ยังไม่ได้เห็นแม้กระทั่งตัวของลูกชายเพราะถูกคุณครูพาเข้าห้อง เพื่อพูดคุย ไม่คิดว่าจะเจอหน้าลูกเป็นครั้งสุดท้าย


ขณะที่พ่อของเด็กอายุ 14 ปี ที่เสียชีวิต เผยทั้งน้ำตาว่า ตนแยกกันอยู่กับภรรยา หลังเกิดเหตุหลานโทรมาบอกว่า “ทำใจดีๆ นะน้องภูมิโดนแทง” จึงลางานและรีบมาที่โรงพยาบาล พบว่าลูกชายนิ่งเสียชีวิตแล้ว ส่วนภรรยาได้แต่นั่งร้องไห้ โรงเรียนบอกสุ่มตรวจอาวุธทุกวัน แต่ทำไมปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นในโรงเรียน อยากให้ทางโรงเรียนเข้มงวดความปลอดภัยมากกว่านี้ ไม่อยากให้เกิดกับคนอื่นอีก



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/WWPq1jySais

คุณอาจสนใจ

Related News