อธิบดีข้าว ย่องให้ข้อมูล ตร.ชั้นผู้ใหญ่ ที่ปรึกษากม. แจง รอนัดมอบหลักฐาน ให้พนักงานสอบสวน

วันที่ 28 ม.ค.2567 ช่วงบ่ายมีกระแสข่าวว่า นายณัฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว ซึ่งเป็นผู้เสียหายในคดีที่นายศรีสุวรรณ จรรญา เรียกรับเงิน จะเข้าให้ปากคำกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร

ทีมข่าวจากสำนักต่างๆ ได้เดินทางไปเพื่อดักรอสัมภาษณ์อธิบดี แต่เมื่อขึ้นไปสำรวจที่บริเวณชั้น 15 และ16 ซึ่งเป็นที่ทำการของบก.ปปป. ไม่พบว่ามีการสอบปากคำอธิบดีหรือพยานคนอื่นๆที่ชั้นดังกล่าว มีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2-3 นายที่ตรวจสอบข้อมูลพยานหลักฐานและสำนวน และให้ข้อมูลว่าไม่ได้มีการนัดหมายเข้ามาให้ปากคำในวันนี้

จากนั้นทีมข่าวได้เดินทางไปที่ชั้น 27 ซึ่งเป็นห้องทำงานของ พลตำรวจตรีจรูญเกียรติปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งรับผิดชอบดูแลคดี เมื่อขึ้นไปพบว่าที่ห้องดังกล่าวถูกปิดไว้แต่มีการเปิดไฟอยู่ภายในและพบป้ายติดอยู่ด้านหน้าในเชิงทำนองว่าปิดปรับปรุงห้อง และเมื่อสอบถามแม่บ้านก็แจ้งว่าวันนี้รองผู้บัญชาการไม่ได้เดินทางเข้ามาทำงาน จากนั้นก็ไปดักรอที่ใต้อาคารกองปราบปรามก็ไม่พบว่าอธิบดีกรมการข้าวได้ทำการแลกบัตรเพื่อเข้าสู่ระบบภายในตัวอาคาร และเมื่อเดินสำรวจรถที่จอดอยู่ด้านหน้าก็ไม่พบรถที่มีสัญลักษณ์หรือสติ๊กเกอร์ของกรมการข้าวติดอยู่

จากนั้นทีมข่าวได้โทรศัพท์ไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่อีกหลายนายทั้งผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และรองผู้บังคับการปราบปราม ซึ่งพบว่าตำรวจหลายนายไปปฏิบัติหน้าที่อื่นๆและบางส่วนไม่รับสาย

ด้าน นายดนุเดช ศิริวงษ์ตระกุล ที่ปรึกษากฎหมายอธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยกับกับทีมข่าวทางโทรศัพท์ว่า อธิบดีไม่ได้ติดต่อตนเองเรื่องการเข้ามาพบกับตำรวจเพื่อให้ปากคำแต่ยอมรับว่าจะต้องมีการนำพยานหลักฐานต่างๆที่เกี่ยวข้องในคดีมามอบให้พนักงานสอบสวนในเร็วๆนี้แต่ต้องรอการนัดหมายก่อน ทั้งนี้เป็นไปได้ว่าอธิบดีอาจเดินทางเข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนหรือตำรวจอย่างไม่เป็นทางการ

ทั้งนี้ ทีมข่าวได้ติดต่อไปยังอธิบดีกรมการข้าวทางโทรศัพท์ เจ้าตัวให้ข้อมูลว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายคน และเมื่อสอบถามว่าขณะนี้ให้ปากคำอยู่ที่ใดใช่ที่กองบังคับการปราบปรามหรือไม่ ก็ตอบรับและตัดสายไป