อาชญากรรม
เมีย 'เฮียชัช' เล่าปมรักสามเส้า เผยรู้สามีทำธุรกิจสีเทา - เพื่อน 'หวานเจี๊ยบ' คาดชนวนฆ่า จากปมเงินล้าน
โดย nattachat_c
24 ม.ค. 2567
165 views
ญาติรับศพนายชัช มาประกอบพิธีทางศาสนา ขณะที่ภรรยาเสี่ยชัชเปิดใจ รักสามเส้า รับยังเลิกกันไม่ขาด เพราะต้องช่วยกันดูแลลูก ส่วนเรื่องสามีคบหาหวานเจี๊ยบ ไม่ไปยุ่งเกี่ยวต่างคนต่างอยู่ ก่อนรับสามีทำธุรกิจสีเทาเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ แต่ไม่รู้รายละเอียด พร้อมยินดีให้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน ขณะที่ลูกชาย 2 ขวบ สุดเศร้าทำท่าปั๊มหัวใจ ก่อนพูดว่า “ปะป๊าไปอยู่บนดวงดาว” และ“ปะป๊าตายแล้ว”
จากกรณี นายดิณห์ หลวงจินดา หรือเฮียชัช อายุ 41 ปี ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงแฟนสาว เน็ตไอดอลชื่อดัง จนเสียชีวิตในห้องพักคอนโด ย่านห้วยขวาง หลังจากก่อเหตุได้ขับรถหลบหนีมาที่คอนโด ในพื้นที่ ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ก่อนตัดสินใจใช้อาวุธปืนปลิดชีพตัวเองภายในห้องพัก
-----------
วานนี้ (23 ม.ค. 66) เวลา 16.00 น. ที่ศาลา 2 วัดเขาดินวนาราม ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ทางแม่ และพี่ชาย ของ น.ส.ธมลวรรณ ฉลิมชัยศรี หรือน้องหวานเจี๊ยบ อายุ 23 ปี เน็ตไอดอลสาว ที่ถูก 'เฮียชัช' ยิงดับคาคอนโด ได้นำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศล และได้ทำพิธีรดน้ำศพ ท่ามกลางความเศร้าโศก และเสียใจ ของบรรดาญาติ และเพื่อนฝูงที่เดินทางมาร่วมงาน
เพื่อน ๆ ของน้องหวานเจี๊ยบที่เดินทางมาร่วมอาลัย และร่วมรดน้ำศพต่อการจากไปในครั้งนี้ ต่างพูดกันว่า ทำใจไม่ได้เลย มันโหดร้ายเกินไปมาก ทั้งช็อก ทั้งจุก พูดไม่ออก
ขณะเดียวกัน ทางเพื่อนของหวานเจี๊ยบ ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปร่วมรดน้ำศพ ว่า
ตอนนี้ ไม่ได้ติดใจอะไรแล้ว เพราะคนที่กระทำความผิด เขาได้ตายไปแล้ว และได้รับกรรมของเขาไปแล้ว ซึ่งตอนเกิดเหตุ เชื่อแต่แรกว่า ‘เฮียชัช’ เป็นคนยิงหวานเจี๊ยบแน่นอน
ส่วนปัญหาหลัก ๆ เขาทะเลาะกันตลอด และรอบนี้ น่าจะเป็นเรื่องเงิน เนื่องจากช่วงประมาณกลางเดือนมกราคม ที่ผ่านมา เฮียชัชเคยเอาเงินมาให้หวานเจี๊ยบ 1 ล้าน เป็นของขวัญวันเกิดล่วงหน้า ซึ่งหวานเจี๊ยบเกิดวันที่ 7 กุมภาพันธ์ แต่ปรากฎว่า เฮียชัชเล่นพนันเสียเยอะ ก็เลยมาขอเงินหวานเจี๊ยบ โดยครั้งแรกเอากลับไปแล้ว 5 แสนบาท และล่าสุด ก็มาเอาอีก 5 แสนบาท
ในวันที่เกิดเหตุ คาดว่าคงจะมาเอาเงินจำนวน 5 แสนบาท เพราะหลังเกิดเหตุแล้ว เงินจำนวนนี้หายไปด้วย ซึ่งเพื่อน ๆ ของหวานเจี๊ยบ รู้ว่าเงินที่เฮียชัชเอามาให้หวานเจี๊ยบรอบนี้ มาจากการจำนองบ้านได้มา 3 ล้านบาท จึงได้เอามาให้หวานเจี๊ยบ 1 ล้านบาท แล้วเฮียชัชเขาก็เอาไปเล่นพนันอีก 2 ล้านบาท เพราะเขามีพฤติกรรมเล่นพนันอยู่แล้ว เพื่อน ๆ เอง ก็เคยได้ยินมาตลอดว่า เฮียชัชไปปอยเปต
ซึ่งก่อนหน้านี้ ตลอดเวลาที่เฮียชัชคบกับหวานเจี๊ยบมา 2 ปี ก็มักจะให้เงินหวานเจี๊ยบใช้เดือนละ 1 แสนบาท ยกเว้นช่วงที่ทะเลาะ ห่าง ๆ กัน ก็ไม่ได้ให้ ก่อนจะมาให้เงินก้อนนี้ 1 ล้านเลย หลังจากไม่ได้ให้มา 4-5 เดือน
ส่วนหวานเจี๊ยบเขาก็มีแพลนในการใช้จ่ายอยู่แล้ว ทั้งลงทุนครีม และให้พ่อแม่ แต่เฮียชัชจะขอเงินคืน แล้วก็ชอบพูดว่า ไม่รักกูเหรอ เห็นแก่เงินเหรอ
นอกจากนี้ เพื่อนหวานเจี๊ยบ ยังบอกอีกว่า เมื่อก่อน เฮียชัชก็มักจะหึงหวง เวลาไปเที่ยว ใครอยู่ใกล้ ๆ ก็ไม่ได้ จะทำร้ายเพราะหึงหวง มีทั้งบีบคอจนนัยน์ตาแตก ซึ่งก่อนหน้านี้ เพื่อน ๆ ก็เคยบอกให้เลิกตลอด แต่ผู้ชายก็ขู่ไว้ด้วย ตอนนั้น ยอมรับว่า เพื่อนทุกคนที่เข้าไปยุ่งก็รู้สึกกลัว
ส่วนเฮียชัชมีภรรยาอยู่แล้วหรือไม่
เพื่อนของผู้เสียชีวิต บอกว่า เฮียชัชเขาบอกว่า เลิกกับภรรยาแล้ว เลยมาจีบหวานเจี๊ยบ และเช่าคอนโดอยู่ด้วยกันตลอด 2 เดือน และก่อนเกิดเหตุ ก็ไม่ได้มีอะไรที่ดูแปลก ๆ ซึ่งปกติ หวานเจี๊ยบก็จะประกอบอาชีพขายครีม และเป็นดีเจ
เขาทำกับเพื่อนหนูเกินไป ถ้าอยากตายทำไมไม่ตายไปคนเดียว เอาเพื่อนไปทำไม เขาเป็นเสาหลักของบ้าน ส่งเงินให้แม่ทุกเดือน วันสำคัญก็จะกลับไปไหว้แม่ตลอด แม่เขาก็อายุมากแล้วด้วย
ส่วนประเด็นเรื่องของการทำธุรกิจสีเทา
เพื่อนของผู้เสียชีวิต บอกว่า เคยรู้ว่าทำเว็บพนันนานแล้ว และเฮียชัชบอกว่าเลิกทำไปแล้ว แต่เพื่อน ๆ บอกว่าก็ไม่ได้มีหลักฐาน เป็นเพียงแค่คำบอกเล่ามา
ส่วนเคยไปยืมเงินอดีตสารวัตรหรือไม่นั้น
เพื่อนของผู้เสียชีวิต บอกว่า ไม่ทราบ เพราะส่วนตัวแล้ว เฮียชัช เขาเป็นคนลึกลับ เวลาจะถ่ายรูปอะไร ก็ไม่เคยให้เห็นหน้า และไม่เคยบอกอะไรเลย รู้แค่เฮียชัชเขามีเงินเฉย ๆ เพราะมีเงินให้เพื่อนตลอด เป็นเงินสดหลักแสน และพาไปกินอาหารดี ๆ
ส่วนเรื่องอาวุธปืน
เพื่อนของผู้เสียชีวิต บอกว่า เฮียชัชบอกว่าไปรับจำนำมา
ส่วนกรณีดีเจเพลย์บอย ถูกเจ้าของเว็บพนันลวงจ้างไปเปิดเพลงที่ปอยเปต ก่อนปิดห้อง กระทืบบาดเจ็บสาหัส เหตุโมโหดีเจเพลย์บอยหอมแก้มแฟนสาวนั้น
เพื่อนของผู้เสียชีวิต บอกว่า ก็คงเพราะมาจากความหึงหวงของเฮียชัช ถึงลวงไปทำร้าย
สำหรับกำหนดการตั้งศพสวดอภิธรรมน้องหวานเจี๊ยบ วันที่ 23 - 26 มกราคม 2567 และทำการฌาปนกิจศพ ในวันสาร์ที่ 27 มกราคม 2567 เวลา 16.00 น. ณ เมรุวัดเขาดินวนาราม
-------------
วานนี้ (23 ม.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหว ที่สถาบันนิติเวชแห่งใหม่ จังหวัดปทุมธานี หลังตำรวจได้มีการนำร่างของนายตฤณ หรือเฮียชัช มาชันสูตร
ก่อนที่ ช่วงเวลาประมาณ 13:00 น. ทางญาติของเฮียชัชจะเดินทางเข้ามารับศพ โดยมี นางสาวธารารัตน์ ชลออยู่ อายุ 29 ปี ภรรยาของเฮียชัช พร้อมกับลูกชายวัย 2 ขวบ เดินทางมาร่วมรับศพด้วย
โดยก่อนที่จะเดินทางไปทำเอกสารในการรับศพ ภรรยาของเฮียชัช ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า
ตัวเธอเองได้คบหากับเฮียชัช มาประมาณ 5 ปี ก่อนที่จะมีลูกชายด้วยกัน 1 คน ระหว่างที่คบกัน เธอยอมรับว่า ฝ่ายชายค่อนข้างเป็นคนนิสัยใจร้อน ขี้หึง และเคยลงไม้ลงมือกับเธอมาก่อนเช่นกัน
แต่เธอก็ไม่ได้โทษฝ่ายชายเพียงคนเดียว เพราะตัวเธอเองก็เป็นคนค่อนข้างอารมณ์ร้อนเช่นกัน จึงเกิดการปะทะคารมกันไปมา แต่เรื่องก็จบแค่นั้น ไม่เคยถึงขั้นรุนแรงว่า เอาปืนมาจ่อ หรือใช้อาวุธ
นอกจากนี้ ระหว่างที่เธอตั้งท้อง เธอเองก็ทราบมาว่า สามีของเธอแอบไปมีคนอื่น ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เนื่องจากฝ่ายชายเป็นคนเจ้าชู้
โดยช่วงแรก เธอยอมรับว่า ได้มีการตามฝ่ายชายไปเพื่อขอเจอผู้หญิงอีกคน จนเกิดการปะทะคารมกันมาแล้ว และเธอเองก็ขอให้ฝ่ายชายเลิกกับผู้หญิงคนนั้น แม้ฝ่ายชายจะบอกว่าเลิกติดต่อไปแล้ว แต่สุดท้าย เธอก็มาจับได้ว่ายังคงติดต่อ และไปมาหาสู่กันอยู่
หลังจากที่รู้ว่า เธอไม่สามารถเปลี่ยนนิสัยของสามีได้ จึงทำให้เธอเริ่มทำใจ และปล่อยให้สามีออกไปใช้ชีวิต เหลือเพียงแต่ความสัมพันธ์ 'พ่อกับแม่' ของลูกเท่านั้น
ซึ่งฝ่ายชายก็ได้รับผิดชอบเป็นอย่างดี ไปมาหาสู่กันเป็นประจำ ระหว่างที่ใช้ชีวิตบนความสัมพันธ์แบบนี้ ฝ่ายชายก็เคยบอกว่า “ไม่สามารถที่จะเลิกกับใครได้ เพราะรัก และเป็นห่วงทั้งคู่”
ซึ่งเธอเองก็เคยบอกกับเฮียชัชว่า ไม่อยากมาอยู่ในวังวนของความรักแบบนี้แล้ว อยากออกไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ โดยที่โฟกัสลูกชายเป็นหลัก
ส่วนในวันที่เกิดเรื่อง เธอไม่ทราบว่า ฝ่ายชายไปหาฝ่ายหญิงมาก่อน เนื่องจากที่ผ่านมา ก็ไม่ได้ติดต่อ หรือรู้ความเคลื่อนไหวกันอยู่แล้ว เพราะส่วนใหญ่เธอจะทราบจากเพื่อนของฝ่ายชายมากกว่า เธอจึงไม่ทราบว่า ฝ่ายชายไปก่อเหตุยิงฝ่ายหญิงมาแล้ว
กระทั่ง เมื่อช่วงเย็นของวันอาทิตย์ที่ 21 มกราคม ฝ่ายชายได้โทรมาหา แล้วบอกให้เธอไปหาที่คอนโดที่ย่านนนทบุรี ซึ่งเท่าที่ได้คุย ก็ได้สังเกตสีหน้าฝ่ายชายว่า ดูค่อนข้างเครียด แต่ก็ไม่ได้เล่าถึงเหตุการณ์อะไรให้ฟัง แล้วเธอเองก็ไม่ได้ถามเช่นกัน ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วเอาเงินสดให้เธอประมาณ 100,000 บาท ก่อนจะแยกย้ายกันไป
จนเมื่อช่วงประมาณตี 5 ของเมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา ทางฝ่ายชายก็ได้โอนเงินมาให้เธอ 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเป็นเงินจำนวน 49,999 บาท พร้อมเขียนบันทึกช่วยจำในสลิปว่า “ลาก่อน”
ส่วนครั้งที่ 2 ได้มีการโอนเงินจำนวน 40,000 บาท พร้อมเขียนบันทึกช่วยจำในสลิปว่า “ฝากลูกด้วย”
ก่อนที่ช่วงช่วงเวลา 05.18 น. ฝ่ายชายจะไลน์มาหา พร้อมข้อความว่า “รหัสคอนโดโพลิแทน 521500# เผื่ออยากมาหา ลาก่อนนะไม่ต้องทุกข์เพราะพี่อีกแล้ว” และหลังจากนั้นเธอจึงทราบว่าฝ่ายชายได้ก่อเหตุยิงตัวเองเสียชีวิต
ซึ่งหลังจากเกิดเหตุเธอเองก็ได้โพสต์เฟซบุ๊คว่า “R.I.P ขออโหสิกรรมต่อกันและกันแล้วนะคะ หมดเวรหมดกรรมต่อกันแล้ว ขอให้ทั้งคู่ไปสู่ภพภูมิที่ดี“ เพราะระหว่างที่เธออยู่ในความสัมพันธ์แบบรักสามเส้า ก็ยอมรับว่า เคยมีการปะทะหรือเคยพูดด่ากับฝ่ายหญิงมาก่อน พอหลังจากทั้งคู่เสียชีวิต ก็อยากหมดเวรหมดกรรมซึ่งกันและกัน จึงได้อโหสิกรรมให้ทั้งคู่
เมื่อสอบถามถึงธุรกิจของเฮียชัช
เธอเองยอมรับว่า เฮียชัชทำธุรกิจสีเทาจริง รวมถึงเว็บพนันออนไลน์ แต่ไม่ทราบรายละเอียดว่า ทำอะไรกับใครบ้าง เพราะไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยว โดยเฉพาะเรื่องเงิน ที่ผ่านมาทราบอยู่แล้วว่า ฝ่ายชายเป็นคนเจ้าชู้ และมีการเลี้ยงดูให้เงินกับผู้หญิงหลายคน
ส่วนพริตตี้สาวที่เสียชีวิต
ตนทราบอยู่แล้วว่า ทั้งคู่แอบหาคบกัน โดยคบกันขณะที่ตนตั้งท้องลูกชาย เมื่อทราบ ตนก็มีการทะเลาะกับฝ่ายหญิง และโพสต์ต่อว่ากันผ่านโซเชียล แต่เมื่อคลอดลูก ตนรู้สึกโตขึ้น โฟกัสลูกมากขึ้น จึงตีตัวออกห่าง เพราะกลัวว่าหากลูกโตจะทราบเรื่อง และรู้สึกไม่สบายใจ
ส่วนข่าวที่เพื่อนของหวานเจี๊ยบให้ข้อมูลว่า วันเกิดเหตุ เฮียชัชไปยืมเงินหวานเจี๊ยบ 5 แสนบาทนั้น
เธอไม่ทราบ และไม่รู้ เพราะฝ่ายชายไม่เคยบอกอะไร และไม่เคยเอาปัญหาธุรกิจมาปรึกษาเลย ซึ่งหลังจากนี้ หากตำรวจจะขอตรวจสอบเส้นทางการเงินต่าง ๆ ของเธอเ ธอก็ยินดี และไม่ได้กังวลอะไร เพราะอย่างรถเบนซ์ป้ายแดงที่เธอใช้อยู่ทุกวันนี้ เธอก็ซื้อดาวน์ด้วยตัวเอง
ภรรยาเสี่ยชัช ยังบอกต่อว่า หลังจากเกิดเหตุที่เธอรู้สึกตกใจมาก ก็ คือ เรื่องที่ลูกชายวัย 2 ขวบของเธอ ได้มีการเรียกชื่อของพ่อว่า “ปาป๊า” อยู่ 3 รอบ แล้วทำท่าเหมือน “ปั๊มหัวใจ” ก่อนจะบอกว่าตอนนี้พ่อไปอยู่บนดวงดาวแล้ว
เช่นเดียวกับช่วงรับศพ ลูกชายของเธอก็ได้มีการตะโกนตามหลังช่วงที่เข็นศพขึ้นรถว่า “ปะป๊าๆ ตายแล้ว”
จากนั้น เวลา 14.30 น. ที่ศาลาหน้าเมรุ วัดบางพูดนอก อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี น.ส.ธารารัตน์ พร้อมลูกชายวัย 2 ขวบ และญาติ ได้รับศพเสี่ยชัช จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์มาประกอบพิธีรดน้ำศพและสวดพระอภิธรรมศพ บรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา
ภรรยาของเสี่ยชัช กล่าวให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า ตอนแรกทราบข่าวก็ช็อก และเสียใจ ก็ไม่คิดว่าเขาจะจากไปเลย ปกติเขาจะมีปืนพก แต่ถ้าออกไปข้างนอกเขาจะไม่พกไป ซึ่งตนก็ไม่มีสิทธิ์ไปห้ามไม่ให้เขาพกปืน แต่ก็จะมีเตือนกันบ้าง แต่จะฟังหรือไม่ฟัง ก็ขึ้นอยู่กับเขา
สำหรับกำหนดการสวดพระอภิธรรมศพจะมีขึ้น 2 คืน คือวันที่ 23 มกราคม ถึงวันที่ 24 มกราคม และจะทำพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 25 มกราคม นี้
-------------
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 มกราคม ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่า
ประเด็นที่ครอบครัวของหวานเจี๊ยบ ติดใจเรื่องที่ตำรวจไม่จับกุม 'เฮียชัช' เอาผิดตั้งแต่คดีที่ทำร้ายเพื่อนชายของ 'หวานเจี๊ยบ' เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่เมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา กรณีดังกล่าวเป็นความผิดที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร ทำให้อำนาจการสอบสวนเป็นของอัยการสูงสุด จึงต้องให้อัยการสูงสุดเป็นคนสั่งคดี เหตุเกิดเมื่อเดือน พ.ย. 66
ขณะที่อัยการสูงสุด เพิ่งส่งเรื่องกลับมาให้ตำรวจดำเนินการต่อ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
และตำรวจเพิ่งยืนยันตัว 'เฮียชัช' ได้ แต่มาเกิดเรื่องนี้ขึ้นเสียก่อน โดยคดีนั้นอัยการตั้งข้อหาไว้ ฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายให้ได้รับอันตรายสาหัส ซึ่งนอกจาก 'เฮียชัช' แล้ว ยังมีผู้ร่วมก่อเหตุอีกอย่างน้อย 1 คน เป็นคนไทย ที่ต้องสืบสวนหาตัวมาดำเนินคดี ยืนยันว่า คดีนี้ยังอยู่ในกรอบเวลาตามกฎหมาย
-------------
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/dT_1YKvmt_8