แฟนเน็ตไอดอลเสียชีวิตแล้ว ภายในห้องของภรรยา ตำรวจเร่งสอบสาเหตุก่อเหตุ

เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 22 ธ.ค. ร.ต.ท.ธนวัฒน์ รวมเมฆ รอง สว. (สอบสวน) สน.ห้วยขวาง รับแจ้งเหตุมีผู้ยิงตัวเองเสียชีวิต ภายในคอนโด ซอยประชาอุทิศ 24 แขวงและเขตห้วยขวาง กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวชฯรพ.ตำรวจ เจ้าหน้าที่กองพิสูตรหลักฐานกลาง อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู


ที่เกิดเหตุเป็นคอนโดหรู ตึกบี สูงทั้งหมด 34 ชั้น ภายในห้องนอนห้องที่ชั้น 26 พบศพน.ส.ธมลวรรณ แายุ 23 ปี อาชีพขายของออนไลน์และดีเจอีดีเอ็ม สภาพนอนหงายอยู่บนเตียงนอนเปลือยกายไม่สวมใส่เสื้อผ้า มีเพียงผ้าห่มสีน้ำตาลคลุมถึงช่วงคอ โดยมือข้างซ้ายจับบริเวณสไลด์ปืน ไม่ได้จับด้ามปืน คล้ายกับมีคนร้ายนำปืนมาใส่ไว้ในมือ และกกหูด้านซ้าย มีรอยถูกยิงด้วยอาวุธปืนดังกล่าวเป็นปืนยี่ห้อกล็อก 26 ขนาด 9 มม. และพบปลอกกระสุน 1 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมไว้ที่เกิดเหตุ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่ามีผู้ต้องสงสัยคาดว่าเป็นแฟนหนุ่มของผู้ตายเป็นผู้ก่อเหตุแล้วหลบหนีก่อนที่ญาติจะมาพบร่างและญาติไม่ปักใจเชื่อว่าจะก่อเหตุฆตัวตาย


ต่อมาเวลา 13.00 น. ที่สน.ห้วยขวาง น.ส.อิสรีย์ อายุ 25 ปี, น.ส.พิมลภัทร อายุ 25 ปีและ น.ส.สโรชา อายุ 25 ปี ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเนื่องจากเป็นผู้พบศพ โดยทั้ง 3 ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่ภายในคอนโดแห่งนี้กับแฟนหนุ่มที่เพิ่งคบหาได้ประมาณ 2 ปี


ก่อนเกิดเหตุนั้นตามปกติผู้เสียชีวิตจะออนไลน์ในโซเชียลมีเดียอยู่ตลอดเวลาแต่กลุ่มเพื่อนได้ผิดสังเกตเนื่องจากผู้เสียชีวิตในออฟไลน์ไปเกือบ 24 ชั่วโมงแล้ว พวกตนจึงเดินทางมาหาที่ห้องเวลาประมาณ 04.30 น. ใช้คีย์การ์ดเปิดประตูเข้าไปก็พบเห็นสภาพข้าวของภายในห้องกระจัดกระจายและพบร่างผู้เสียชีวิตนอนเสียชีวิตอยู่


ซึ่งที่ผ่านมาผู้เสียชีวิตกับแฟนหนุ่มก็มีปัญหาทะเลาะตบตีกันบ่อย แต่ฝ่ายผู้ตายไม่สามารถเลิกได้เพราะฝ่ายชายไม่ยอม โดยฝ่ายชายน่าจะเข้าไปพัวพันกับธุรกิจสีเทา ซึ่งเมื่อปีที่แล้วฝ่ายชายก็เคยก่อเหตุรุมทำร้ายดีเจชายคนหนึ่งที่ถูกว่าจ้างไปเล่นที่บ่อนในประเทศเพื่อนบ้าน


ต่อมาเวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.ห้วยขวาง และสภ.รัตนาธิเบศ ได้เดินทางไปยังคอนโดแห่งหนึ่ง ย่านสนามบินน้ำ ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี เพื่อควบคุมตัวนายติณห์ อายุ 40 ปี แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงห้องพักได้เคาะเรียกให้เปิดห้องแต่ไม่มีผู้ตอบรับจึงทำการพังประตูเข้าไปพบว่านายติณห์ ได้ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิตบนที่นอนไปแล้ว


ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่า หลังรับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่เกิด พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบกล้องวงจรปิด สอบสวนพยาน แต่ยังเหลือในส่วนของแฟนผู้เสียชีวิตที่ยังติดตามตัวมาไม่ได้ แต่มีภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าแฟนผู้ก่อเหตุออกจากห้องพักในเวลา 06.00 น.วันที่ 21 มกราคม จากนั้นจึงให้ฝ่ายสืบสวนหาข้อมูลจนทราบว่าผู้ก่อเหตุมีที่พักอาศัยอยู่ที่คอนโดย่านนบุรี จึงได้นำกำลังเข้าติดตามตัว


เมื่อถึงห้องพักเจ้าหน้าที่ได้มีการเข้าห้องพักเรียกอยู่ประมาณ 3 ครั้งแต่ก็ไม่มีการเปิด จากนั้นจึงได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด จึงได้ประสานขอกำลังสนับสนุนจากตำรวจ สภ. รัตนาธิเบศร์ เมื่อเข้าไปในห้องก็พบว่านายติณห์นอนหายใจรวยริน มีปืนขนาด .38 ตกอยู่ข้างตัว เจ้าหน้าที่จึงได้พยายามปฐมพยาบาลเพื่อช่วยชีวิตแต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบห้องดังกล่าวเป็นห้องของภรรยาของผู้เสียชีวิตที่อยู่ด้วยกัน 


ส่วนเหตุจุงใจในการก่อเหตุคาดว่า น่าจะเกิดจากปัญหาส่วนตัว เรื่องหึงหวง และอีกหลาย ๆ เรื่อง ทำให้ตัดสินใจก่อเหตุ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะต้องรวบรวมพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นคราบเขม่าดินปืนที่ร่างของผู้ตาย และมีปืนขนาด 9 มม.อยู่ที่มือขวา แต่เชื่อมั่นว่าผู้ก่อเหตุคือนายติณห์ เป็นการทำให้เห็นว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คงต้องรอหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มาประกอบเพื่อให้สิ้นข้อสงสัย


ในส่วนของแม่ผู้ตายที่ได้มีการไปร้องกับ เพจสายไหมต้องรอด ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการพูดคุยกับแม่แล้วเมื่อช่วงเช้า โดยได้แจ้งความคืบหน้า และได้ให้คำแนะนำ ซึ่งทางแม่ก็มีความเข้าใจ แต่เท่าที่ทราบการไปที่เพจสายไหมเกิดจาก ความไม่สบายใจของกลุ่มเพื่อนผู้ตาย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ มีการสื่อสารเฉพาะกับครอบครัวของผู้ตายโดยตรง


ส่วนคดีค้างเก่าของนายติณห์ คือ ก็ดีถ้าร่วมกันทำร้ายร่างกาย ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่ฝั่งปอยเป็ดประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่นอกราชอาณาจักร จึงต้องส่งเรื่องให้ทางอัยการสูงสุดเป็นผู้พิจารณา โดยทางไอ้การสูงสุดได้มีคำสั่งลงมาให้ทางพนักงานสอบสวนดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อไป ซึ่งอยู่ระหว่างการเรียกตัวนายติณห์มารับทราบข้อกล่าวหา แต่มาเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นเสียก่อน