ล่อซื้อ ร.ต.ต. วัย55 ขณะปฏิบัติหน้าที่ แต่ขายยาบ้าข้างโรงพัก เจ้าตัวสารภาพ เสพมานาน

เมื่อวันที่ 18 ม.ค.2567  เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.นครสวรรค์ ร่วมกับ สภ.หนองปลิง แถลงข่าวการจับกุม ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ อัมพเศวตร์ อายุ 55 ปี ปฏิบัติหน้าที่สิบเวร สภ.หนองปลิง หลังใช้พื้นที่บริเวณโต๊ะหินอ่อน ใต้ร่มไม้ ข้างสถานีตำรวจเป็นที่ขายยาบ้า โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด ได้ส่งสายลับเข้าไปล่อซื้อยาบ้าจำนวน 50 เม็ด ในราคา 1,500 บาท โดยมียาบ้าถูกบรรจุอยู่ในถุงใส 40 เม็ด

ซึ่งหลังจากซื้อขายกันเสร็จสิ้น ทาง ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ ยังกลับเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ภายในโรงพักตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด จับกุมได้ที่โต๊ะทำงานคาโรงพัก พร้อมแสดงหลักฐานต่างๆทั้งภาพถ่ายในขณะล่อซื้อ และหมายเลขธนบัตรถ่ายเอกสาร 1,000 บาท จำนวน 1 ฉบับ และธนบัตรถ่ายเอกสาร 100 บาท จำนวน 5 ฉบับ

ขณะที่ ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ ต้องจำนนด้วยหลักฐานต่างๆ พร้อมรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุจริง เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติดจึงนำตัว  ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ นำตรวจค้นห้องพัก ก่อนพบยาบ้าซุกซ่อนอีก 42 เม็ด รวมเป็น 82 เม็ด จึงยึดของกลางทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนคุมตัว ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ ไปตรวจสารเสพติดที่รพ.สวรรค์ประชารักษ์ ผลปรากฏว่าพบสารเสพติด นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังขยายผล จับกุมผู้ร่วมขบวนการที่เป็นพลเรือนอีก 3 คนพร้อมยาบ้าอีก 251 เม็ด

พ.ต.อ วิริยะบัณฑิตย์ สถิตย์สุุชาติ ผกก.สภ.หนองปลิง เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนเข้ามารับตำแหน่ง ผกก.สภ.หนองปลิง เมื่อช่วงเดือนธันวาคม ที่ผ่านมา ก็ได้มีการสืบทางลับเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด กระทั่งมีการสืบทราบว่า ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ มีพฤติกรรมลักลอบค้ายาบ้ามานาน อีกทั้งยังมีการใช้พื้นที่บริเวณโรงพักแอบขายยาเสพติดด้วย จึงได้มีการประสานความร่วมมือกับทางตำรวจชุดสืบสวนจังหวัด ในการร่วมกันสืบสวนและเก็บหลักฐาน จนนำไปสู่ที่มาของการจับกุม ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา พร้อมกับขยายผลไปถึงผู้ร่วมขบวนการ ได้สำเร็จ

จากการสอบสวนเบื้องต้น ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ รับสารภาพว่า ยาบ้าที่ถูกล่อซื้อ และที่ค้นเจอภายในห้องพักนั้น เป็นของตนเองจริง และเสพมานาน ส่วนที่ต้องมาขายยาบ้านั้น ทางผู้ต้องหาเอาแต่นั่งก้มหน้าเครียดและไม่ยอมพูดอะไร ส่วนที่เลือกโรงพักเป็นสถานที่ขายยานั้น เพราะเคยทำแล้วปลอดภัย จนกระทั่งมาถูกจับกุมตัวในที่สุด และตอนนี้ก็ได้มีการทำเรื่องปลด ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ ออกจากการเป็นตำรวจ โดยเจ้าตัวได้ถูกศาลตัดสิน และถูกส่งตัวเข้าไปอยู่ในเรือนจำแล้ว