พนักงานไปรษณีย์ ร่ำไห้ ติดคุกฟรี ศาลยกฟ้อง ถูก ป.ป.ส.จับแพะ หลังยึดพัสดุซุกยาอี 6 พันเม็ด

วันที่ 17 ม.ค. 67 ศาลอาญา นัดฟังคำพิพากษา ในคดีที่พนักงานอัยการฯ โจทก์ กับ นายฉัตรชัย ขาวงาม จำเลย ในคำข้อหา ฐานความผิดเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด กรณีที่เมื่อวันที่ 17 ต.ค.65 หน่วยสกัดกั้นยาเสพติด ตรวจยึดพัสดุระหว่างประเทศต้นทางจากประเทศเยอรมนี จำนวน 2 กล่อง ซุกซ่อนยาอี 6,000 เม็ด และขยายผลจับกุม นายฉัตรชัย ขณะปฎิบัติหน้าที่พนักงานไปรษณีย์สาขาพระโขนง พร้อมยาเสพติด ก่อนดำเนินคดี ส่งฟ้องศาลอาญา ซึ่งตอนนั้นนายฉัตรชัย ตกเป็นผู้ต้องหาในคดี และถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ

โดยนายนิติศักดิ์ มีขวด ทนายความของจำเลย เปิดเผยว่า คำพิเคราะห์ว่าจากการนำสืบพยานหลักฐานโจทก์ จำเลยแล้ว เชื่อว่านายฉัตรชัย ขาวงาม ในฐานะพนักงานไปรษณีย์ สาขาพระโขนง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเข้ายาเสพติดดังกล่าว เพียงแต่ปฏิบัติหน้าที่ไปรษณีย์มารับกล่องพัสดุที่เกิดเหตุ โดยไม่ทราบว่าข้างในมียาเสพติดดังกล่าว จึงพิพากษา ยกฟ้อง ซึ่งหลังจากได้ฟังคำพิพากษา นายฉัตรชัย และครอบครัวพากันกอดคอร่ำให้ด้วยความดีใจ ที่ได้รับความยุติธรรมจากกระบวนการทางศาล

นายฉัตรชัย อายุ 53 เปิดเผยว่า วันที่ 18 ต.ค.65 ทางผู้รับพัสดุ ในซอยสุขุมวิท 48 โทรมาแจ้งให้ เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ไปเก็บกล่องพัสดุที่ส่งให้หน่อย เพราะบริษัทปิด ตนจะประสานลูกน้องแต่ไม่สามารถติดต่อ เลยขับรถไปเก็บพัสดุ เพื่อนำกลับมาไว้ที่ไปรษณีย์เอง พอไปถึง ตนเห็นกล่องพัสดุ วางตากแดดอยู่หน้าบริษัท จึงหยิบพัสดุ ซึ่งเป็นกล่องสีน้ำตาล จู่ๆ ก็มีเจ้าหน้าที่หลายนายมาล็อกเลย โดยตนยังไม่ทันได้พูด หรือถามอะไรเลย ก่อนยึดโทรศัพท์มือถือไป

ตนพยามชี้แจงว่าตนเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์มาทำหน้าที่ของตนเองเฉยๆ แต่ก็ไม่ฟัง ซึ่งมาทราบภายหลังว่าพัสดุดังกล่าว ต้นทางส่งมาจากประเทศเยอรมนี มีปลายทางที่บริษัทแห่งหนึ่งในซอยสุขุมวิท 48 จากนั้นตนก็พาตัวมาที่ไปรษณีย์ที่ตัวเองทำงานอยู่ จับถ่ายรูป แต่กลับเอากล่องพัสดุ 2 กล่องมาให้ตนถือ ทั้งที่ตอนตนไปเอาพัสดุหน้าบริษัทตนหยิบแค่กล่องเดียว ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าของทั้งสองกล่องมีอะไร ก่อนจะส่งตัวไปที่ กรมศุลกากร สุวรรณภูมิ

ต่อมาวันรุ่งขึ้น ก็ถูกส่งตัวเข้าเรือนจำต้องอยู่ในเรือนจำถึง 46 วัน คุณฉัตรชัยบอกว่า หมดเลยชีวิต และโอกาส ตอนอยู่ในเรือนจำร้องไห้ ทุกวัน ทุกคืน ไม่สามารถกินอะไรได้แล้ว ตนเองก็มีโรคประจำตัวต้องออกมาฟอกไตเป็นประจำ หลังจากนั้น แฟนเดินเรื่องขอยื่นประกันตัว ได้แล้ว ก็กลับมาทำงาน แต่ตนเสียโอกาสมากมายในชีวิต ซึ่งในปี 2565 มีโครงการ early พอดี ก็เสียโอกาส // ส่วนปี 2566 ที่ผ่านมา ที่จะมีการแต่งตั้งตำแหน่งหัวหน้าแผนกระดับ 8 ก็แต่งตั้งไม่ได้ เนื่องจากยังมีคดีอยู่ ต้องรอคดีสิ้นสุดก่อน เสียโอกาสหมด

สำหรับบริษัทที่ตนไปเอาพัสดุนั้นตนไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่ได้มีการขยายผลต่อหรือไม่ แต่บริษัทดังกล่าวได้ปิดกิจการไปตั้งแต่วันที่ตนไปเอาพัสดุออกมาแล้ว วันนี้ดีใจมากเพราะโอกาสจะได้กลับเข้ามาในชีวิตต่อ ครอบครัวจะได้มีความสุขที่ผ่านมาโดนคนนินทา และสงสัยในตัวตนเองว่าทำจริงหรือไม่ ดีใจมากจะได้พูดได้เต็มที่ว่าเราไม่ได้ทำ และทันทีที่ทราบผลพิพากษา ก็โผกอดลูกชาย แล้วก็จะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีขึ้น ส่วนทางคดีหลังจากนี้ทางทนายความก็จะเป็นผู้ดำเนินการต่อ

ส่วนตัวมองว่าเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทำงานง่ายเกินไป น่าจะสอบถามเหตุผล และให้ได้อธิบาย และข้อกล่าวหาที่ฟ้องก็รุนแรง และตนเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจ ก็จะคูณสามเข้าไปอีก อยากให้เจ้าหน้าที่ทำงานให้รอบคอบไม่ใช่ว่าใครให้สืบหาความจริงให้ชัดเจนกว่านี้ เพราะเมื่อพลาดมาแล้วชีวิตคนคนนึงที่ต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำมันอยู่ลำบาก