อาชญากรรม

รวบหมอไสยศาสตร์ทิพย์ ลวงทำพิธีกรรมเรียกคืนความรักจากสามี เหยื่อหลงกล สูญเงินกว่า 2 ล้านบาท

โดย kanyapak_w

12 ม.ค. 2567

141 views

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบหมอไสยศาสตร์ทิพย์  ลวงทำพิธีกรรมเรียกคืนความรักจากสามี เหยื่อหลงกล สูญเงินกว่า 2 ล้านบาท



กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.,พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ,พ.ต.อ.ปทักษ์ ขวัญนา รอง ผบก.ป. , พ.ต.อ.เอกสิทธิ์ ปานสีทา ผกก.4 บก.ป., พ.ต.ท.เจษฎา แก้วจาเครือ, พ.ต.ท.ศุภกร ตังคะประเสริฐ, พ.ต.ท.เอนก บุญตา, พ.ต.ท.อรรถวิทย์ สุขทัศน์ รอง ผกก.4 บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ .ต.ท.อัคนี ณ บางช้าง  สว.กก.4 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป.



ร่วมกันจับกุม นางสาวฐิติมนต์ฯ อายุ 38 ปี  ตามหมายจับของศาลศาลอาญา ที่ 62/2560 ลงวันที่ 30 มกราคม 2560 คดีหมายเลขดำที่ อ 200/2560  คดีหมายเลขแดงที่ อ 210/2560 “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ และฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่นฯ”



สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้านแห่งหนึ่ง ในพื้นที่เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร



พฤติการณ์ ก่อนเกิดเหตุผู้เสียหาย รู้สึกว่าสามีเริ่มไม่สนใจและใส่ใจเหมือนแต่ก่อน จึงได้ไปหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต  จนพบข้อความที่ผู้ต้องหาเป็นผู้โพสต์ระบุว่า สามารถทำพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ สามารถทำให้คนรักกลับมาหา สนใจ ใส่ใจได้ โดยมีการทิ้งไอดีไลน์ของผู้ต้องหาไว้  เมื่อผู้เสียหายเห็นข้อความดังกล่าว จึงสนใจพร้อมส่งข้อความไปติดต่อสอบถาม ก่อนถูกผู้ต้องหาใช้กลอุบายหลอกลวงให้หลงเชื่อ ตัดสินใจโอนเงินให้กับผู้ต้องหาเพื่อทำพิธีตามกล่าวอ้าง รวมกว่า 2,246,057 บาท ซึ่งหลังจากรับเงินไปแล้ว ผู้ต้องหาไม่ได้ทำพิธีกรรมให้ผู้เสียหาย หรือ ทำให้สามีของผู้เสียหายกลับมาสนใจ ใส่ใจตามที่กล่าวอ้างไว้แต่อย่างใด  เป็นเหตุให้ผู้เสียหายรู้ตัวว่าโดนหลอก จึงมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานพร้อมขอศาลออกหมายจับ ก่อนจะมีการจับกุมตัวผู้ต้องหา นำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายไว้




​แต่ต่อมาผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวในชั้นศาล และได้หลบหนีประกัน จนกระทั่งมาถูกศาลออกหมายจับอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป. ทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีมาอยู่ในพื้นที่ เขตดอนเมือง จึงเฝ้าสังเกตการณ์ กระทั่งนำไปสู่การจับกุมตัว ก่อนนำส่งศาลอาญา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป  



จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหารายนี้ ยังมีหมายจับ ของศาลแขวงนนทบุรีที่ 307/2564 ลงวันที่ 20 กรกฎาคม 2564 ซึ่งต้องหาว่า“ร่วมกันฉ้อโกงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลบิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น” อีก 1 หมายจับ อีกด้วย



สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา







คุณอาจสนใจ

Related News