อาชญากรรม

ตำรวจไซเบอร์ ยึดทรัพย์แก๊งคอลเซ็นเตอร์รวมกว่า 1,200 ล้าน

12 ม.ค. 2567

2.6K views

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม , พลตำรวจเอกรอย อิงคไพโรจน์ ผู้บัญชาการจำรวจแห่งชาติ  , พลตำรวจโทวรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. , ร่วมกับ ปปง. แถลงผลปฏิบัติการยึดทรัพย์เครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขบวนการ น.ส.ธารารัตน์ กับพวก หลังจากเมื่อวานนี้เข้าตรวจค้นใน 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ นนทบุรี และ กรุงเทพฯ รวม 13 จุด สามารถยึดทรัพย์ ได้รวมกว่า  1,200 ล้านบาท

โดยแบ่งเป็นรถยนต์ 77 คัน โฉนดที่ดิน 84 ฉบับ ทองรูปพรรณ น้ำหนักประมาณ 50 บาท ธนบัตรไทยและต่างประเทศ อีกเกือบ 10 ล้านบาท นาฬิกาหรู กว่า 7 ล้าน 5 บาท  โดยจุดใหญ่สุดคือที่ จ.เชียงใหม่ สามารถยึดทรัพย์สินได้มากที่สุด เป็นรถยนต์กว่า 50 คัน ซึ่งเจ้าของทรัพย์มีความเกี่ยวเนื่องกับ น.ส.ธารารัตน์ แต่เจ้าตัวอ้างว่าทรัพย์สินทั้งหมดเป็นของภรรยาซึ่งเป็นชาวจีน โดยพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานและขยายผล ส่วนที่เหลืออีกมูลค่า 924 ล้าน เป็นทรัพย์สินที่ ปปง. มีคำสั่งอายัดไว้ก่อนหน้านี้

พฤติการณ์ของขบวนการนี้ จะแบ่งหน้าที่กันทำเป็นขบวนการเพื่อหลอกลวงผู้เสียหายหลายรูปแบบ ทั้งใช้วิธีโทรศัพท์อ้างเป็นเจ้าหน้าที่หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงิน , หลอกชักชวนผู้เสียหายแลกเปลี่ยนเงินสกุลบาทเป็นเงินสกุลหยวน ผ่านทางเฟซบุ๊ก ในอัตราที่ถูกกว่าสถาบันการเงิน แค่ไม่จ่ายผลตอบแทน, หลอกลวงผู้ประกอบธุรกิจขายสินค้าออนไลน์สั่งซื้อสินค้าจากจีน แต่กลับหลอกให้ผู้เสียหายลงทุนอัตราแลกเปลี่ยนเงินสกุลหยวน โดยแค่เฉพาะคดีฉ้อโกงนี้มีผู้แจ้งความกับตำรวจไซเบอร์แล้ว 54 คน

และจากการสืบสวนพบว่ากลุ่มของธารารัตน์ มีการโอนเงินหมุนเวียนกว่า 3 พันล้านบาท บางส่วนโอนไปยังบัญชีเงินฝากของกลุ่มเว็บพนันออนไลน์ เพื่ออำพรางธุรกรรม และแปลสภาพทรัพย์สินเป็นอสังหาริมทรัพย์ เช่น ที่ดินห้องชุด ฉลากออมสิน เงินฝากในบัญชี ที่ ปปง.สั่งยึดอายัดไว้แล้วกว่า 238 รายการ

นอกจากนี้กลุ่มของน.ส.ธารารัตน์ ยังเคยถูกดำเนินคดี และแจ้งอาญัติบัญชีเงินฝาก ในคดีฉ้อโกงประชาชนในหลายท้องที่ ทั้งใน จ.อุบลราชธานี ขอนแก่น และกรุงเทพฯ

ด้าน นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. กล่าวว่า ตามขั้นตอนการคืนทรัพย์สินให้กับผู้เสียหาย ผู้เสียหายต้องยื่นคำร้องขอคุ้มครองสิทธิ์ ภายใน 90 วัน เพื่อให้ศาลพิจารณาสั่งนำทรัพย์มาคืนให้ผู้เสียหาย ส่วน น.ส.ธารารัตน์ กับพวกรวม 3 คน ปปง.ได้แจ้งข้อหาไปแล้วบางส่วน

อย่างไรก็ตาม สำนักงาน ปปง. ยังแถลงผลการยึดทรัพย์ ปี 2566 ซึ่งสามารถดำเนินการอายัติทรัพย์สิน ได้กว่า 12,000 ล้านบาท โดยเป็นทรัพย์สินที่ยึดและอายัติแล้ว 19 คดี มูลค่า 995 ล้านบาท คือคดีของ น.ส.ธารารัตน์ , คดีหลอกลงทุนแอปพลิเคชัน "ไทยเดลี่" ชักชวนทำงานหารายได้เสริม , หลอกขายเพชรออนไลน์ ที่มีผู้เสียหายกว่า 500 ราย ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างส่งเรื่องให้อัยการยื่นขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดินจำนวน 16 คดี มูลค่า 2,143 ล้านบาท และขอให้ศาลมีคำสั่งนำทรัพย์สินชดใช้คืนให้กับผู้เสียหายอีก 8 คดี มูลค่า 318 ล้านบาท

คุณอาจสนใจ

Related News