อยู่ยากขึ้นทุกวัน! ผัวเมียสุดแสบ แฝงตัวในกลุ่มหางาน หลอกคนพิการสมัครงาน เอาข้อมูลเปิดบัญชีม้า

กรณีเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.66 กองบัญชาการตำรวจ สืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. ได้เปิดปฏิบัติการ FAKE PROFILE เข้าจับกุม 2 สามีภรรยา หลอกคนพิการสแกนหน้าเปิดบัญชีม้า


โดยคดีนี้ มีผู้เสียหายมาแจ้งความกับตำรวจ สอท. ว่าถูกโกงทางออนไลน์ และเมื่อตำรวจสืบสวนบัญชีม้า และดำเนินการออกหมายจับ แต่เมื่อพบว่า เจ้าของบัญชีม้าเป็นผู้พิการ จึงเกิดข้อสงสัยและสืบสวนต่อจนทราบว่า เจ้าของบัญชีดังกล่าว ตกเป็นเหยื่อถูกมิจฉาชีพหลอกให้เปิดบัญชีโดยอ้างว่าเป็นการสมัครงาน    


โดยพฤติการณ์ของผู้ต้องหา คือ แฝงตัวไปในกลุ่มหางานในเฟซบุ๊ก โดยใช้บัญชีเฟซบุ๊กอวตาร ทักแชทเพื่อสนทนาส่วนตัวกับผู้เสียหายที่เข้ามาหางานในกลุ่มดังกล่าว แล้วอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากฝ่ายบุคคลของบริษัทต่าง ๆ ขอนัดสัมภาษณ์งานกับผู้เสียหาย โดยบอกให้ผู้เสียหายเตรียมเอกสารสําหรับสมัครงาน ได้แก่ สําเนาบัตรประจําตัวประชาชน / สําเนาทะเบียนบ้าน / ใบรับรองคุณวุฒิการศึกษา / สําเนาหนังสือรับรองคนพิการ และรูปถ่ายหน้าตรงของผู้เสียหาย


ซึ่งในแชทได้มีการอ้างว่ามีโควต้าทำงานสำหรับคนพิการ โดยระบุว่าตนเองเป็นเจ้าหน้าที่ HR พร้อมย้ำกับผู้เสียหายด้วยว่า "อย่าลืมบัตรคนพิการ"


จากนั้นผู้ต้องหาได้นัดพบกับผู้เสียหาย บริเวณศูนย์อาหารของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านนวนคร จังหวัดปทุมธานี เมื่อถึงเวลาตรวจเอกสาร ผู้ต้องหาก็อ้างว่า ผู้เสียหายถ่ายสําเนาบัตรประจําตัวประชาชนมาไม่ถูกต้อง จะขออาสานําบัตรไปถ่ายสําเนาให้ ต่อมาจะใช้อุบายว่า รูปถ่ายของผู้เสียหายที่นํามาใช้ไม่ได้ จึงขอใช้โทรศัพท์มือถือของตัวเองถ่ายให้แทนเพื่อส่งให้กับบริษัทโดยตรง หรืออาจจะอ้างว่าถ่ายรูปเพื่อใช้ทําข้อมูลการสแกนใบหน้าสําหรับเข้า-ออกบริษัท


แต่ที่จริงแล้ว คือการหลอกให้สแกนใบหน้าเพื่อเปิดบัญชีธนาคาร โดยใช้ข้อมูลจากบัตรประชาชนตัวจริงที่อ้างว่าขอไปถ่ายสําเนาก่อนหน้านี้ และเมื่อผู้ต้องหาได้ข้อมูลพร้อมรูปถ่ายครบแล้ว จะออกอุบายว่าขอไปทําธุระ โดยให้ผู้เสียหายรอ และสุดท้ายก็หลบหนีไป ก่อนที่ผู้เสียหายจะพบว่า ประวัติการสนทนากับผู้ต้องหาผ่านแชทในมือถือได้ถูกยกเลิกข้อความ และถูกบล็อกบัญชีเฟซบุ๊ก ทําให้ไม่สามารถติดต่อได้อีก


ทั้งนี้ มีภาพจากกล้องวงจรปิดในศูนย์อาหารของห้างสรรพสินค้า ขณะคนร้ายกำลังนั่งคุยกับเหยื่อ และมีการนำโทรศัพท์มาให้เหยื่อสแกนใบหน้าอีกด้วย


ต่อมาตำรวจจึงขยายผลไปจับ นางสาวบุสราภรณ์ อายุ 28 ปี ชาวอุดรธานี และนายประมวล อายุ 36 ปี ชาวบึงกาฬ ผู้เป็นสามี ซึ่งทําหน้าที่คอยขับรถพาภรรยาไปหลอกลวงเหยื่อตามสถานที่ต่าง ๆ ทุกครั้ง ตรวจค้นบ้านพักในพื้นที่ ตำบลสามเรือน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบบัตรเอทีเอ็มและสมุดบัญชีธนาคาร จํานวน 6 เล่ม โดยมีทั้งบัญชีธนาคารของผู้เสียหายที่เป็นผู้พิการ และเหยื่อรายอื่นที่ถูกหลอกลวงให้เปิดบัญชี อีกกว่าจํานวน 20 แผ่น

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/_xE00N5NFio