อาชญากรรม

พบประวัตินักธุรกิจถูกรองสารวัตรปืนโหดยิงบนทางด่วน มีคดีฉ้อโกงติดตัวหลายพื้นที่

1 ม.ค. 2567

3.2K views

พบประวัตินักธุรกิจถูกรองสารวัตรปืนโหดยิงบนทางด่วน มีคดีฉ้อโกงติดตัวหลายพื้นที่



จากกรณีนายกฤษฏิ์ อายุ 30 ปี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่ถูกรองสารวัตรสอบสวน สน.หัวหมาก ยิงเสียชีวิตบนทางด่วน มีรายงานว่า ผู้เสียชีวิตมีพฤติการณ์แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ โดยเปลี่ยนนามสกุลให้คล้ายคลึงกับนามสกุลของอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนหนึ่ง จนทำให้มีคนหลงเชื่อ



นอกจากนี้ ผู้เสียชีวิตยังมีประวัติถูกแจ้งความดำเนินคดีในหลายพื้นที่ ทั้งที่ สภ.พนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา สน.คลองตัน และ สน.หัวหมาก ในข้อหาเกี่ยวกับการฉ้อโกง เพราะผู้เสียชีวิตทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์



สำหรับคดีที่อยู่ในพื้นที่ สภ.พนมสารคาม เบื้องต้นศาลจังหวัดฉะเชิงเทราได้พิพากษาลงโทษจำคุก 11 เดือน แต่ผู้เสียชีวิตได้ยื่นขอประกันตัวออกมาระหว่างต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์



ขณะที่พันตำรวจเอกพรทวี สมวงค์ ผู้กำกับการ สน.หัวหมาก เปิดเผยว่า สำหรับ ร้อยตำรวจโทณรงค์วัส รองสารวัตรสอบสวน สน.หัวหมาก หรือ หมวดนัท เพิ่งจะเข้ามารับราชการตำรวจได้ประมาณ 1 ปี หลังเรียนจบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ โดยมาอยู่ฝ่ายสอบสวนที่ สน.หัวหมาก และได้เลื่อนยศเป็นร้อยตำรวจโทไม่นานมานี้ ส่วนการทำงานที่ผ่านมาถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง ทำงานใช้ได้ แต่ไม่ได้โดดเด่น แต่เจ้าตัวก็ไม่เคยแสดงออกว่ามีปัญหาเรื่องงาน หรือว่ามีความต้องการที่จะโยกย้ายตำแหน่งเลย



สำหรับสาเหตุที่หมวดนัทไปรู้จักกับ นายกฤษฎิ์ ผู้เสียชีวิตนั้น ก็เป็นไปตามข่าวที่ปรากฎออกไปก่อนหน้านี้ โดยคดีที่ผู้เสียชีวิตมาแจ้งความถูกฉ้อโกง ก็เป็นคดีทั่วไป ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจ ส่วนคดีที่มีรายงานว่า ผู้เสียชีวิตถูกแจ้งความข้อหาฉ้อโกงที่ สน.หัวหมาก เช่นกันนั้น ยังไม่พบข้อมูล


พันตำรวจเอกพิสิษฐ์ธัช นาคชัยวัฒนา ผู้กำกับการ สภ.พนมสารคาม เปิดเผยว่า นายกฤษฎิ์ ผู้เสียชีวิต มีคดีความตกเป็นผู้ต้องหาอยู่ที่ สภ.พนมสารคาม หลายคดี โดยเป็นคดีที่ผู้เสียหายมาแจ้งความฐานฉ้อโกงทั้งหมด และมีประมาณ 2-3 คดีที่ศาลพิพากษาแล้ว แต่ล่าสุด มีคดีที่พนักงานสอบสวนสรุปสำนวน และนัดผู้เสียชีวิตจะนำตัวส่งฟ้องช่วงก่อนปีใหม่ แต่ผู้เสียชีวิตขอเลื่อนไปช่วงหลังปีใหม่ บอกว่ายังไม่สะดวก แต่ก็มาเกิดเหตุขึ้นก่อน



โดยคดีนี้ ผู้เสียหาย 1 ราย มาแจ้งความเมื่อช่วงกลางปี 2566 บอกว่า ผู้เสียชีวิตได้อ้างว่ารู้จักกับเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร และสามารถดำเนินการหาบัตรทองประมูลรถ โดยไม่ต้องจองคิวให้ได้ โดยผู้เสียหายได้หลงเชื่อ และจ่ายเงินค่าดำเนินการให้ผู้เสียชีวิตไป 3 แสนบาท ส่วนคดีอื่นๆ ที่มีผู้เสียหายมาแจ้งความ ก็จะเป็นการหลอกลวงคล้ายๆ กัน แต่พฤติการณ์ก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ



แท็กที่เกี่ยวข้อง  อาชญากรรม ,ตำรวจยิงนักธุรกิจ

คุณอาจสนใจ

Related News