อาชญากรรม

ฝากขัง 'หมวดนัท' ยิงนักธุรกิจดับคาทางด่วน เจ้าตัวปฏิเสธทุกข้อหา ไม่ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

โดย nattachat_c

1 ม.ค. 2567

617 views

วานนี้ (31 ธ.ค. 66) พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง คุมตัว ร้อยตำรวจโทณรงค์วัส ทะชาดา รอง สว.(สอบสวน) สน.หัวหมาก หรือหมวดนัท ที่ก่อเหตุยิง นายกฤษฏิ์ ศรุวรานนต์ อายุ 30 ปี นักธุรกิจหนุ่ม เสียชีวิตบนทางด่วน เมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 29 ธันวาคม ที่ผ่าน ส่งฝากขังต่อศาลอาญา ถนนรัชดา ในข้อหาดังนี้

  • ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
  • มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
  • พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร
  • ยิงปืนใช้ดินระเบิดโดยใช้เหตุในเมืองหมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชน


โดยการฝากขังครั้งนี้ เป็นการมาฝากขังครั้งแรก เวลา 12 วัน

-------------

ตลอดการคุมตัวตลอดคืนที่ผ่านมา มีรายงานว่า ตัวผู้ต้องหามีความเครียด มีการร้องไห้ตลอดคืน แต่อยู่ในการดูแลของสิบเวรที่ทำหน้าที่ดูแลห้องคุมขัง จนเมื่อถึงเวลาส่งตัวฝากขังต่อศาล พนักงานสอบสวนมีการคุมตัวหมวดนัทออกมาพร้อมกับผู้ต้องหารายอื่น ๆ รวม 6 คน ขึ้นรถคุมขังผู้ต้องหา


ทีมข่าวได้สังเกตเห็นว่า ตัวหมวดนัทมีการร้องไห้ เดินก้มหน้า ใช้เสื้อคลุมหัวตลอดการเดินผ่านกลุ่มสื่อมวลชน จนเมื่อขึ้นรถคุมขังผู้ต้องหา ทีมข่าวสังเกตว่าหมวดนัท มีการออกเสียงในลำคอ คล้ายคำว่า "ขอโทษ" ก่อนรถจะเคลื่อนตัวออกไป


ซึ่งพฤติการณ์สรุปคือ เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.66 เวลา 23.30 น. มีเหตุฆาตกรรมโดยใช้อาวุธปืนมีผู้เสียชีวิตอยู่บริเวณบนทางด่วนฉลองรัช (ลาดพร้าวขาออก) แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง


เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิตคือ นายกฤษฏิ์ ศรุวรานนต์ อายุ 30 ปี นักธุรกิจ ผู้ตายนอนหงายเสียชีวิต อยู่บริเวณช่องทางเดินรถที่หนึ่งนับจากซ้าย มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนบริเวณศีรษะ และตามร่างกาย


จากการสอบถามพยานให้การว่า พบรถตู้สีดำยี่ห้อฮุนได รุ่นเฮชวัน ทะเบียนป้ายแดง ก-8888 ชนขอบทางด้านซ้าย และเห็นชายสองคนกำลังชกต่อยกัน จึงได้ลงรถมาเพื่อห้าม และเห็นผู้ต้องหาใช้มือข้างขวาชักอาวุธปืนจากเอวขวายิงมาที่ผู้ตาย จากนั้น ผู้ต้องหาก็ขับรถหนีไป พยานได้เข้าไปพูดคุยกับผู้ตาย


โดยผู้ตายให้พยานโทรหาภรรยา ต่อมาอีก 8 นาที มีรถตู้คันดังกล่าวขับมาทิศทางตรงข้ามกลับจุดเกิดเหตุ จากนั้น ผู้ต้องหาวิ่งลงมาจากรถพร้อมถืออาวุธปืน พยานจึงวิ่งกลับมาที่รถ และขับออกไป


ขณะนั้น มีรถประจำทางมาจอด และเห็นผู้ต้องหาดึงแขนของผู้ตาย และใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายอีกสองนัด แล้ววิ่งขึ้นรถตู้ดังกล่าวขับออกไป


จากการสอบสวนเชื่อว่า ร.ต.ท.ณรงค์วัส ทะชาดา คือผู้ต้องหา พนักงานสอบสวนจึงได้สอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐาน ขออำนาจศาลอาญาอนุมัติหมายจับ


จากนั้น กองสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ไปจับกุมตัวผู้ต้องหาดังกล่าวบริเวณหอพัก ย่านซอยสรณคมน์ ถ.สรณคมน์ เขตดอนเมืองง


เหตุเกิดที่ บริเวณบนทางด่วนฉลองรัช (ลาดพร้าวขาออก) แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กทม. เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 66 เวลา 23.30 น.


การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 289 อนุมาตรา 4 และพระราชบัญญัติปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 4, 7, 8 ทวิ 72, 72 ทวิ พระราชบัญญัติปืนเครื่องกระสุนปืนดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืนฉบับที่สาม พ.ศ.2501 มาตรา 3 พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2522 มาตรา 5, 7 คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับ 44 ลงวันที่ 21 ต.ค.2519 ข้อ 3, 6, 7 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 91 ,371 พระราชบัญญัติเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่6) พ.ศ.2526 มาตรา 4 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 376 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 22) พ.ศ.2558 มาตรา 6


ในชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา


เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบสวนพยานอีก 5 ปาก รอผลตรวจลายนิ้วมือ และประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา ด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงขอหมายขังผู้ต้องหาระหว่างสอบสวนตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค. 66 - 11 ม.ค. 67


ท้ายคำร้อง พนักงานสอบสวน รวมทั้งผู้เสียหายขอคัดค้านหากผู้ต้องหาขอปล่อยชั่วคราว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงหากผู้ต้องหาได้รับการปล่อยชั่วคราวเกรงว่าจะหลบหนี และยากแก่การติดตามตัวมาดำเนินคดีภายหลัง ศาลอาญาพิจารณาคำร้องแล้ว อนุญาตให้ฝากขังได้

-------------




คุณอาจสนใจ

Related News