หนึ่งในข่าวแห่งปี สะเทือนขวัญคนไทยเด็ก 14 ก่อเหตุกราดยิงในห้างฯ พารากอน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก

อีก 1 เหตุการณ์สะเทือนขวัญในปีที่ผ่านมา คือ เยาวชนอายุ 14 ปี ก่อเหตุกราดยิงผู้คนในศูนย์การค้ากลางกรุง ซึ่งวันนี้ล่วงเลยมา 2 เดือนกว่า ยังคงเกิดข้อถกเถียง และการขยายผลในหลายมิติ ทั้งในมุมคดีความ ที่ล่าสุด อัยการได้ตีสำนวนกลับไปยังพนักงานสอบสวน รวมถึงการขยายผลทลายเครือข่ายจำหน่ายอาวุธปืน และเครื่องกระสุนให้เยาวชนรายนี้  ติดตามจากรายงานทีมข่าวอาชญากรรม



ช่วงบ่ายคล้อยเย็น ของวันที่ 3 ตุลาคม 66 ผู้คนในศูนย์การค้าสยามพารากอน บางส่วน ต่างวิ่งกรูออกมา หลังได้ยินเสียงดัง คล้ายปืนหลายนัด ตั้งแต่ชั้น M และไล่เรียงต่อไปจนถึงชั้น 2 และ ชั้น 3 ของห้าง บางรายต้องหลบซ่อนตัวอย่างเงียบๆ ด้วยความไหวหวั่น



ท่ามกลางสถานการณ์ความโกลาหล ก็เริ่มชัดเจนว่า นั่นคือเสียงปืน ที่มาจากผู้ก่อเหตุ ที่เป็นเยาวชน อายุเพียง 14 ปี



พลตำรวจตรี ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล หนึ่งในชุดปฏิบัติการ เล่าย้อนว่า เคสนี้เป็นเหตุการณ์ที่ยาก เพราะเป็นศูนย์การค้า ที่มีคนจำนวนมาก แต่ในที่สุด ก็สามารถระบุพิกัด และผู้ก่อเหตุได้ชัดเจน กระทั่งผ่านไปราว 1 ชั่วโมงกว่า จึงเข้าควบคุมตัวไว้ได้ ภายในร้านค้าชั้น 3



แต่เป็นเรื่องที่น่าเศร้า เพราะมีเหยื่อ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย และเสียชีวิตในเวลาต่อมาอีก 2 ราย รวมถึงบาดเจ็บหลายราย




เหตุการณ์ครั้งนี้ จึงเป็นจิกซอว์ชิ้นแรก ที่ค่อยๆ ถูกขยายผล ไปจับกุมเครือข่ายอาวุธปืน ที่จำหน่ายให้เยาวชนรายนี้



แต่สำหรับทางคดี ที่ผู้ก่อเหตุ เป็นเยาวชน จึงไม่ใช่เรื่องง่ายในการสอบสวน ซึ่งหลังจากจับกุม ก็ถูกส่งไปสอบสวนต่อที่ สน.ปทุมวัน โดยมีจิตแพทย์ นักจิตวิทยา และอัยการร่วมสอบสวน ก่อนแจ้ง 5 ข้อหาในเวลาต่อมา

เยาวชนที่ก่อเหตุ ถูกส่งตัวไปสถาบันกัลยาราชนครินทร์ และต้องรอการประเมินของแพทย์ จึงเพิ่งเข้าสอบปากคำในเวลาต่อมา



นั่นทำให้พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ส่งสำนวน พร้อมแนบเอกสารวินิจฉัยของแพทย์ให้อัยการ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม แต่ล่าสุด อัยการตีสำนวนกลับไปยังพนักงานสอบสวน หลังจากแพทย์เจ้าของไข้ รายงานยืนยันว่าเด็กยังไม่สามารถต่อสู้คดีได้



แต่ประเด็นที่สังคมแคลงใจคือ การฝากขังจะหมดผัดฟ้องในวันที่ 31 ธันวาคมนี้ หากไม่มีการฟ้อง จะต้องปล่อยตัวเด็กกลับไป



ด้านตำรวจ ยืนยันว่า จะเดินหน้าต่อ เพราะคดีมีอายุความ 20 ปี พร้อมทำหนังสือถึงสถาบันกัลยาณ์ฯ ให้รับรักษาตัวต่อ จนกว่าจะวินิจฉัยว่า เยาวชนสามารถต่อสู้คดีได้แล้ว



และจะส่งวิดีโอการสอบปากคำ ให้แพทย์ประเมิน และวินิจฉัยอีกครั้ง เพราะตอนสอบสวน เด็กตอบคำถามได้หมด แต่พอถามถึงคดีอ้าง “จำไม่ได้”



วันนี้ แม้จะผ่านมากว่า 2 เดือน ศูนย์การค้ากลับมาคึกคักเสมือนก่อนหน้า หลายสิ่งอย่างเปลี่ยนแปลง และถูกแก้ไข แต่บางสิ่งยังถูกถกเถียงในวงกว้าง โดยเฉพาะประเด็นข้อกฎหมาย กับพฤติกรรมความรุนแรงในเยาวชนที่เพิ่มขึ้น