อาชญากรรม

ปูนบำเหน็จ 5 ชั้นยศ 'หมวดอี๊ด' ตร.น้ำดีโดนทาสยาแทงดับ - ผญบ.เผยยาบ้าระบาด รัฐอ่อนแอ จนท.ไม่เพียงพอ

โดย nattachat_c

26 ธ.ค. 2566

347 views

วานนี้ (25 ธ.ค. 66) เวลา 17.00 น. ที่ศาลา 2 วัดพระธาตุพนม มีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ให้แก่ ร.ต.ท. อิสราวุฒิ โกพลรัตน์ หรือหมวดอี๊ด รองสารวัตรปราบปราม สภ.ธาตุพนม ที่ถูกคนร้ายที่ป่วยจิตเวชจากการเสพยาบ้า ใช้มีดฟัน และแทง จนเสียชีวิต ขณะจะเข้าระงับเหตุคนร้ายคลุ้มคลั่งทำลายข้าวของ  


โดยพิธีเมื่อเย็นวานนี้ มี พล.ต.ต. ธวัชชัย ถุงเป้า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม เป็นประธานในพิธีรับน้ำหลวงอาบศพ ซึ่งจัดขึ้นอย่างสมเกียรติ มีเพื่อนร่วมงาน ครอบครัว ญาติมิตร และชาวบ้านในพื้นที่ มาร่วมงานจำนวนมาก


โดย พล.ต.ต.ธวัชชัย เป็นตัวแทนมอบพวงหรีดจาก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ คุณนิภาพรรณ สุขวิมล นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ รวมทั้ง พวงหรีดจาก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. และภริยา  


พร้อมชี้แจงสิทธิที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตจะได้รับทุกด้าน เบื้องต้น มีการเสนอปูนบำเหน็จ 5 ชั้นยศ ได้เลื่อนยศเป็นพันตำรวจเอกพิเศษ // เงินชดเชยรวมประมาณ 3.5 ล้านบาท // ให้สิทธิลูกได้รับราชการตำรวจ เมื่อสำเร็จการศึกษา ตามเงื่อนไข  


โดยมีนางมยุรี โกพลรัตน์ อายุ 79 ปี แม่ผู้เสียชีวิต รวมถึง นางกนกนาฏ โกพลรัตน์ อายุ 29 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต และญาติพี่น้อง รับฟังคำชี้แจง


พล.ต.ต. ธวัชชัย ถุงเป้า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า

เหตุการณ์ครั้งนี้ ถือเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ พร้อมยืนยันว่า หมวดอี๊ดได้ผ่านการฝึกยุทธวิธีการเข้าระงับเหตุมาแล้ว แต่ด้วยความสนิทสนมคุ้นเคยกับคนร้าย เพราะเคยเข้าไปดูแลระงับเหตุบ่อยครั้ง จนมั่นใจและเชื่อใจว่า คนร้ายจะไม่ทำร้าย


แต่ครั้งนี้ คนร้ายขาดสติไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ จึงก่อเหตุทำร้ายหมวดอี๊ด  โดยหน่วงานจะนำเรื่องนี้เป็นกรณีศึกษา เพื่อวางมาตรฐานในการปฏิบัติงานต่อไป


ขณะที่ นายเดช (ผู้ก่อเหตุ) เบื้องต้นตรวจร่างกายพบว่า มีการใช้สารเสพติด แต่จะต้องรอผลการตรวจชันสูตรของแพทย์ เพื่อมาประกอบการดำเนินคดี  


สำหรับแนวทางการป้องกันปราบปรามยาเสพติด จะต้องสร้างความร่วมมือกับทุกฝ่าย ทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง อสม. ผู้นำชุมชน ตัวแทนชาวบ้าน ในการคัดกรองกลุ่มเสี่ยงในหมู่บ้านชุมชน ไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก


ในส่วนการชดเชยเยียวยาสำหรับครอบครัวผู้เสียชีวิต จะต้องได้รับการช่วยเหลือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ // ตำรวจภูธรภาค 4 // ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ในการชดเชยเยียวยา เป็นเงินเบื้องต้น 3.5 ล้านบาท  


รวมถึงสิทธิสวัสดิการทุกด้านตามระเบียบ และให้ลูกได้รับสิทธิรับราชการตำรวจเมื่อสำเร็จการศึกษาตามเงื่อนไข ทั้งนี้ ยืนยันว่า จะดูแลเยียวยา สร้างขวัญกำลังใจให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต ให้ได้รับการดูแลอย่างเต็มที่ทุกด้าน


สำหรับพิธีพระราชทางเพลิงศพ จะมีขึ้นในวันที่ 28 ธันวาคมนี้

---------

ด้าน นางกนกนาฏ โกพลรัตน์ ภรรยาของหมวดอี๊ด เปิดเผยว่า


หลังจากหมวดอี๊ดเสียชีวิตลง ครอบครัวก็ต้องขาดเสาหลักไปถึงสองครอบครัว  เพราะหมวดอี๊ดจะดูแลทั้งครอบครัวของตนเอง และครอบครัวของคุณแม่ คือ นางมยุรี โกพลรัตน์  ส่วนลูก ๆ หมวดอี๊ดมีลูกติดจากภรรยาคนแรกที่เสียชีวิต 3 คน และมีลูกกับตนอีก 1 คน เพิ่งจะอายุได้เพียงขวบกว่าเท่านั้น ลูก ๆ ก็ต้องกำพร้าพ่อ และขาดที่พึ่ง เพราะหมวดอี๊ดเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูง คอยดูแลครอบครัวอย่างสม่ำเสมอ  


หลังจากไม่มีหมวดอี๊ดแล้ว ตนก็มืดแปดด้าน ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำอย่างไรต่อไป เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันกะทันหันมากจนตั้งตัวไม่ทัน แต่ก็จะขอสู้ เลี้ยงดูลูก ๆ อย่างดีที่สุด และอยากให้ลงโทษผู้ก่อเหตุให้ถึงขั้นประหารชีวิต

---------

ด้าน นายศุภชัย พ่วงศิริ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 9 บ้านโชคอำนวย ต.อุ่มเหม้า อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เปิดเผยว่


เหตุการณ์นี้ ทำให้สูญเสียนายตำรวจน้ำดี ที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือดูแลชุมชนมาตลอด  เพราะหมวดอี๊ดเป็นตำรวจที่มีความใกล้ชิดกับชาวบ้าน สามารถเรียกใช้ตลอดเวลา


วันเกิดเหตุ ที่ตนได้รับแจ้งจากชาวบ้าน และญาติของนายเดช ว่า คลุ้มคลั่งอาละวาดอีกแล้ว ตนก็ประสานไปยังหมวดอี๊ดเหมือนเช่นเคย และบอกว่ารอเข้าพื้นที่พร้อมกัน แต่หมวดอี๊ดมั่นใจว่า จะสามารถเจรจาเกลี้ยกล่อมได้เหมือนทุกครั้ง แต่คลาดกันไม่ถึง 10 นาที ก็มีคนวิ่งมาบอกว่า คนร้ายวิ่งหนีออกจากบ้านที่เกิดเหตุ ไปขโมยจักรยานยนต์ของชาวบ้านขี่หลบหนีไป


พอตนวิ่งไปดูที่บ้านเกิดเหตุ ก็เห็นหมวดอี๊ดนอนจมกองเลือด เสียชีวิตไปแล้ว คาดว่าคราวนี้ คนร้ายเข้าจู่โจมหมวดอี๊ดอย่างไม่ทันตั้งตัว ซึ่งหากนำกำลังเข้าไปหลายคน อาจไม่เกิดเหตุแบบนี้  


ส่วน นายเดช คนร้ายนั้น ทางญาติเองก็เอือมระอา ถึงขั้นที่พี่สาวเคยแจ้งตำรวจมาจับดำเนินคดี ติดคุกไปแล้ว พอพ้นโทษก็กลับมาเสพอีก พอส่งตัวไปบำบัด ออกมาก็มาเสพอีก จนประสาทหลอน ตนเองในฐานะผู้นำชุมชน ก็ไม่ได้ปล่อยปละละเลย พยายามประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาดูแลคัดกรอง นำตัวไปบำบัด แต่ตัวนายเดชเอง ไม่ยอมเลิกเสพ


ผู้ใหญ่บ้านยังยอมรับว่า ในพื้นที่มียาเสพติด ยาบ้าระบาด แต่มีปัญหาเรื่องความอ่อนแอของเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งเรื่องงบประมาณ กำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ รวมถึงขาดความร่วมมือกับประชาชน ไม่มีความมั่นใจในการแจ้งเบาะแส กังวลว่าเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนพัวพันเกี่ยวข้อง แจ้งเบาะแสไปจะเกิดอันตรายไม่มีใครรับผิดชอบ  


เมื่อมีกรณีคนคลุ้มคลั่งก็ทำได้แค่ระงับเหตุ ตนมองว่า ถ้าหากจะแก้ปัญหาให้ได้ผล จะต้องจัดสรรงบประมาณเพิ่มให้กับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนในการแจ้งเบาะแส  


สำคัญที่สุดจะต้องแก้กฎหมายเพิ่มบทลงโทษ ทั้งผู้ค้า ผู้เสพ ต้องรับโทษหนัก เพราะปัจจุบันลูกหลานเยาวชน เสพทั้งยาบ้า กัญชา กระท่อม เอาผิดไม่ได้ หากทำรุนแรง เจ้าหน้าที่กลายเป็นคนผิด


สำหรับนายตำรวจที่เสียชีวิต อยากให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดูแลสวัสดิการ ทุกด้านโดยเฉพาะครอบครัว ต้องได้รับการดูแลในระยะยาว จนครอบครัวมีความมั่นคง เกี่ยวกับความเป็นอยู่ มีงาน มีอาชีพ ไม่ใช่แค่บูนบำเหน็จ

---------------




รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/M_aQeUGA1pI

คุณอาจสนใจ

Related News