อาชญากรรม

ย้อนรอยมหากาพย์คดีน้องชมพู่ จนถึงวันศาลนัดตัดสิน รวมเวลานานกว่า 3 ปี 7 เดือน

20 ธ.ค. 2566

1.8K views

คดีมหากาพย์ "น้องชมพู่" เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2563 น้องชมพู่ หายไปจากบ้านอย่างปริศนา ในพื้นที่บ้านกกกอก อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งในตอนนั้น ชาวบ้านกกกอกและเจ้าหน้ากว่า 200 ชีวิต ระดมกันออกตามหาทั้งวันทั้งคืน

กระทั่งช่วงเย็นวันที่ 14 พฤษภาคม พบศพน้องชมพู่ ในสภาพเปลือยกาย ในป่าภูเหล็กไฟ เขตอุทยานแห่งชาติภูผายล ห่างจากบ้านน้องชมพู่ ประมาณ 2 กิโลเมตร และบริเวณที่เกิดเหตุพบกางเกงน้องถูกถอดไว้ข้างก้อนหิน และรองเท้าหล่นอยู่ระหว่างทางเดิน

ต่อมาเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2563 ครอบครัวได้ฌาปนกิจศพน้องชมพู่ ที่ป่าช้าบ้านกกกอก โดยแม่น้องชมพู่ ตั้งข้อสังเกตและข้อสงสัยในตัวลุงพล จนมีการท้าสาบานกันเกิดขึ้น ระหว่างพ่อแม่ของน้องชมพู่ กับลุงพล

โดยตัวของลุงพล ในช่วงนั้นได้ออกสื่อยืนยันหนักแน่นว่า ไม่ได้เป็นคนฆ่าล้านเปอร์เซ็นต์ รักน้องชมพู่เหมือนลูกตัวเอง ทำให้ลุงพลได้รับคะแนนสงสาร จนเกิดกระแส ลุงพลฟีเว่อร์ กลายเป็นเซเลบบ้านกกกอก มีงานเข้ารัวๆ ทั้งพรีเซ็นเตอร์ และงานร้องเพลง

เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดี ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงชาวบ้าน บ้านกกกอกจำนวนหนึ่งทำการสอบปากคำ รวมทั้งเข้าเครื่องจับเท็จ แต่ก็ยังไม่พบใครมีพิรุธ

ขณะที่ผลชันสูตรศพอย่างละเอียด ระบุว่า ไม่พบร่องรอยข่มขืน, ฆาตกรรม และทำร้ายร่างกาย กระเพาะไม่มีอาหารหลงเหลืออยู่ มีเพียงของเหลวเหลืออยู่ 10 มิลลิลิตร ขณะที่สมอง ไม่พบความผิดปกติที่เกิดจากการถูกทำร้าย กะโหลกศีรษะไม่พบการแตกร้าว คอไม่หัก ไม่มีรอยฟกช้ำ สาเหตุที่น้องชมพู่เสียชีวิตคือ ขาดอาหารและน้ำ จนเสียชีวิต

ต่อมาตำรวจพบเส้นขน 3 เส้น อยู่ในจุดเกิดเหตุ หลังตรวจดีเอ็นเอ สามารถชี้ชัดได้ว่าใครที่อยู่ใกล้ชิดกับน้องชมพู่ จนวันที่ 1 มิถุนายน 2564 ตำรวจออกหมายจับ ลุงพล ซึ่งแนวทางการสืบสวนของตำรวจ

สำหรับแนวทางการสืบสวนของตำรวจ จนสามารถออกหมายจับ ลุงพล และป้าแต๋น ได้ ตำรวจมีหลักฐานอะไรบ้าง

วันที่ 1 ตุลาคม 2563 หลังการเสียชีวิตของชมพู่ได้ 5 เดือน ตำรวจสรุปผลการสอบสวนได้ว่า "น้องชมพู หายไปช่วงเวลาประมาณ 9 โมง 11 นาที ถึง 9 โมง 49 นาที หรืออยู่ในช่วง 38 นาที หลังดูคลิปวิดีโอในเฟซบุ๊ก

ส่วนเวลาการเสียชีวิตน่าจะอยู่ที่บ่าย 2 โมงครึ่งของวันที่ 12 พฤษภาคม ถึง บ่าย 2 โมงครึ่งของวันที่ 13 พฤษภาคม แต่สาเหตุการเสียชีวิตไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากไม่มีบาดแผลที่ทำให้เสียชีวิต น่าจะเสียชีวิตจากการขาดน้ำ เเละอาหาร

และในจุดที่พบศพตำรวจยืนยันว่า "น้องชมพู่" ไม่สามารถเดินขึ้นไปบนจุดพบศพบนภูเหล็กไฟได้ด้วยตนเอง โดยมีเหตุผลสนับสนุน 8 ข้อ


1. เส้นทางมีความชันมากกว่า 60 องศา ยากลำบากเกินความสามารถของน้องชมพู่

2. พลังงานจากอาหารมื้อสุดท้ายที่น้องชมพู่กินไปไม่เพียงพอต่อการเดินไปบนจุดพบศพ

3. ประสบการณ์ชาวบ้านยืนยันว่าเด็ก 3 ขวบ จะปีนป่ายไปถึงได้แค่ชั้นที่ 2 ของภูเหล็กไฟเท่านั้น

4. ศึกษาการหลงป่า ของ นางทิน เชื้อคมตา ชาวบ้านกกตูม ชาวบ้านสามารถค้นหาเจอภายในคืนเดียว

5. แพทย์ผู้ชันสูตรและกุมารแพทย์ ยืนยันว่า พัฒนาการของเด็กอายุ 3 ขวบ ไม่สามารถที่จะเดินขึ้นไปเองได้

6. สภาพศพที่เปลือยกาย พ่อแม่ของน้องยืนยันว่าน้องชมพู่ไม่สามารถถอดเสื้อเองได้

7. พบเส้นผมน้องชมพู่ถูกตัดด้วยมีดในที่เกิดเหตุ เชื่อได้ว่าเป็นการกระทำของบุคคลอื่น

8. น้องชมพู่ กลัวที่สูง และกลัวป่า ที่ผ่านมาของน้องชมพูไม่เคยไปในป่าหลังบ้านเลยสักครั้ง

จากเหตุผลทั้งหมดจึงเชื่อว่ามีผู้หนึ่งผู้ใดเป็นผู้พาน้องชมพู่ไป และทำให้น้องถึงแก่ความตาย ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมซึ่งผู้กระทำผิดนั้น จะต้องมีความผิดฐาน "พรากเด็กและกักขังหน่วงเหนียว เป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต , ซ่อนเร้น เคลื่อนย้ายทำลาย และอำพรางศพ"

แท็กที่เกี่ยวข้อง  คดีน้องชมพู่ ,ลุงพล ,ป้าแต๋น

คุณอาจสนใจ

Related News