ป้าสา พร้อมน้อมรับหากตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกระทำความผิด เหตุนิสิตสาว ป.เอก พลัดตกตึก

ความคืบหน้ากรณีนักศึกษาปริญญาเอก พลัดตกอะพาร์ตเมนต์ เสียชีวิต เพราะตกใจที่มีชายฉกรรจ์บุกมาทุบประตูห้องแล้วโวยวายช่วงตี 4 ของวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา

ทีมข่าวช่อง 3 ลงพื้นที่อะพาร์ตเมนต์ที่เกิดเหตุอีกครั้ง ภายในซอยลาดปลาเค้า 3 พบกับป้าสา ผู้ดูแลอะพาร์ตเมนต์ แต่ครั้งนี้ ป้าสา ไม่อนุญาตให้บันทึกภาพหรือสัมภาษณ์ แต่ยอมคุยกับทีมข่าว บอกว่า ขอน้อมรับไม่ว่าจะผิดหรือถูกกับเหตุการณ์ที่น้องนักศึกษาปริญญาเอก พลัดตกตึก และพร้อมให้ความร่วมมือกับตำรวจและบุคคลที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เมื่อวานตำรวจเชิญไปให้ปากคำรวมทั้งพยานบุคคลอื่น เพื่อเพิ่มคำให้การในรายละเอียดถึงพฤติกรรมของคู่กรณีในการพิจารณาสำนวนคดีของตำรวจ ส่วนจะมีการตั้งข้อกล่าวหาป้าสา ร่วมกระทำความผิดด้วยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนพิจารณา แต่ป้าสา น้อมรับในดุลยพินิจของตำรวจทั้งหมด ตอนนี้จิตใจย่ำแย่มาก

ทีมข่าวได้พูดคุยกับผู้ที่อาศัยในอะพาร์ตเมนต์ ให้ข้อมูลว่า วันเกิดเหตุรถจักรยานยนต์คันที่มาจอดทับที่ ไม่ได้เป็นรถจักรยานยนต์ของน้องที่เสียชีวิต แต่คาดว่าการสื่อสารระหว่างคู่กรณีกับแม่บ้าน ทำให้คู่กรณีเข้าใจผิด คิดว่าเป็นรถของน้อง จึงได้ขึ้นไปเคาะประตูห้องจนเกิดเหตุสลดขึ้น ที่ผ่านมาคู่กรณีมักมีปัญหาบ่อยครั้งกับผู้เช่าคนอื่น ประเด็นเรื่องการจอดรถทับที่

ขณะที่ทีมข่าว ได้ข้อมูลจากหญิงสาวคนหนึ่ง ที่พักในอะพาร์ตเมนต์ ระบุว่า สามีของเธอเคยมีปัญหากับผู้ก่อเหตุ หลังนำรถมาจอดไว้ใต้หอพัก แล้วมีนกมาขี้ใส่รถ จึงลากสายยางมาล้าง ปรากฏว่าคนก่อเหตุมาเห็น ก็โวยวายว่าใช้น้ำได้ไง น้ำส่วนกลางห้ามใช้ และครั้งไหนที่สามีไปจอดรถตรงที่ผู้ก่อเหตุมักจะจอดเป็นประจำ ก็จะมีปากเสียงกัน ตะโกนท้าทายหาเรื่อง และจะถูกย้ายรถออกมากลางถนน หลังจากนั้นก็ปะทะกันเรื่องรถมาตลอด

ในวันที่เกิดเหตุ คิดว่าคนก่อเหตุคงจะเข้าผิดว่าเป็นรถของสามีเธอ จึงตั้งใจจะขึ้นไปหาเรื่อง แต่ไปเคาะผิดห้อง เพราะถ้าหากฟังในคลิปเสียงดีๆ จะมีการพูดถึงเรื่องรถและเรื่องน้ำประปา และในวันที่เกิดเหตุ รถของเธอโดนทุบไฟท้ายกับไฟเลี้ยว ตอนแรกคิดว่าเป็นอุบัติเหตุจากร่างของผู้เสียชีวิตตกหล่นมาทับ แต่มาทราบภายหลังว่า คนก่อเหตุเป็นคนทุบตีและถีบรถ

ทั้งนี้มีข้อมูลว่าห้องผู้เสียชีวิต อยู่ชั้น 6  ผู้ก่อเหตุพักอยู่ชั้น 2 ส่วนคู่กรณีที่เป็นเจ้าของรถที่ไปจอดทับที่ อยู่ชั้น 7 คาดว่าผู้ก่อเหตุไปเคาะผิดห้อง เลยเกิดเหตุสลด

มีรายงานว่า ขณะนี้ชุดทำงานจะมีการประชุมกันในช่วงบ่ายวันนี้ หลังจากได้มีการเรียกป้าสา ซึ่งเป็นผู้ดูแลอะพาร์ตเมนต์ รวมถึงเจ้าของรถจักรยานยนต์ ที่ผู้ก่อเหตุเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต มาสอบปากคำเพิ่ม โดยประเด็นสำคัญคือ จะมาดูพฤติกรรมผู้ก่อเหตุว่าการบุกเข้าไปเคาะห้อง และมีการใช้ถ้อยคำหยาบคาย เป็นการกระทำที่จะทำให้คนปกติ เกิดความหวาดกลัว จนต้องพยามหนีออกจากห้อง เพื่อเอาชีวิตรอดหรือไม่

ซึ่งนอกจากการสอบปากคำพยานแล้ว จะต้องนำเอาวงจรปิดในวันเกิดเหตุ มาพิจารณาร่วมกันว่า ผู้ก่อเหตุกระทำการที่รุนแรงในลักษณะข่มขู่ หรืออาฆาตมาดร้ายหรือไม่ โดยหากได้มูลพฤติกรรมที่ชัดเจนแล้ว ก็จะนำเอามาประมวลเพื่อพิจารณาแจ้งข้อหาเพิ่มต่อไป

ทั้งนี้ชุดสืบสวนได้มีการพูดคุยกับผู้ก่อเหตุตลอด ยืนยันว่าผู้ก่อเหตุไม่มีการหลบหนีอย่างแน่นอน และตัวผู้ก่อเหตุก็รับปากว่า หากตำรวจต้องการสอบปากคำ ก็พร้อมให้ความร่วมมือ