อาชญากรรม
แม่เด็ก ร้องโรงพยาบาลให้ยาลูกผิด ทำให้ปาก-คอไหม้ อาการสาหัส
โดย nutda_t
8 ธ.ค. 2566
3.8K views
จากกรณีที่ เพจมูลนิธิเป็นหนึ่ง เปิดเผยข้อมูลว่าได้รับการร้องทุกข์ขอให้เข้าช่วยเหลือกรณีที่เด็กชายวัย 1 ขวบ 4 เดือน ประสบอุบัติเหตุลื่นล้มหัวฟาดพื้นจนได้รับบาดเจ็บ และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ ก่อนที่ทางพยาบาลจะมีการให้ยาผิด จนทำให้เด็กชาย มีแผลพุพองตามร่างกายและต้องเข้ารับการรักษาในห้องฉุกเฉิน ซึ่งได้มีการเคลื่อนย้ายเด็กชายรายนี้ มารักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดี
โดยในช่วงสายวันนี้ นางสาวชลิดา พะละมาตย์ มูลนิธิเป็นหนึ่ง ได้เดินทางมาพร้อมกับ มารดาของเด็กชาย โดย นางสาวสุพัตรา เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ลูกชาย ประสบอุบัติเหตุล้มได้รับบาดเจ็บตามร่างกายและศีรษะ ในตอนแรกน้องไม่ได้หมดสติและยังคงร้องด้วยความเจ็บปวดจากบาดแผลที่เกิดจากการหกล้ม ตนเองจึงพาลูกชายเข้าไปรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ ช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. ของวานนี้ โดยเมื่อไปถึงได้มีแพทย์พยาบาลเข้ามาดูแล และมีการเขียนใบสั่งยานอนหลับให้ทางญาติของตนเองไปรับที่ห้องยาเบอร์ 5 โดยทีมแพทย์แจ้งว่ายาดังกล่าวเป็นยานอนหลับ เพื่อจะใช้ให้กับลูกชายตนเองตอนที่จะถึงโรงพยาบาลปลายทาง ซึ่งทางโรงพยาบาล ได้ประสานเพื่อส่งต่อให้ไปทำการเอกซเรย์ร่างกายของลูกชาย โดยให้เหตุผลว่าเพื่อให้ลูกชายผ่อนคลายและหลับจะได้ง่าย ต่อการตรวจและรักษา
ซึ่งเมื่อเดินทางจนถึงโรงพยาบาลที่ 2 เวลาประมาณ 18.00 น. ตนเองก็ได้ให้ยากับลูก ซึ่งยาที่ได้มาเป็นลักษณะสลิงความจุกระบอกละ 5 ซีซี รวมกัน 10 ซีซี โดยเมื่อให้ยาลูกในตอนแรก ได้ประมาณ 2 ซีซี ลูกชายก็เริ่มมีอาการชักและสำลัก จนทำให้ตัวยากระเด็นมาถูกแขนของตนเอง และตนเองรู้สึกแสบร้อนคล้ายถูกกรด แต่เจ้าหน้าที่ของทางโรงพยาบาลที่ขึ้นรถมาด้วยได้บอกว่า ให้ตนเองพยายามให้ยาให้ครบทั้งสองสลิง ซึ่งสลิงที่สองเป็นสลิงที่บรรจุน้ำเปล่า เพื่อใช้ในการล้างคอ แต่เมื่อตนเองฉีดสลิงที่สองเข้าสู่ปากลูก ก็เริ่มมีอาการทุรนทุรายหนักกว่าเดิม และเริ่มมีอาการผิดปกติ จึงได้เคลื่อนย้ายลูกชายตนเองเข้าไปในโรงพยาบาลที่ 2 และเริ่มรักษาจนนำไปสู่การใส่เครื่องช่วยหายใจ เพราะลูกชายเริ่มมีอาการคล้ายหายใจไม่ออก และมีการรักษาดูอาการมาตลอดคืนที่ผ่านมา ช่วงเช้ามืดมีการประสานส่งต่อมารักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดี
ซึ่งตนเองเดินทางมาถึงที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ขณะนี้ทราบว่าคณะแพทย์อยู่ระหว่างการเตรียมพาลูกชายเข้าห้องผ่าตัด เพื่อทำการส่องกล้องตรวจสอบอาการบาดเจ็บก่อน จึงจะมีการวางแผนในการรักษาต่อได้
ตนเองยังได้รับการติดต่อจากทางโรงพยาบาลที่รักษาครั้งแรก โดยมีการยอมรับสารภาพกับตนเองว่า ยาที่ให้กับทางญาติของตนเองมาให้กับลูกชาย เป็นยาที่ใช้ภายนอก เป็นยาที่ใช้รักษากัดเนื้องอกผิวหนัง (กรดไตรคลอโรอะซิติก) ซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรด ไม่สามารถใช้เป็นยารักษาภายในได้ ซึ่งทางแพทย์ที่เป็นผู้รักษาลูกชายตนเอง มีการสั่งยานอนหลับ แต่เภสัชกรที่ทำหน้าที่เบิกจ่ายยาเกิดความเข้าใจผิด หยิบยาผิดขวด เพราะมีลักษณะขวดที่คล้ายคลึงกันมาให้ โดยสลิงบรรจุยาถูกบรรจุมาในซองซิปใส ไม่มีแผ่นป้ายชื่อลูกหรือชื่อแพทย์ที่เป็นเจ้าของไข้แต่อย่างใด และทางโรงพยาบาลยังมีการแบ่งรับแบ่งสู้ อ้างว่ายังต้องตรวจสอบในรายละเอียดเพิ่มเติม และยังไม่ได้มีการตกลงหรือพูดถึงในประเด็นการเยียวยาใดๆ
ตนเอง ยืนยันว่าจะดำเนินการทางกฎหมายกับทางโรงพยาบาลให้ถึงที่สุด เพราะได้มีการเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรพระประแดง ไปแล้ว ในช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา โดยหากทางโรงพยาบาลจะติดต่อมาเจรจาเยียวยาไกล่เกลี่ยเพื่อให้ยุติ ตนเองก็จะไม่ยอมอย่างเด็ดขาด
พร้อมยังอยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ว่า หากเป็นคนในครอบครัวจะรู้สึกอย่างไร เพราะตนเองขณะนี้เหมือนคนล้มทั้งยืน ยังไม่สามารถทำใจได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกชาย เพราะลูกชายมีอายุเพียง 1 ปี 4 เดือน ยังไม่รู้ว่าภายในจะได้รับบาดเจ็บเสียหายมากน้อยแค่ไหน และถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการพูดถึงการช่วยเหลือเยียวยาในการรักษาลูกชายตนเองแต่อย่างใด
ด้าน นางสาวชลิดา ระบุว่า เบื้องต้นตนเองได้ประสานกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งในวันนี้จะมีการมอบหมายให้ทางเลขานุการรัฐมนตรี มาดำเนินการรับเรื่องร้องทุกข์ และทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นนี้อย่างเร่งด่วน รวมถึงหาทางช่วยเหลือเยียวยากับทางผู้เสียหายด้วย
แท็กที่เกี่ยวข้อง จ่ายยาผิด