ทนายความต่างชาติซื้อกามเด็กแจงกรณีชาวเยอรมันถูกจับกุ อ้างจ่ายสินบน 1 ล้านไม่เป็นความจริง

ทนายความต่างชาติซื้อกามเด็กแจงกรณีชาวเยอรมันถูกจับกุม อ้างจ่ายสินบนเจ้าหน้าที่รัฐ 1 ล้านบาท กลับประเทศ ไม่เป็นความจริง

จากกรณีที่มีข่าวปรากฏใน social เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 66 โดยมีการลงข่าวว่า สื่อเยอรมัน ทำสกู๊ปข่าวเกี่ยวกับคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กในไทย แต่มีติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐ 1 ล้าน เพื่อหนีกลับประเทศ

ล่าสุด เมื่อเวลา 22.00 น.นายปริญญา พรมศักดิ์ ทนายความของต่างชาติชื้อกามเด็ก ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับกรณีนี้ว่า ในการติดสินบนเจ้าหน้าที่ของไทยที่ทางสื่อนอก ได้เผยแพร่ออกไปนั้น ไม่เป็นความจริง โดยทางต่างชาติอ้างว่าต้องกลับไปประชุมเกี่ยวกับธุรกิจเสื้อผ้ากับผู้ถือหุ้น รวมไปถึงเงินในบัญชีต่างประเทศได้ถูกอายัดไว้ต้องไปแสดงใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตน จึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดพัทยาเพื่อขอเดินทางเป็นการชั่วคราว

โดยการยื่นคำร้องครั้งนี้ศาลจังหวัดพัทยา ได้มีการเรียกเงินประกันตัวเพิ่ม และจากคลิปที่มีการพูดถึงเงิน 1 ล้านบาทนั้น หน้าจะเป็นเงินจำนวนเดียวกันกับที่มาใช้จ่ายให้กับทีมทนายความ เพราะส่วนหนึ่งนำไปวางเป็นเงินค่าประกันตัวตามที่ศาลได้กำหนดไว้ และอีกส่วนหนึ่งนำมาเป็นค่าใช้จ่ายของทีมทนายความ ขอยืนยันว่าเงิน 1 ล้านบาท ที่กล่าวอ้างตามคลิปว่าจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐนั้นไม่ถูกต้อง ไม่เป็นความจริงแน่นอน ซึ่งการโพสต์การให้ข้อมูลของสื่อนอกนั้นทำให้ประเทศไทย และเจ้าหน้าที่รัฐเสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างมาก จึงจำเป็นต้องออกมาชี้แจงในวันนี้

ซึ่งเหตุนี้เกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 10 ก.ย.65 เวลาประมาณ 23.45 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ได้บูรณาการร่วมกันเข้าจับกุมร้านบาร์แห่งหนึ่งใน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยทำการจับกุม น.ส.อรทนา พร้อมพวก 2 ราย ในความผิดฐาน ค้ามนุษย์ฯ และได้ขยายผลรวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดพัทยาเพื่อออกหมายจับ นายเจน อายุ 55 ปี สัญชาติเยอรมัน ซึ่งศาลจังหวัดพัทยาอนุมัติหมายจับ ที่ จ.430/65 ลงวันที่ 24 ก.ย.65 ในความผิดฐาน กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามและกระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้บริเวณภายในห้องพักของโรงแรมแห่งหนึ่งริม ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

จากนั้นในวันที่ 26 ก.ย. 65 ได้นำตัวผู้ต้องหายื่นคำร้องขอฝากขังต่อศาลจังหวัดพัทยา ซึ่งศาลอนุญาตไว้ตามคำร้องที่ ฝ.512/65 ลง 26 ก.ย. 65 ระหว่างนั้นผู้ต้องหาถูกฝากขังต่อศาลจังหวัดพัทยาได้ยื่นคำร้องขอประกันตัว และได้รับการประกันตัวในชั้นศาล รวมถึงได้รับอนุญาตให้เดินทางออกราชอาณาจักร ตามหนังสือของศาลจังหวัดพัทยาที่ ศย.302.012/11324 ลง 7 พ.ย.66 ซึ่งส่งไปยังสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ในวันที่ 7 พ.ย.65 และผู้ต้องหาได้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรไป ที่สนามบินสุวรรณภูมิ มีกำหนดเงื่อนไข ให้กลับมารายงานตัวในวันที่ 14 พ.ย.65 โดยมีการวางหลักประกันตัวเป็นเงินสดจำนวน 500,000 บาท แต่เมื่อถึงกำหนดนัดรายงานตัว ผู้ต้องหาไม่มาตามกำหนดนัด

ในส่วนของการดำเนินการกับทางร้านฯ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้มีการดำเนินการสั่งปิดกิจการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว