อาชญากรรม
กลุ่มทนายใจดี แจงถูกโยงคดี "แป้ง นาโหนด" ฝากถึงเจ้าตัวว่าพร้อมที่จะช่วย-พาไปมอบตัว
25 พ.ย. 2566
313 views
วันที่ 25 พ.ย. 66 ที่สำนักงานกลุ่มทนายใจดี ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทาง ว่าที่ร้อยตรี ชัชวาลย์ บำรุงวงศ์ ได้เปิดโต๊ะแถลงข่าวกรณีที่อาจจะมีชื่อของตนพาดพิงกับคดีเสี่ยแป้ง นั้น
ว่าที่ร้อยตรี ชัชวาลย์ กล่าวว่า ย้อนกลับไปเมื่อปี 64 ตนเริ่มได้ยินชื่อของเสี่ยแป้ง ตามช่องทางสื่อต่างๆ และตามข่าว แต่ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว และมารู้จักราวปี 65 หลังจากที่มีชาวบ้านใน จ.พัทลุง ร้องเรียนเข้ามายังกลุ่มทนายใจดี ว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มหนึ่งได้มีการบุกรุกเข้าไปในที่ดินของเสี่ยแป้ง ในพื้นที่ อ.เมืองพัทลุง โดยไม่มีหมายค้น และมีการใช้อาวุธปืนสงครามเข้าไปข่มขู่พนักงาน และลูกจ้างที่อยู่ในบ้าน พร้อมกับเรียกเงินในคดียาเสพติด
หลังจากนั้นตนและทีมงานก็เลยเดินทางลงพื้นที่ จ.พัทลุง เพื่อเข้าไปตรวจสอบว่า มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ซึ่งถ้าจำไม่ผิดเหตุการณ์ในครั้งนั้น มีชาวบ้านรวมตัวกันกว่า 100 คน เนื่องจากไม่พอใจการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ
ก่อนที่ทางกลุ่มทนายใจดี จะดำเนินการพาชาวบ้านเข้าไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองพัทลุง กระทั่งตนได้มีโอกาสรู้จักกับเสี่ยแป้ง และมีการช่วยเหลือกันในทางคดี ซึ่งมีทนายหลายคนเข้าไปช่วยเหลือ และให้คำแนะนำในคดีนั้น จนภายหลังต่อมาทราบว่า ในคดีนั้นอาจจะมีการเข้าใจผิดกันในบางอย่าง หรืออาจจะมีการขอโทษกันอะไรสักอย่างแล้ว และมีการถอนคำร้องทุกข์คดีดังกล่าวในเวลาต่อมา
ซึ่งหลังจากนั้นตนก็ไม่ได้เจอเสี่ยแป้ง เป็นการส่วนตัว แต่ก็อาจจะมีพบกันบ้างเวลาเดินทางไปทำคดีความต่างๆ ที่ จ.พัทลุง และแวะเจอ แวะคุย อาจทานข้าวกันบ้างเล็กน้อย ส่วนตำรวจที่เป็นคู่กรณีของเสี่ยแป้ง ในคดีนั้น คือ พ.ต.ท.วิรัช นั้น ตนไม่เคยเจอ เละไม่เคยเห็นหน้ากันกับนายตำรวจนายนั้น แค่ได้ยินแต่ชื่อ
ว่าที่ร้อยตรี ชัชวาลย์ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นใคร ถ้ามีพฤติกรรมอย่างที่ว่า ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการ ซึ่งตอนนั้นได้แจ้งความตำรวจนายนั้นกับพวก เพราะ การกระทำในวันดังกล่าวนั้นไปกันหลายคนพร้อมอาวุธปืนสงคราม และไปโดยไม่มีหมายค้น และตอนหลังนั้นได้มีทีมงานที่ร่วมตรวจสอบมาบอกว่า นายตำรวจนายนั้นเป็นตำรวจฝีมือดีในแง่ของการปราบปราม และมีผลงานการจับกุม และมีผู้ต้องหาที่ถูกลงโทษในคดีเกี่ยวกับยาเสพติดมากมาย
แต่ในส่วนของมุมคดีนี้ ตนมองว่า ถ้าหากเจ้าหน้าที่รัฐกระทำกับประชาชนอย่างนี้ หรือลุแก่อำนาจ ก็ถือว่า เข้าข่ายความผิด และทางเราก็ต้องเอาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งจะผิดหรือไม่ผิดอย่างไร ก็ต้องพิสูจน์กันต่อไป
ว่าที่ร้อยตรี ชัชวาล กล่าวต่อมา ส่วนเรื่องหนังสือที่มีนักโทษในคดียาเสพติด ร่วมกันลงชื่อ และส่งหนังสือขอความอนุเคราะห์ ความเป็นธรรม มาให้ตนนั้น ยังไม่มีความคืบหน้า และหนังสือนี้ส่งมาตั้งแต่ปี 65 แล้ว และหลังจากนั้นตนเองก็ได้เข้าไปเยี่ยมนักโทษที่เขียนหนังสือฉบับนี้ พร้อมกับเพื่อนนักโทษอีกหลายคน เพื่อให้ยืนยันว่า รายชื่อ และข้อความในหนังสือนั้น เป็นความจริง และคนที่ร่วมลงชื่อก็มีตัวตนอยู่จริง
ซึ่งจากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องจริง และได้ส่งหนังสือไปยัง 10 หน่วยงาน แต่ มีเพียงแค่ 2 หน่วยงาน ที่ทำหนังสือตอบรับมา ซึ่ง 2 หน่วยงานนั้นก็คือ สำนักนายกรัฐมนตรี และ สำนักงาน ป.ป.ท. เท่านั้น
ทั้งนี้ ว่าที่ร้อยตรี ชัชวาลย์ และกลุ่มทนายความใจดี ยังฝากข้อความถึงเสี่ยแป้ง ว่า ตั้งแต่เสี่ยแป้ง หนีออกจากเรือนจำมา ตนก็รอคอยว่า เสี่ยแป้งจะติดต่อมา หรือจะโทรมาหาหรือไม่ แต่ก็ไม่มีการติดต่อมา ซึ่งตนในฐานะนักกฎหมาย ที่เสี่ยแป้ง บอกว่า ความยุติธรรมไม่มีจริง อาจจะเป็นมุมมองของเขาเท่านั้น
แต่ตนในฐานะกลุ่มทนายใจดี และนักกฎหมาย ขอให้ความมั่นใจว่า ความยุติธรรมมีอยู่จริงๆ และขอให้เสี่ยแป้ง กลับมาเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรม หากมีหลักฐานอะไร หรือชี้ช่องอะไรมา ทางตนก็พร้อมที่จะช่วยเหลือเต็มที่ และหวังว่า ถ้าเขามีโอกาสกลับตัวกลับใจที่จะเข้ามาสู้คดี ก็ให้ติดต่อมา และตนก็จะพาเข้าไปมอบตัว
ส่วนวิธีการมอบตัวนั้น ก็อาจจะไม่เป็นแบบทั่วไป ซึ่งวิธีการมอบตัวนั้นมีหลายวิธี และจะเป็นการมอบตัวที่ปลอดภัยกับเขามากที่สุด เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และรับว่า ทุกคดี ถ้าหากเขาอยากให้เราช่วย เราก็จะช่วยเขาให้ถึงที่สุด
แท็กที่เกี่ยวข้อง อาชญากรรม ,แป้งนาโหนด ,นักโทษหลบหนี