จับแล้ว! ‘ยีนส์’ มือปืนยิง ‘น้องภู่’ นศ.เทคนิคดุสิต อ้างป้องกันตัว "ถ้าผมไม่ทำ ผมกับเพื่อนก็ตาย"

จับแล้ว ‘ยีนส์ ไทรน้อย’ มือปืนยิง ‘น้องภู่’ นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคดุสิต อ้างป้องกันตัวจากกลุ่มผู้เสียชีวิตเนื่องจากกลุ่มของตนเองถูกทำร้ายก่อน ระบุ “ถ้าผมไม่ทำผมกับเพื่อนก็ตาย”

กรณีนายพงศ์ธีระ (สงวนนามสกุล) หรือน้องภู่ อายุ 16 ปี นักศึกษาเทคนิคดุสิต ปวช.ปี 2 ถูกกลุ่มคนร้าย 3 คน ขี่รถจักรยานยนต์ติดตามถาม “เรียนที่ไหน” ก่อนควักปืนยิงเสียชีวิต บริเวณทางเท้าตรงข้ามโรงเรียนอนุบาลกรแก้ว ถนนระนอง 2 เขตดุสิต กรุงเทพฯ

คืบหน้าวานนี้ (21 พ.ย.) เวลา 14.00 น. พนักงานสอบสวนได้ทำการออกหมายจับและจับกุมได้แล้ว 1 ราย คือนายอัครพล ศิริเมฆานนท์ หรือยีนส์ อายุ 22 ปี (คนขี่ จยย.คนเดียวในวงจรปิด/มือยิง) ความผิดฐาน “ร่วมกันฆ่าผู้อื่น,พยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,พาอาวุธปืนติดตัวไปในตัวเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต,ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน และพกพาอาวุธ(อาวุธปืนและมีด)ไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย หรือโดยไม่มีเหตุสมควร

โดยสามารถจับกุมที่บริเวณซอยจรัญสนิทวงศ์ 3 แยก 5 สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ยิงนายพงษ์ภีระ สุขโคตร หรือน้องภู่ เสียชีวิต เบื้องต้นให้การว่าตนเองป้องกันตัวจากกลุ่มของผู้เสียชีวิต เนื่องจากกลุ่มของตนเองถูกทำร้ายก่อน

จากนั้นชุดสืบสวนตำรวจนครบาล ได้คุมตัวนายอัครพล หรือนายยีนส์ มาตรวจค้นบ้านพัก ในพื้นที่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี จากนั้นได้ควบคุมตัวไปสอบปากคำที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน บช.น. โดยมี พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.ร่วมสอบปากคำ/เจ้าหน้าที่ พฐ.มาเก็บลายนิ้วมือ ดีเอ็นเอประกอบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ / จากนั้นได้นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต เพื่อดำเนินคดีต่อไป

 ภายหลังชุดสืบสวนตำรวจนครบาล ได้สอบปากคำนายอัครพล ศิริเมฆานนท์ หรือยีนส์ อายุ 22 ปี นานหลายชั่วโมง จากนั้นชุดสืบสวนได้คุมตัวนายยีนต์ ออกจากห้องสอบสวนเพื่อมาเข้าห้องน้ำ ระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงมูลเหตุจูงใจ อยากขอโทษครอบครัวผู้ตายหรือไม่ แต่นายยีนส์ กล่าวเพียงว่า “ผมไม่อยากขอโทษ ถ้าผมไม่ทำผมกับเพื่อนก็ตาย”

หลังจากที่ตำรวจคุมตัวออกมาจากห้องน้ำ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามอีกครั้ง นายีนส์ ระบุว่าอยากขอโทษแม่ของน้องภู่ ผู้เสียชีวิต เมื่อถามว่าทำไมถึงลงมือก่อเหตุ นายยีนส์ ระบุว่า ผู้ตายเป็นฝ่ายแทงเพื่อนของตนเองก่อน จึงได้ชักปืนออกมายิงก่อนพากันหลบหนีไป


ขณะที่ทีมข่าวลงพื้นที่บ้านของนายยีนส์ ที่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ทราบว่าตำรวจได้เชิญตัวแม่ของนายยีนส์ ไปสอบปากคำ /สอบถามเพื่อนบ้าน เผยว่า บ้านหลังดังกล่าวได้ย้ายอาศัยมาอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ได้ประมาณ 3 ปีแล้ว เท่าที่ตนรู้จักประกอบกับเคยพูดคุยกับน้องยีนส์ (ผู้ก่อเหตุ) มานั้น เขาเป็นลูกชายคนเดียวของบ้าน เป็นเด็กดี ขยันทำมาหากิน หาเงินส่งตัวเองเรียน (อาชีพทำ LINE MAN และลูกจ้างต้มน้ำกระท่อมขาย)

นายยีนส์ ไม่ค่อยพูดคุยสุงสิงกับคนในหมู่บ้านและเป็นคนรักเพื่อนมาก ระยะหลังๆ ประมาณ 1 - 2 อาทิตย์ ตนไม่เคยเห็นน้องยีนส์ กลับมาที่บ้านเลย /หลังจากที่แม่ของน้องยีนส์ ทราบข่าวว่าลูกชายไปยิงนักศึกษาเทคนิคดุสิตเสียชีวิตก็ร้องไห้และกรีดร้องออกมา

---------------------------------------------

ผบช.น. ระบุ ‘ยีนส์ ไทรน้อย’ เป็นมือยิง ‘น้องภู่’ เสียชีวิต สารภาพดื่มน้ำกระท่อมขี่รถ จยย.มาหาเรื่องกลุ่มผู้ตาย อ้างถูกฝ่ายผู้ตายจะใช้มีดแทงก่อน จึงต่อสู้ชุลมุนชักปืนยิง คนร้ายทั้ง 3 คน มีปืนทุกคน อีก 2 คนจะจับตัวได้ไม่ช้านี้

 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยภายหลังจับกุมนายอัครพล ศิริเมฆานนท์ อายุ 22 ปี มือปืนที่ก่อเหตุยิงน้องภู่ อายุ 16 ปี นักศึกษาเทคนิคดุสิต ปวช.ปี 2 เสียชีวิต  โดยนายยีนส์ ผู้ต้องหารับสารภาพว่า เป็นผู้ใช้อาวุธปืนยิงน้องภู่ อ้างว่าก่อนเกิดเหตุตนเองพร้อมด้วยนาย โอมและนายอ๊อฟ ผู้ก่อเหตุอีกสองคน ได้ดื่มน้ำกระท่อมกันมา

จากนั้นขับขี่รถจักรยานยนต์มา 2 คัน นายยีนส์ มือยิงขับขี่รถจักรยานยนต์มาเพียงคนเดียว ส่วนรถจักรยานยนต์อีกหนึ่งคันนายโอมเป็นคนขับขี่ ส่วนนายอ๊อฟเป็นคนซ้อนเพื่อจะมาก่อกวน และหาเรื่องกับกลุ่มผู้ตายเนื่องจากก่อนหน้านี้ นายยีนส์ ผู้ก่อเหตุ เคยเรียนสถาบันแห่งหนึ่งย่านฝั่งธนซึ่งเป็นอริกับสถาบันของฝ่ายผู้ตาย

เมื่อมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุเจอผู้เสียชีวิตเดินอยู่บนถนน จากนั้นเพื่อนของผู้เสียชีวิตขี่รถจักรยานยนต์มา และชวนให้นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปด้วย เป็นจังหวะเดียวกับที่กลุ่มคนร้ายขับรถติดตามมาทัน จึงขี่รถตามประกบกลุ่มผู้เสียชีวิต มีการพูดคุยมีปากเสียงกันและเกิดการชุลมุนต่อสู้กัน เห็นผู้ตายชักอาวุธมีดแทงเพื่อน จึงใช้ปืนยิงใส่ไป 1 นัด ในระยะประชิดตัว โดนนายภู่ นักศึกษาเทคนิคดุสิต เสียชีวิต

จากนั้นตนเองได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีโดยมีนายอ๊อฟที่ถูกแทงได้รับบาดเจ็บ นั่งซ้อนท้ายไปด้วย ส่วนในโอมผู้ที่ร่วมก่อเหตุอีกคนหนึ่ง ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ตามมาเพียงคนเดียว ก่อนจะหลบหนีไปย่านฝั่งธน ได้ถูกชุดสืบสวนจับกุมตัวได้ภายในซอยจรัญสนิทวงศ์ 3 แยก 5  

นายอัครพล หรือนายยีนส์ ยังให้การอีกว่า แค่ต้องการขี่รถจักรยานยนต์ไปหาเรื่องกลุ่มนักศึกษาเท่านั้น ไม่ได้ต้องการจะลงมือก่อเหตุยิง แต่ระหว่างที่มีการต่อสู้กันด้วยการใช้อาวุธมีดจึงจำเป็นต้องใช้อาวุธปืนยิง ยืนยันไม่รู้จักกลุ่มของผู้เสียชีวิตมาก่อน

ผบช.น. ระบุว่า มูลเหตุจูงใจพนักงานสอบสวนกำลังเร่งสอบปากคำอย่างละเอียด โดยกลุ่มคนร้ายทั้ง 3 คน มีอาวุธปืนทุกคน แต่คนที่ใช้ปืนยิงน้องภู่ ผู้เสียชีวิตมีเพียงคนเดียวคือนายยีนส์ ส่วนเป็นอาวุธปืนขนาดหรือชนิดใดนั้นกำลังส่งตรวจพิสูจน์

ทั้งนี้ ผบช.น.ระบุเพิ่มเติมว่า คำให้การของพยานซึ่งเป็นเพื่อนของผู้เสียชีวิตสอดคล้องกับภาพในกล้องวงจรปิด ต้องสอบคำให้การอีกครั้งว่ายิงอย่างไร แต่ทิศทางในการยิงปืนเล็งไปที่บุคคลชัดเจนประสงค์ที่จะเอาชีวิต อีกทั้งจะเรียกพยานที่เห็นเหตุการณ์มาสอบปากคำเพิ่มเติม

--------------------------------------

ขณะที่ครอบครัวของน้องภู่ ผู้เสียชีวิต ทางญาติและเพื่อนมาร่วมรับศพ ที่นิติเวชโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ท่ามกลางความโศกเศร้า  จากนั้นทางครอบครัวได้เคลื่อนร่างไปที่จุดเกิดเหตุ เพื่อทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ ซึ่งแม่ของน้องภู่ ได้ถือกรอบรูปของลูกชายร่ำไห้ตลอดเวลาด้วยความเสียใจ

โดยพ่อและแม่น้องภู่ ได้จุดธูปบอกเจ้าที่เจ้าทาง ขอเปิดทางให้พาดวงวิญญาณลูกไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัด และขอให้ดวงวิญญาณลูกตามกลิ่นธูปไปที่วัด โดยแม่ของน้องกล่าวทั้งน้ำตา บอกว่า “น้อง ไปวัดกันนะลูก แม่มารับกลับแล้วนะลูก แม่รักลูกนะ” ใช้เวลาในการประกอบพิธีอัญเชิญวิญญาณประมาณ 10 นาที ก่อนคลื่อนย้ายร่างไปรดน้ำศพประกอบพิธีทางศาสนาที่ วัดพรหมวงศาราม (เจ้าเณร) ถนนประชาสงเคราะห์ ย่านดินแดง

แม่ของน้องภู่ เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ขณะนี้ตำรวจยังไม่แจ้งความคืบหน้าเรื่องคดี แต่ทราบว่าคนร้ายจะเข้ามอบตัวแล้ว อยากฝากไปว่า หากเข้ามามอบตัวก็ถือว่าทำถูกแล้ว ให้เข้ามารับผิด กล้าทำก็ต้องกล้ารับ ตนมีลูกคนเดียว มีลูกชายเป็นความหวัง จากนี้ไม่รู้จะอยู่ยังไงและไปทางไหนแล้วเพราะหัวใจสลาย กำลังใจพังยับเยินหมดสิ้น

ส่วนตัวไม่กดดันตำรวจ เพราะตำรวจทำงานกันเต็มที่แล้ว ยืนยันเคยห้ามลูกไม่ให้เรียนช่าง เพราะเห็นข่าวการทะเลาะวิวาทมาแล้วหวาดกลัว แต่ลูกรักโรงเรียนนี้ และต้องการจบจากสถาบันดังกล่าว และเคยแจ้งหากไม่ได้เรียนต่อที่นี่ ก็จะไม่เรียนแล้ว เมื่อลูกตั้งใจ ตัวเองก็เลยไม่ห้าม

 แม่ของผู้ตาย ยังบอกว่า “ลูกไม่เคยเล่าเรื่องอะไรจากโรงเรียนให้ฟัง พูดเพียงว่าป้องกันตัวได้ไม่มีปัญหา ส่วนเพื่อนลูกก็ไม่เล่าเรื่องใดให้ฟัง ซึ่งวันที่ลูกจะออกไปเรียนได้เข้ามากอด พร้อมบอกรัก ซึ่งไม่คาดคิดจะเป็นกอดสุดท้าย”

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/REd1-yFPUhI