อาชญากรรม

ตำรวจคุมตัวหนุ่มชาวเมียนมา สารภาพร่วมฆ่าหนุ่มชาวไต้หวันในโรงแรมย่านอุดมสุข

โดย kanyapak_w

17 พ.ย. 2566

432 views

ความคืบหน้ากรณีหนุ่มไต้หวันถูกฆ่าหมกศพในห้องพักของโรงแรมแห่งหนึ่งย่านอุดมสุข ล่าสุดตำรวจคุมตัวมือฆ่าได้แล้ว เป็นชายชาวเมียนมา



เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ตำรวจพบศพนาย ชู เชียง อายุ 47 ปี ชาวไต้หวัน สภาพศพถูกมัดมือไพร่หลัง ข้อเท้าถูกมัดด้วยเชือกฟางสีขาว มัดต้นขาด้วยเข็มขัดสีน้ำเงิน ช่วงเอวถูกรัดด้วยเข็มขัดสีดำเพื่อล็อกมือที่มัดไว้ด้วยเชือกฟาง และสก๊อตเทปใส รวมถึงบริเวณใบหน้าช่วงบริเวณปาก ก็มีการใช้สก๊อตเทปใส พันรอบศีรษะปิดช่วงบริเวณปากหลายชั้น ช่วงบริเวณศีรษะบนพื้นห้องพบมีรอยเลือดไหลนองอยู่ การตรวจสอบบริเวณใบหน้าของผู้เสียชีวิตพบมีร่องรอยถูกตีด้วยของแข็งบริเวณหัวคิ้วด้านขวา ส่วนสภาพภายในห้องพักพบว่ามีข้าวของกระจัดกระจายคล้ายกับมีการต่อสู้ หรือการรื้อค้นสิ่งของ


เจอตู้เซฟ 2 ใบ และกระเป๋าเดินทาง 2 ใบ ของผู้ตายอยู่ในห้อง แต่คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก และโทรศัพท์มือถือหายไป



มีรายงานว่า มีคนพบผู้ตายครั้งสุดท้าย คือ ช่วงเที่ยง 15 นาทีวานนี้ (15 พ.ย.) ผู้ตายนั่งเล่นคอมพิวเตอร์ กับโทรศัพท์มือถืออยู่ในห้อง กระทั่งช่วงสายวันที่ 16 พฤศจิกายน เพื่อนของผู้ตายมาแจ้งว่าติดต่อผู้ตายไม่ได้ ขอให้ไปตรวจสอบ และพบเป็นศพ


ช่วงหัวค่ำของเมื่อวานนี้ ตำรวจเชิญตัวชายชาวต่างชาติ 1 ในคนที่มาหาผู้ตายที่ห้อง มาสอบปากคำ ที่ สน.บางนา เขาบอกว่า เขาเป็นเพื่อนกับผู้ตาย และผู้ตายขอยืมเงินสดจึงเอามาให้ แต่เมื่อมาถึงห้องพัก พยายามเคาะห้องเรียกอยู่นาน แต่ไม่มีการตอบรับจึงเดินทางกลับไป


จากนั้นช่วงกลางดึกตำรวจฝ่ายสืบสวนคุมตัวหนุ่มเมียนมา อายุ 25 ปี จากย่านราชปรารภ มาสอบปากคำที่สถานีตำรวจนครบาลบางนา หลังพบหลักฐานว่าเป็นผู้ร่วมลงมือก่อเหตุฆาตกรรมผู้เสียชีวิตในครั้งนี้



ซึ่งจากการสอบปากคำเบื้องต้นหนุ่มชาวเมียนมาคนนี้ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ร่วมอยู่ในการลงมือก่อเหตุในครั้งนี้จริงโดยได้รับการว่าจ้างมาจากผู้หญิงไทยรายหนึ่งผ่านทางเฟซบุ๊ก ให้ตนคอยเฝ้าติดตามพฤติกรรมหนุ่มชาวไต้หวันรายนี้ โดยอ้างว่าหนุ่มไต้หวัน เป็นผู้ต้องคดี และมีเงิน ให้ตนเองคอยติดตามความเคลื่อนไหว


นอกจากนี้หญิงไทยรายดังกล่าว ยังรู้จักกับชายอีก 1 คน ซึ่งส่วนตัว ตนเองไม่รู้จักว่าเป็นใคร และทั้งหมดได้ไปพบผู้ตาย จนกระทั่งมาเกิดเหตุขึ้น โดยส่วนตนเองได้มีการแฝงตัวเข้ามาพักอาศัยอยู่ที่บริเวณชั้น 5 ของอาคารดังกล่าว เพื่อเข้าติดตามพฤติการณ์ของผู้เสียชีวิตก่อนจะมีการก่อเหตุเกิดขึ้น ซึ่งคำให้การดังกล่าวตรงกับพยานหลักฐานของตำรวจที่พบว่ากล้องวงจรปิดของอาคารสามารถบันทึกภาพของหนุ่มชาวเมนมารายนี้ในขณะที่เดินขึ้นไปเคาะห้องของผู้เสียชีวิตได้อย่างชัดเจน




ซึ่งขณะนี้ตำรวจได้ข้อมูลของหญิงไทยรายนี้เป็นที่เรียบร้อย อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการออกหมายจับ



ขณะที่การสืบสวนในขณะนี้พบว่าผู้ที่ร่วมรู้เห็นในการก่อเหตุในครั้งนี้มีหลายคนแบ่งเป็นคนไทย คนต่างชาติผิวสี และคนประเทศเมียนมา ซึ่งการก่อเหตุมีการวางแผนแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน



สำหรับไทม์ไลน์ของผู้เสียชีวิตหลังเดินทางถึงประเทศไทยในเวลา 01.00 น. ของเช้าวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ก่อนจะเดินทางมา เข้าพักที่ห้องพักดังกล่าวและในช่วงเวลา 12.43 น. ของวันเดียวกัน ผู้เสียชีวิตได้เดินทางไปพบเพื่อนคนไทยรายหนึ่งที่อยู่ในย่านงามวงศ์วาน ซึ่งจากข้อมูลขณะนี้พบว่าการเดินทางไปนำตู้เซฟที่มีทรัพย์สินอยู่ภายใน นำมาที่ห้องพักเกิดเหตุ


ด้านพล.ต.ต. พันธนะ นุชนารถ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กล่าวถึงกรณีการเสียชีวิตภายในโรงแรมสูง 11 ชั้นย่านอุดมสุข ของนายชูเชียง อายุ 48 ปี ชาวไต้หวัน ว่า ขณะนี้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้รับการประสานจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลให้เข้าร่วมสืบสวนสอบสวนกับเหตุการณ์ดังกล่าว โดยในวันนี้ (17 พ.ย.) จะมีการประชุมร่วมกันที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลเพื่อวางแนวทางและตรวจสอบข้อมูลร่วมกัน



ในส่วนของทางสตม.จะมีการตรวจสอบข้อมูลการเดินทางเข้าออก โดยเบื้องตนทราบว่านายชูเชียง เฉินมีการเดินทางเข้าออกในประเทศหลายครั้ง เนื่องจากมีธุรกิจในประเทศไทย แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดว่าเดินทางเข้าประเทศตั้งแต่เมื่อใด ซึ่งโดยเฉลี่ยมีการเดินทางเข้า- ออก เดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งครั้งล่าสุดเดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อช่วงตี 1 วันที่ 14 พ.ย. และมาเปิดห้องพักเมื่อเวลา 12.43 น. ของวันที่ 14 พ.ย. และเจ้าหน้าที่โรงแรมพบเห็นผู้เสียชีวิตครั้งสุดท้ายเมื่อเวลาประมาณ 12.50 น. วันที่ 15 พ.ย. ก่อนที่จะพบเป็นศพในเวลาต่อมา



ส่วนที่มีกระแสข่าวว่านายชูเชียง ประกอบธุรกิจสีเทาและถูกดำเนินคดีในไต้หวันนั้น จะมีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ แต่การสอบสวนพบว่ามีข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับการเสียชีวิตครั้งนี้



จากการตรวจสอบพบว่า นายชูเชียง ได้เดินทางเข้า- ออกประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2565 ปัจจุบันทั้งสิ้น 22 ครั้ง ขณะเดียวกันมีรายงานว่าสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยชาวชาวเมียนมา 1 คน ที่ห้องพัก เนื่องจากหลักฐานพบว่าเป็น 2 คนสุดท้ายที่เข้าไปพบนายชูเชียง ก่อนเสียชีวิต



แท็กที่เกี่ยวข้อง  อาชญากรรม ,ฆาตกรรม ,ไต้หวัน

คุณอาจสนใจ

Related News