สาวตีเนียนมาช่วยงานกฐินก่อนจะฉกเงินกฐินไปกว่า 7 หมื่นบาท

สาวสวยหน้าตาดีแต่ใจบาป ตีเนียนมาช่วยงานกฐินก่อนจะฉกเงินกฐินไปกว่า 7 หมื่นบาท มีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้

ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในวัดเขาดินญาณนิมิต ต.หัวถนน อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี จับภาพนาทีหญิงสาวหน้าตาดี อายุประมาณ 25-30 ปีตีเนียนนั่งร่วมถวายกองกฐินภายในศาลาในภาพจะเห็นว่าผู้ก่อเหตุได้ทำทีเหมือนเป็นหนึ่งในเจ้าภาพเดินไปมาบริเวณขันเงินแล้วเดินดูลาดเลาพอสบโอกาสได้รีบเอาผ้าคลุมแล้วอุ้มเอาขันเงินเดินเข้าไปในครัวก่อนจะเดินหิ้วถึงผ้าสีขาว 2 ถุง ก่อนจะรีบเดินหนีไปอย่างรวดเร็วซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพพฤติกรรมของหญิงรายดังกล่าวได้ทุกมุมเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 พ.ย.66 ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดเขาดินญาณนิมิต ต.หัวถนน อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ได้พบกับนางลักขณา พิมพ์กิ เจ้าหน้าที่กรรมการวัดเขาดินญาณนิมิต ได้ชี้จุดให้ทางผู้สื่อข่าวดูและได้เล่าว่าเมื่อวานตนและกรรมการวัดได้มีการนับเงินยอดกฐินได้จำนวนเงิน1,359,515 บาท และมีการทำบัญชีและได้มอบให้กับทางเจ้าอาวาสวัดดังกล่าวจากนั้นเมื่อคืนทางเจ้าอาวาสได้มีการนับเงินแต่ไม่ครบนับเงินได้ จำนวน 1,286,595 บาทซึ่งขาดไปจำนวน 72,920 บาท จึงได้มาสอบถามกันวันนี้และได้เปิดกล้องวงจรปิดดูถึงพบว่ามีหญิงสาวหน้าตาดี ท่าทีเหมือนเป็นชาวบ้านมาช่วยงานและเนียนอยู่กับเจ้าภาพกฐิน

จึงไม่มีใครรู้ว่าเป็นใครพอสบโอกาสหญิงสาวคนดนดังกล่าวก็ได้เข้าไปเอาขันเงินไปในครัว แล้วขโมยเงินไปกว่า 7 หมื่นบาททางวัดจึงได้มอบหมายให้ตนนำกล้องวงจรปิดไปแจ้งความเป็นหลักฐาน ตนอยากฝากถึงผู้ก่อเหตุให้เอาเงินมาคืนวัด เพราะเงินจำนวนนี้เป็นเงินที่เขาทำบุญมาและยกใส่หัวอนุโมทนาบุญสาธุแล้ว เอาไปก็บาปติดตัวทำมาหากินไม่ขึ้นเอามาคืนก่อนจะเสียอนาคตและทางวัดก็จำเป็นต้องใช้เงินในส่วนนี้เพื่อมาพัฒนาบูรณะวัดด้วย

ทางด้านพระใบฎีกา เสถียร สจฺจวโร เจ้าอาวาสวัดเขาดินญาณนิมิต ได้เล่าว่าเมื่อวานได้วางขันเงินไว้ข้างพระพุทธรูปนศาลา และมีญาติโยมมาเยอะแต่ผู้ก่อเหตุนั้นก็นั่งเนียนกับโยมเจ้าภาพ จึงไม่มีใครสังเกตุเพราะตอนเขาช่วยกันนับเงินเก็บของเขาก็ช่วยทำหมด ไม่มีอะไรผิดสังเกตุเลย พอได้รับขันเงินจึงได้วางไว้ข้างพระใหญ่จากนั้นก็ได้เข้าไปเอาเอกสารการเงินมาให้ทางเจ้าคณะตำบล และเจ้าคณะจังหวัด พอออกมานับก็ไม่เจอขันเงินกฐิน จึงได้เดินหาพบว่าไปวางในครัวทีแรกนึกว่ากรรมการจะเอาไปนับใหม่ จึงได้เอามาเก็บไว้บนห้อง พอมานั่งนับดูพบว่ายอดเงินที่ได้รับจากคณะกรรมการนั้นยอดเขียนไว้จำนวน 1,359,515 บาท แต่มานับใหม่ได้เพียง 1,286,595 บาท พอมาบวก ลบ ดูยอดเงินหายไปจำนวน 72,920 บาทซึ่งเป็นยอดเงินที่ใส่ถุงไว้บนถุงเงินใหญ่ที่อยู่ด้านล่าง

เพราะถุงนั้นเป็นยอด 1,359,515 บาท เหลือถุงเดียวจึงได้เรียกคณะกรรมการมาสอบถามและเปิดกล้องวงจรปิดดูพบว่าหญิงสาวได้ขโมยไปและสอบถามกับชาวบ้านและกรรมการวัดทุกคนก็บอกไม่เคยพบเห็นหรือคุ้นหน้ากับหญิงสาวคนนี้เลย คาดว่าน่าจะมาจากที่อื่นและมาทำทีเนียนอยู่กับทางญาติโยมที่มาทำบุญกฐิน ก็อยากฝากถีงผู้ก่อเกตุให้เอาเงินมาคืนวัดด้วยและอย่าไปทำแบบนี้กับวัดไหนอีก

เพราะเงินทำบุญเอาไปใช้มันจะบาปและทำมาหากินไม่ขึ้น จะตกนรกด้วย และฝากถึงวัดอื่นๆที่จัดงานกฐินอยากให้ระวังบุคคลภายนอกที่ไม่คุ้นเคยให้กรรมการวัดดูแลพานเงินอย่างใกล้ชิด เพราะไม่รู้ใครมาทำบุญหรือมาขโมยก็ไม่สามารถรู้ได้ เพราะเป็นงานบุญคนจะเยอะและชุลมุนก็อาจจะมีมิฉาชีพแบบนี้มาปะปนและฉวยจังหวะก่อเหตุแบบนี้