ชุดสืบนครบาล เล่าเบื้องหลังปลอมตัวเป็นผีจับคนร้าย เป็นเทคนิคของสายลับ

จากกรณีชุดสืบนครบาล “ปลอมตัวเป็นผี” แฝงตัวเป็นพนักงานโรงหนัง หลอกคนร้ายมีหมายจับคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ก่อนจับกุมตัวได้คาโรงหนัง ขณะเข้าชมเรื่อง “ธี่หยด” ซึ่งคนร้ายถึงกับงง ตั้งตัวไม่ทัน

ทีมข่าวไปพูดคุยกับ พันตำรวจตรีธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สารวัตรสืบนครบาล ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดจับกุมที่ปลอมตัวเป็นผี เล่าว่า เมื่อวานนี้ พลตำรวจโทธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้มอบหมายนโยบายให้ปราบปรามอาชญากรรมในวันฮาโลวีน และชุดจับกุมได้เบาะแสของคนร้ายที่กำลังติดตามอยู่จากทางโซเชียล ว่าคนร้ายจะเดินทางไปชมภาพยนตร์ผีเรื่องธี่หยด ในคืนวันฮาโลวีน ซึ่งตอนที่ได้เบาะแสเป็นช่วงบ่ายแล้ว และยังไม่รู้รายละเอียดทั้งเวลาและสถานที่ แต่ก็มาคุยกันในทีมชุดจับว่า จะลองลุยดู จึงเร่งสืบสวนจนทราบสถานที่ว่าคนร้ายน่าจะไปชมภาพยนตร์ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านพระราม 3

ชุดจับกุมจึงลงพื้นที่ พบว่าห้างนี้เป็นห้างที่คนไม่ค่อยเยอะ หากเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปกันหลายคน และต้องไปดักรอคนร้าย ก็จะเป็นจุดสังเกต จึงปรึกษากันว่าจะทำอย่างไร และไปปรึกษา พลตำรวจตรีธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งพลตำรวจตรีธีรเดช แนะนำว่า ก็ใส่ชุดผีไปเลย เพราะเป็นวันฮาโลวีน ชุดจับกุมจึงรีบไปหาซื้อเสื้อผ้า หน้ากาก ที่ตลาดนัดใกล้ๆ แต่เนื่องจากเป็นตอนกลางวัน ร้านค้ายังไม่เปิด จึงตามหาตัวแม่ค้า และไปขอซื้ออุปกรณ์ถึงที่บ้านแม่ค้า แล้วรีบแต่งตัวเข้ามาดักรอคนร้ายให้เร็วที่สุด

โดยชุดจับกุมเลือกดักรอในจุดที่ทุกคนจะมาชมภาพยนตร์ต้องเดินผ่านจุดนี้ ซึ่งเทคนิคของการเป็นสายลับ หรือ Undercover คือต้องทำอย่างไรก็ได้ให้อยู่ตรงนั้นได้นานที่สุดโดยไม่เป็นที่สังเกต จึงทำทีเป็นพนักงานโรงภาพยนตร์ คอยถ่ายรูปกับคนที่มาดูหนัง เมื่อเห็นบุคคลต้องสงสัย ก็จะเรียกมาขอถ่ายรูปเพื่อสแกนใบหน้าว่าใช่เป้าหมายหรือไม่ ทั้งนี้ก็มีประชาชนทั่วไปที่มาดูหนัง เดินเข้ามาขอถ่ายรูปด้วย ชุดจับกุมก็ต้องเล่นบทตามน้ำไป จนผ่านไปประมาณ 3 ชั่วโมง ช่วงเวลา 6 โมงเย็น คนร้ายก็เดินทางมาชมภาพยนตร์จริงๆ จนสามารถจับกุมตัวได้

พันตำรวจตรีธัญพีรสิษฐ์ เล่าอีกว่า เมื่อวานนี้ ทีมชุดจับกุมยังมานั่งคุยกันอยู่ว่าตลกตัวเอง และขำที่แต่งเป็นผีกัน ซึ่งทุกอย่างบังเอิญเข้าธีมกันหมด ทั้งเป็นวันฮาโลวีน และคนร้ายก็มาดูภาพยนตร์ผีด้วย แต่จริงๆ แล้วการ Undercover ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ของการสืบสวน โดยทีมของพวกตนทำแบบนี้กันเป็นปกติอยู่แล้ว ยิ่งกว่านี้ก็เคยทำ เพราะน้องๆ ทุกคนในทีมเต็มที่กับการทำงาน จะช่วยกันครีเอทอะไรแบบนี้กันอยู่เสมอ แต่เป็นการทำงานของตำรวจในมุมที่ประชาชนไม่ค่อยได้เห็น

สำหรับวินาทีที่คนร้ายปรากฏตัวนั้น พันตำรวจตรีธัญพีรสิษฐ์ บอกว่า คนร้ายเข้ามาถ่ายรูปโดยที่ไม่รู้ตัวเลย พอแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม คนร้ายก็มีอาการตกใจ และยังมาบอกพวกตนทีหลังว่า ไม่คิดว่าตำรวจจะแต่งเป็นผี ไม่คิดเหมือนกันว่าจะโดนจับแบบนี้