อาชญากรรม

รวบ ‘บอย’ ลูกน้อง ‘เสี่ยแป้ง’ ขณะดูหนังสัปเหร่อ ยอมรับไปเยี่ยมที่ รพ.จริง แต่อ้างไม่ได้ช่วยพาหนี

โดย thichaphat_d

27 ต.ค. 2566

162 views

รวบ บอย คเนศ ลูกน้องเสี่ยแป้ง นาโหนด  ขณะไปดูหนังสัปเหร่อ ที่ห้างดังหาดใหญ่ แต่ปวดท้องลุกมาเข้าห้องน้ำ เจอเรื่องสยองกว่า ตำรวจดักรอ ล็อกตัวกลางห้าง เจ้าหน้าที่เผยเป็นคนในกล้องวงจรปิด ถือกระเป๋า โทรศัพท์ ปืน และคีมตัดโซ่ไปให้เสี่ยแป้งถึงเตียง แต่เจ้าตัวปฏิเสธไม่เกี่ยวข้อง ยอมรับไปเยี่ยมจริง เพราะรู้จักในคุก แต่ไม่ได้พาหนี

จากกรณีการติดตามไล่ล่า “เสี่ยแป้ง” หรือ นายเชาวลิต ทองด้วง อายุ 37 ปี นักโทษชายคนสำคัญที่หลบหนีหลังจากแกล้งป่วยออกจาก รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา รวมทั้งติดตามจับกุมลูกน้องที่ช่วยเหลือพาเสี่ยแป้งหลบหนี

ล่าสุดเมื่อเวลา 17.30 น. วานนี้ (26 ต.ค.) ชุดสืบสวน สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เข้าจับกุม นายคเนศ ทองประจง หรือ บอย อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ข้อหา “ร่วมกันกระทำการด้วยประการใดให้ผู้ถูกคุมขังตามอำนาจศาล ซึ่งเป็นบุคคลที่ต้องคำพิพากษาให้จำคุกตั้งแต่สิบห้าปีขึ้นไป หลุดพ้นจากการคุมขังไป” โดยจับกุมได้ขณะไปนั่งดูภาพยนตร์สัปเหร่อ ที่ โรงหนังใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จากนั้นมีอาการปวดท้องจึงเดินออกมาเข้าห้องน้ำ และถูกเจ้าหน้าที่จับตัวไว้ได้

สำหรับ นายคเนศ เป็นผู้ต้องหาที่พบในภาพวงจรปิดเดินถือกระเป๋าสีดำ พร้อมโทรศัพท์มือถือและอาวุธปืนและคีมอุปกรณ์ต่างๆ ไปให้ นายเชาวลิต ถึงเตียงก่อนพาหลบหนี หลังถูกจับเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปสอบสวนและทำบันทึกจับกุมที่ห้องสืบสวน สภ.หาดใหญ่

แต่ในชั้นการสอบสวน นายคเนศ ยังปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพาเสี่ยแป้งหลบหนีออกจากโรงพยาบาล ยอมรับว่าช่วงประมาณวันที่ 20 ต.ค. ได้เดินทางไปเยี่ยมเสี่ยแป้งที่ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช จริง แต่แค่ไปเยี่ยมตามปกติและพูดคุยเรื่องในเรือนจำเท่านั้น ตนรู้จักกับเสี่ยแป้งตอนอยู่ในคุก เนื่องจากตนต้องโทษคดียาเสพติด และยังยืนยันว่าไม่มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับการพาเสี่ยแป้งหลบหนี ส่วนกระเป๋าสีดำที่ถือขึ้นไปบนตึก รพ.มหาราช ไม่มีอุปกรณ์ใดๆ ทั้งสิ้น แต่เป็นกระเป๋าที่ตนถือตามปกติ แต่ตำรวจยังไม่เชื่อจึงคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าสำหรับนายคเณศ ได้ถูกออกหมายจับเป็นคนล่าสุดเมื่อเย็นวานนี้ (26 ต.ค.) ก่อนที่ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้ประสานไปยังตำรวจสืบสวนภาค 9 ตำรวจสืบสวนภาค 8 และ นำกำลังไปจับกุมนายคเณศ ขณะเข้าไปดูหนังเรื่องสัปเหร่อคาโรงหนังในห้างดังเมืองหาดใหญ่ดังกล่าว  

สำหรับคดีนี้ทางศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้อนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาก่อนหน้านี้แล้วจำนวน 4 คนและจับกุมก่อนหน้านี้แล้วจำนวน 2 คน คือ น.ส.วิลาวัลย์ หรือไหม หมื่นรักษ์ อายุ 32 ปี ซึ่งทำหน้าเฝ้าไข้เสี่ยแป้งที่ รพ.มหาราช และ น.ส.ยุวเรศ หรือหมวย กลศึก อายุ 26 ปี ทำหน้าที่ว่าจ้างน.ส.ไหม ให้ไปเฝ้าไข้เสี่ยแป้งเบื้องต้นทั้งสองคนยังให้การปฏิเสธ และถูกตำรวจนำตัวไปฝากขังศาลผลัดแรกแล้ว

ส่วนผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับอีก 2 คนยังจับกุมตัวไม่ได้คือนายจักรี หรือบิ๊ก แป้นน้อย อายุ 41ปี ทำหน้าที่ขับรถยนต์กระบะมิตซูบิซิ สีขาว พานายเชาวลิต หนีออกจาก รพ. และนายจีรวุฒิ หรือบอย หรือลูกวัว ชุมศรี อายุ 31ปี ทำหน้าที่ขึ้นไปบนตึกผู้ป่วยพานายเชาวลิต หลบหนีออกจาก รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ล่าสุดยังจับกุมตัวไม่ได้ ตำรวจหลายชุดกำลังล่าติดตามตัวอย่างเต็มที่ พร้อมนายเชาวลิตลูกพี่ที่ยังหลบหนีอยู่เช่นกัน

ส่วนที่ จ.พัทลุง ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบรถมิตซูมิตมิตชิ สีขาว 4 ประตู ไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน ที่นำมาจอดไว้ ณ สำนักสงฆ์ใหม่ยางยายขลุย ท้องที่ ม.6 ต.ร่มเมือง อ.เมืองพัทลุง โดยจุดดังกล่าวอยู่ห่างจากบ้านของนายเชาวลิต ประมาณ 4-5 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่จึงวางกำลังตำรวจเพื่อป้องกันมิให้ชาวบ้านเข้าไปใกล้รถยนกระบะเพราะเกรงว่าจะได้รับอันตรายจากวัตถุระเบิดของคนร้าย และประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดพัทลุง และ จนท.เก็บกู้ระเบิดจังหวัดพัทลุงมาตรวจสอบรถกระบะคันดังกล่าว

ในที่เกิดเหตุ ตร.พบรถกระคันดังกล่าวที่ถูกมาจอดทิ้งไว้โดยถูกถอดทะเบียนทั้งป้ายหน้าและป้ายหลัง จากการตรวจสอบทะเบียนรถยนต์คันดังกล่าว พบว่าป้ายทะเบียน กจ 9049 พัทลุง โดยมีนางจิตรา ชุมศรี อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นมารดาของนายจีระวุฒิ เป็นเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าว ซึ่งเป็นรถยนต์กระบะที่ใช้พานายเชาวลิตในการหลบหนีออกจาก รพ.มหาราช ในคืนวันที่ 22 ตุลาคม 2566 ส่วนป้ายทะเบียนนั้นนายจีระวุฒิ ได้ถอดป้ายทะเบียนทิ้งไว้ในพื้นที่ อ.มะนัง จ.สตูล ในก่อนหน้านี้ จากการตรวจสอบรถกระบะคันดังกล่าว ในเบื้องต้นพบว่าประตูรถยนต์ถูกล็อกแน่น ภายในมีน้ำต้มพืชกระท่อมวางอยู่ 1 ขวด

ทางด้านพระสมุภูมิพัฒน์ สุขฐาโน เจ้าสำนักสงฆ์ดังกล่าว เผยว่า รถคันดังกล่าวเข้ามาในวัดเวลา 02 07 น. วานนี้ (26 ต.ค.)  โดยสุนัขในวัดได้เห่ากันลั่นวัด หลังจากที่ไปดูภาพจากกล้องวงจรปิดของวัดก็เห็นรถกระบะคันดังกล่าวขับมาในวัดอย่างชัดเจนแต่ก็ยังคิดว่าน่าจะเป็นคนเข้ามาเข้าห้องน้ำ แต่เมื่อเข้าไปตรวจสอบห้องน้ำก็ไม่พบคน จึงสงสัยว่ารถคันนี้น่าจะเป็นรถยนต์กระบะของคนร้ายในคดีอื้อฉาวดังกล่าว เนื่องจากได้มีการติดตามข่าวมาอย่างต่อเนื่อง จึงได้แจ้งให้ตำรวจได้รับทราบดังกล่าว

ทางด้านชาวบ้านรายหนึ่งที่มีบ้านอยู่ห่างจากสำนักสงฆ์ดังกล่าวประมาณ 200 เมตร เผยว่า ได้ยินเสียงหมาเห่าประมาณตี 03.00 น. โดยหมาเห่าอยู่ประมาณ 5 นาที มั่นใจว่าคนที่เข้ามาต้องเป็นบุคคลภายนอกอย่างแน่นอน เนื่องจากภายในสำนักสงฆ์น้อยนักที่บุคคลภายนอกจะเข้ามา เชื่อว่ารถคันนี้น่าจะเป็นรถของกลุ่มคนร้ายจึงแจ้งให้ตำรวจทราบดังกล่าว

ขณะที่ญาติของ นายบอย และ นายบิ๊ก ได้ติดต่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปรับภรรยาและลูกของทั้งคู่ให้ไปอยู่ในที่ปลอดภัย หลังจากนำรถมาจอดในสำนักสงฆ์ แต่เจ้าตัวทั้ง 2 ยังหลบหนี โดยให้ญาติติดต่อตำรวจเพื่อไปรับภรรยาและลูกที่หลบหนีไปด้วยกันก่อนหน้านี้

ทางด้าน พ.ต.อ.สุริยา ปัญญามัง รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง เผยว่า การที่นายจีระวุฒิ คนร้าย นำรถกระบะมาจอดทิ้งไว้แล้วหลบหนีไปนั้นน่าจะเกรงว่าภรรยาและลูกจะได้รับอันตราย ซึ่งตนมั่นใจจากประสบการณ์การทำงานว่านายจีระวุฒิฯน่าจะเข้ามามอบตัวกับตำรวจในเร็วๆ นี้ เนื่องจากรู้ว่ามีการกดดันจากตำรวจอย่าง

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ล่าสุดจากการณ์สืบสวนของตำรวจภูธรพัทลุง และสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9 ยังไม่พบแหล่งคบดานหรือแหล่งพักพิงหลบช่อนตัวที่แน่ชัด แต่เชื่อว่ายังคงหลบช่อนตัวในพื้นที่จังหวัดพัทลุง เพราจะปลอดภัยที่สุด เนื่องจากเป็นฐานลูกน้องเดิม ทั้งการเคลื่อนไหว และการทราบข่าวการเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

โดยจากการสืบทราบล่าสุด พื้นที่ที่เสี่ยแป้งน่าคบดานมากที่สุดคือ อ.กงหรา และ อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการหลบหนีง่ายที่สุด เพราะอยู่ในแนวเขตรักษาพันสัตว์ป่าเขาบรรทัดพัทลุง

ขณะเดียวกันมีข้อมูลจากเหล่งข่าวทราบว่าเบื้องต้นนั้น ทางเครือข่ายเสี่ยแป้ง เริ่มมีการเคลื่อนไหว ด้านอาวุธปืนโดยฐานลูกน้องเก่าได้ระดมเก็บอาวุธปืนที่มีการฝากไว้กับญาติในพื้นที่จังหวัดพัทลุงกลับมา ทั้งอาวุธปืนพกสั้น และอาวุธปืนสงคราม

โดยเป้าหมายของทางตำรวจคาดว่าเสี่ยแป้งยังอยู่ในพื้นที่พัทลุง จึงทำให้หลายชุดปฎิบัติการกำลังเดินทางมาจังหวัดพัทลุง เพื่อเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหว อย่างใกล้ชิด

ขณะที่ พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ ทองทิพย์ รอง ผบก.จว.นครศรีธรรมราช รักษาราชการแทน ผกก.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้ประสานขอหลักฐานเป็นสมุดการเยี่ยมเสี่ยแป้ง ย้อนหลัง 2 เดือน จากเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เพื่อตรวจสอบดูว่ามีใครที่มาเยี่ยม และต้องสงสัยว่าจะอยู่ในขบวนการวางแผนหลบหนีของเสี่ยแป้งบ้าง

พ.ต.อ.นัษวุฒิ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนมีหลักฐานยืนยันว่า แรงจูงใจในความพยายามหลบหนีของเสี่ยแป้งนั้น เพราะต้องการออกมาสะสางความแค้นกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม ในคดีที่เสี่ยแป้ง ปล้นและชิงตัวผู้ต้องหาคดียาเสพติด และพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ ซึ่งรายละเอียดอยู่ในสำนวนการสอบสวนแล้วทั้งหมด รวมทั้งนายก อบต.สตูล ที่สนิทสนมกับลูกน้องเสี่ยแป้ง ก็มีอยู่ในสำนวนการสอบสวนในคดีนี้ทั้งหมด

คุณอาจสนใจ

Related News