อาชญากรรม

แฉ 'เสี่ยแป้ง' การละคร แสร้งล้มป่วยช่วงถูกขังที่เรือนจำพัทลุง ตร.เชื่อยังกบดานในไทย วนเวียน 3 จังหวัด

โดย nattachat_c

25 ต.ค. 2566

26 views

กรณีคดีการหลบหนีของ นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ เสี่ยแป้ง นาโหนด นักโทษคดีอุกฉกรรจ์ ที่ถูกจำคุกอยู่ที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช และได้หลบหนี ในขณะที่ถูกรักษาตัวที่ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช


เจ้าหน้าที่สืบสวนกองบังคับการตำรวจภูธรภาค 8 และภาค 9 ได้ติดตามอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อวันที่ 23 ต.ค. 66 พบรถที่คาดว่านำเสี่ยแป้งหนีเข้าพื้นที่ จ.สตูลนั้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.สตูล ได้เร่งติดตามรถคันดังกล่าว


ขณะที่ด่านตม.สตูล ซึ่งมีด้วยกัน 3 ด่าน คือ

  • ด่านตม.ตำมะลัง
  • ด่านตม.เกาะหลีเป๊ะ อ.เมือง
  • ด่านตม.วังประจัน อ.ควนโดน
  • ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้มงวดกวดขันการเข้า-ออกของนักโทษดังกล่าว

------------

ด้าน พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้สั่งการให้ดีเอสไอ ร่วมติดตามผู้ต้องขังหลบหนี ซึ่งพบปัญหาว่าข่าวไปเร็วมาก ทำให้ผู้ต้องหาไหวตัวทัน


ผู้สื่อข่าวถามว่า หากนักโทษหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ต้องใช้ขั้นตอนขอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาหรือไม่ อธิบดีดีเอสไอกล่าวว่า เชื่อว่าผู้ต้องหายังไม่ได้หลบหนีออกไปนอกประเทศ และเชื่อว่ากำลังตำรวจที่ไล่ล่าติดตามตัว จะมีข่าวดีในเร็วๆ นี้

------------

พ.ต.อ. ธนิสสร แสงท่านั่ง ผกก.ตม.สตูล กล่าวว่า ทางผู้บัญชาการระดับสูง ได้เน้นมาตลอดเรื่องบุคคลต้องห้าม ทาง ตม.สตูล เองซึ่งมีด้วยกัน 3 ด่าน คือด่านตม.ตำมะลัง ด่านตม.เกาะหลีเป๊ะ ซึ่งเป็นด่านตม.ทางทะเล และด่านทางบกคือ ด่านตม.วังประจัน อ.ควนโดน


ทั้ง 3 ด่านเป็นด่านเขตแดนระหว่างรัฐเปอร์ลิสและรัฐเคดาห์ของประเทศมาเลเซีย โดยทางตม.เองได้เข้มงวดกวดขันมาตั้งแต่ 2 วัน ที่ผ่านมา ยืนยันว่า ช่องทางปกติเสี่ยแป้งยังไม่ได้เดินทางออกนอกประเทศ


แต่เนื่องจาก จ.สตูล มีรอยต่อแดนทางธรรมชาติยาวถึง145 กม. ทั้งทางทะเลและทางบก ช่องทางธรรมชาติมีมากโดยเฉพาะช่องทางทางทะเล ที่มีอยู่ในหลายอำเภอ หากมีการหลบหนีทางเส้นทางธรรมชาติ ทางเราก็ไม่ทราบได้เพราะมีหลายเส้นทาง


ซึ่งตนคิดว่าช่องทางธรรมชาตินั้นทางฝั่งมาเลเซียเอง ก็มีการเข้มงวดกับการเข้าเมืองแบบผิดกฎหมายมาก กับหน่วยงานอื่นเช่นตำรวจน้ำ ทหาร ศรชล และตำรวจภูธร เราก็มีการประสานงานด้วยกันตลอด


หากมีบุคคลดังกล่าวเล็ดลอดเข้ามาเราก็จะบูรณาการทำงานร่วมกัน หลังจากกระแสข่าวเสี่ยแป้งเข้ามาในพื้นที่ จ.สตูล ทางจนท.เราไม่ได้นิ่งเฉยพยายามไล่ล่า และเข้มข้นในการตรวจตรารถเข้าพื้นที่มากขึ้น


อย่างไรก็ตามสำหรับการเข้ามาในพื้นที่จ.สตูลของเสี่ยแป้งนั้น ผู้ให้การช่วยเหลือคาดว่าเป็นเครือญาติของลูกน้องเก่าซึ่งเป็นซุ้มมือปืนในพื้นที่อ.มะนัง ซึ่งตอนนี้ทางตร.เองกำลังสืบสวนไล่ล่าอยู่

-----------

ด้าน พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รักษาการผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อม พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบ.ตร.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ได้เรียกประชุมทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องในการติดตามไล่ล่า เสี่ยแป้ง นาโหนด เพื่อสรุปผลการปฏิบัติงานแต่ละชุดว่ามีความคืบหน้าอย่างไร


โดยได้เน้นย้ำให้คณะทำงานรวบรวมพยานหลักฐานจำพวกนิติวิทยาศาสตร์ อาทิ ข้อมูลจากกล้องวงจรปิด รายละเอียดการใช้โทรศัพท์ เพื่อหาความเชื่อมโยงของผู้ร่วมขบวนการ และเพื่อใช้ในการติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี


พร้อมกับสั่งการให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความระมัดระวังสูงสุด และหากมีการยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่สามารถป้องกันตัวได้ตามสถานการณ์


พล.ต.ท.อิทธิพลกล่าวว่า ส่วนความคืบหน้าในการติดตามไล่ล่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจากกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม ได้ลงพื้นที่ 3 จังหวัดคือ พัทลุง ตรัง สตูล หลังจากพบความเคลื่อนไหวของนายเชาวลิต และพบด้วยว่าขณะนี้นายเชาวลิตมีอาวุธปืนสงครามร้ายแรงติดตัว หากเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่เชื่อว่าจะมีการยิงต่อสู้


“เชื่อว่ายังไม่หนีไปไหนไกล อยู่ใน 3 จังหวัด ส่วนรถที่จอดท่าเรือสตูลนั้นเป็นกลลวงมากกว่า บอกแล้วว่านักโทษเชาวลิตเป็นนักโทษที่ไม่ธรรมดา ห่วงเจ้าหน้าที่ ต้องทำงานด้วยความระมัดระวัง สำหรับความคืบหน้าในการสอบปากคำ น.ส.ไหม และ น.ส.หมวย ทั้งคู่ยังให้การภาคเสธ แต่เรามีหลักฐานสามารถเอาผิดได้”

-------------
สำหรับนายเชาวลิต หรือเสี่ยแป้ง ถ้าเอ่ยชื่อในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ไม่มีใครที่ไม่รู้จัก โดยเฉพาะสายนักเลง และสร้างอิทธิพลจนหลายคนต้องเกรงกลัว ไม่ว่าชาวบ้านหรือเจ้าหน้าที่รัฐ โดยประวัติการก่อคดีที่โชกโชน โดยเริ่มก่อคดีมาตั้งแต่ปี 2550 โดยคดีอุ้มฆ่าตำรวจ นปพ.สงขลา เหตุเกิดพื้นที่ ต.นาโหนด อ.เมือง ต่อมาได้ก่อคดีอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่เป็นคดีและไม่เป็นคดี โดยลงมือเองและให้ลูกน้อง ลงมือ


ส่วนรายได้หลักของเสี่ยแป้ง คือปล่อยเงินกู้ โดยการปล่อยเงินกู้ แม้เสี่ยแป้ง จะไม่ได้ปล่อยเอง แต่เป็นที่ทราบดีของคนในพื้นที่ว่า เป็นอีกธุรกิจผิดกฎหมายที่เสี่ยแป้ง และภรรยา มีลูกน้องไว้ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหดรายวัน อีกทั้งเป็นทีทราบกันว่าเสี่ยแป้ง มักรับงานอุ้มรีดทรัพย์ กลุ่มธุรกิจมืด ร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐ และคนมีสี ในแถบพื้นที่ นครศรีธรรมราช พัทลุง กระบี่ หากไม่จ่ายก็ถูกจับ พวกประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย จึงยอมจ่ายเพื่อเปิดทางให้ธุรกิจมืดเดินหน้าได้ต่อไป


ช่วงปี 2562 ถือเป็นช่วงที่ให้ลูกน้องก่อเหตุมากที่สุดในพื้นที่จังหวัดพัทลุง โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย อย่างคดียิง 3 ศพ หน้าสำนักงาน ธกส.ท่ามิหรำ ที่ลูกน้อง 3 คนใช้รถยนต์กระบะยิงอุกอาจกับคู่อริที่นั่งรถมาเสียชีวิต ซึ่งต่อมาตำรวจจับกุมคนร้ายได้ และศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ลูกน้องทั้ง 3 คน


เมื่อลูกน้องโดนจับเสี่ยแป้งเงียบไปพักหนึ่งก่อนสร้างทีมลูกน้องใหม่ และมีตำรวจอารักขาเป็นคนขับรถให้ และกลับมาผงาดอีกครั้ง เพราะด้วยความสนิทกับผู้บังคับการพัทลุง น้าชายเป็นผู้กำกับเขาชัยสน พร้อมทั้งเข้าไปดูแลนักการเมืองดังสงขลาอย่างนายเดชอิศม์ ขาวทอง ในสมัยนั้น ทำให้ไม่มีใครกล้าแตะ


ก่อนมาก่อเหตุชิงตัวผู้ต้องหาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 8 เมื่อปี 62 และก่อคดีพยาฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลงพัทลุง


โดยช่วงนั้นสี่ยแป้งพยายามสร้างภาพลักษณ์ให้ตัวเองดูดี เพื่อไต่ตัวเองเป็นนักการเมืองท้อง หลังได้รับแรงสนับสนุนจากนักการเมืองใหญ่สงขลา ออกเดินพบปะชาวบ้าน มอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ยากไร้ และผู้ป่วยติดเตียง ในพื้นที่ ต.ท่าแค / ต.นาโหนด อ.เมือง จ.พัทลุง แต่โชคร้ายถูกศาลตัดสินจำคุกในข้อหาพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยควบคุมตัวไว้ที่เรือนจำพัทลุง ได้ 6 เดือน


ด้วยบารมีในเรือนจำและลูกน้องหลายคนที่อยู่ในเรือนจำทำให้ได้มีการทำร้ายนักโทษในเรือนจำที่เป็นคู่อริ อย่างฉุย รักษ์จันทร์ ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงตำรวจกองปราบเสียชีวิต เมื่อเข้าไปในเรือนจำถูกเสียแป้งทำร้าย จนทางเรือนจำได้แยกตัวเสี่ยแป้งไปฝากขังไว้ที่เรือนจำกกลางนครศรีธรรมราช


แต่ช่วงจังหวะที่ไปอยู่ในเรือนจำนครศรีธรรราช เสียแป้งอ้างอาการป่วย จนออกมารักษาตัวหลายครั้ง โดยช่วงที่รักษาตัวก่อนหน้านี้มีทั้งเพื่อนฝูง ลูกน้องไปเยียมตลอด จนถึงเวลาที่ต้องหนีออกมาจาก รพ.


โดยก่อนที่จะหนีออกจาก รพ.นครศรีธรรมราช วันที่ 19 ตุลาคม 66 ได้มีอดีตนักการเมืองในพื้นที่ จ.พัทลุง พร้อมตำรวจสังกัด สภ.เมืองสุราษฎรานี และเพื่อน ไปเปิดโรงแรมนอนในตัวเมืองนครศรีธรรมราช


วันที่ 20 ตุลาคม 66 เสี่ยแป้งเดินทางออกจากเรือนจำเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล // และกลางดึกวันที่ 21 ตุลาคม 66 ต่อเนื่องคืนวันที่ 22 ต.ค. ได้หนีออกจาก รพ.  


ชึ่งล่าสุดจากหลายข้อมูลที่มีกระแสว่าเสียแป้งได้หนีออกไปยังต่างประเทศ โดยข้อมูลของตำรวจสืบสวนภาค 9 เชือว่ายังไม่ได้หนีออกไป เป็นแผนลวงของลูกน้องเสี่ยแป้ง เพราะเชื่อว่าฐานเสี่ยแป้ง ญาติพี่น้องที่คอยช่วยเหลืออยู่ในพื้นที่ จ.พัทลุง และสตูล ทำให้เสียแป้งมีโอกาสรอดมากกว่า และมีโอกาสที่จะออกมาก่อเหตุช้ำได้ดีกว่า


โดยเป้าหมายที่หลบหนีล่าสุดคาดว่ายังอยู่ในพื้นที่ อ.มะนัง จ.สตูล เพราะเสี่ยแป้งอาศัยความคุ้นเคย และเคยชินพื้นที่ดังกล่าวพร้อมกับมีญาติพี่น้องเยอะบริเวณนั้น จึงเชื่อว่ายังไม่หนีออกต่างประเทศ

-------------


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/GLEgG0eRbgw

คุณอาจสนใจ

Related News