คาดออกนอกประเทศแล้ว! เจอรถ 'เสี่ยแป้ง' ใกล้มาเลย์ – สาวเฝ้าไข้สารภาพ ถูกจ้าง 2 แสน บ้าน 1 หลัง ช่วยพาหนี

เปิดคลิปเส้นทางหลบหนี 'เสี่ยแป้ง' พบสัญญาณอยู่ในพื้นที่ จ.สตูล ขณะที่ชุดไล่ล่าพบรถพาเสี่ยแป้ง หนีใกล้ท่าเรือโซนติดมาเลย์ คาดออกนอกประเทศแล้ว ด้านสาวเฝ้าไข้ เสี่ยแป้ง รับสิ้น ถูกจ้าง 2 แสน บ้าน 1 หลัง ช่วยพาหนี แฉนำเงิน 100 ล้านล่อ จ้างวาน ทีมงานวางแผน

กรณีนายนายเชาวลิต ทองด้วง อายุ 37 ปี หรือ เสี่ยแป้ง นาโหนด เป็นนักโทษคดีดังหลายคดี หลบหนีออกจาก โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราชขณะถูกควบคุมตัว

โดยกล้องวงจรปิดที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เผยให้เห็นนาที นักโทษชายเชาวลิต ทองด้วง อายุ 37 ปี หรือเสี่ยแป้ง นาโหนด เดินออกจากลิฟท์ ในชุดเสื้อ-กางเกงสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว ไม่มีโซ่ตรวนพันธนาการ โดยมีลูกน้องพาออกจากโรงพยาบาล

จากนั้นได้เดินไปขึ้นรถกระบะสีขาว 4 ประตู ทะเบียน 8 กจ 3212 กรุงเทพมหานคร ที่นายจักรี หรือ บิ๊ก อายุ 41 ปี ลูกน้องอีกคน ขับมาจอดรอ จากนั้นได้ขับหนี โดยมีรถในขบวนหลบหนี รวมทั้งหมด 3 คัน

และล่าสุดวานนี้ (23 ต.ค.) พบกล้องวงจรปิดเส้นทางหลบหนีออกจากโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช มุ่งหน้าผ่านสีแยกหัวถนน ออกจากตัวเมืองผ่านบ้านชะเมา ตำบลท่าเรือ

โดยที่สี่แยกหัวถนน อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช เผยให้ขบวนรถที่พาเสี่ยแป้งหลบหนี หลังวิ่งออกจากโรงพยาบาล โดยคันแรกเป็นรถเก๋ง ฮอนด้าซีวิคสีดำ คันที่สองเป็นกระบะ 4 ประตู สีขาว วิ่งฝ่าไฟแดงผ่านทางแยกไปอย่างรวดเร็ว ส่วนรถที่เสี่ยแป้งนั่งมา เป็นกระบะคันที่ 3 เมื่อถึงทางแยกได้จอดชะลอดูรถก่อน จากนั้นก็วิ่งฝ่าไฟแดงตามกันไป

เบื้องต้นมีข้อมูลว่า หลังจากผ่านจุดนี้ เสี่ยแป้งกับลูกน้องคู่ใจ ได้ขับมุ่งหน้าเข้าจังหวัดตรัง แล้วไปที่จังหวัดกระบี่ เพื่อไปหาลูกพี่ แล้วมุ่งหน้าชายแดนประเทศเมียนมา แต่ถูกปฏิเสธ จึงต้องย้อนกลับมาที่จังหวัดพัทลุง ซึ่งล่าสุด ได้เบาะแสมาว่า ได้หลบหนีเข้าพื้นที่จังหวัดสตูล แล้ว

โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้ากดดันทางครอบครัวของนายเชาวลิตให้ประสานพามอบตัวโดยเร็ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้า ซึ่งก็อยู่ระหว่างการล่าตัวมารับโทษต่อไป

ส่วนนายจักรี แป้นน้อย และนายจีรวุฒิ ชุมศรี ลูกสมุนที่พาเสี่ยแป้งหลบหนี แนวทางสืบสวนพบว่าหลังจากช่วยเสี่ยแป้ง หลบหนีออกจากโรงพยาบาลสำเร็จแล้ว มีการแยกย้ายกันหลบหนี

ขณะที่ตำรวจแกะรอยสัญญาณโทรศัพท์ เสี่ยแป้ง พบว่าหลังหลบหนีจากโรงพยาบาลพบสัญญาณโทรศัพท์ในพื้นที่ จ.พัทลุง และล่าสุดพบสัญญาณอยู่ในพื้นที่ จ.สตูล  

และยังมีรายงานอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดไล่ล่าภาค 8 ภาค 9 พบรถยนต์คันที่พาเสี่ยแป้ง หลบหนีจาก รพ.มหาราชฯ ถูกจอดทิ้งไว้ใกล้ท่าเรือแห่งหนึ่งใน จ.สตูล ซึ่งมีพื้นที่ติดต่อกับประเทศมาเลเซีย โดยคาดว่า เสี่ยแป้ง พร้อมคนช่วยเหลือ น่าจะหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว

ด้าน น.ส.วิลาวัลย์ หรือ ไหม อายุ 32 ปี พยานปากสำคัญ หญิงสาวที่รับจ้างเฝ้าไข้เสี่ยแป้งมาสอบสวน ให้ข้อมูลอ้างว่า ได้รับการว่าจ้างจากญาติให้เฝ้านักโทษ พร้อมกับยืนยันว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลบหนี หรือช่วยเหลือนักโทษคนดังกล่าว เนื่องจากวัน และเวลาเกิดเหตุ ญาตินักโทษได้ให้ไปซื้อของนอกโรงพยาบาล

โดยวานนี้ (23 ต.ค.) พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ ทองทิพย์ รอง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช นำตัว น.ส.ไหม อายุ 32 ปี มาสอบสวนอีกครั้ง หลังเค้นสอบอย่างหนัก น.ส.ไหมให้การเป็นประโยชน์ต่อคดีอย่างมาก ให้การซัดทอดมีผู้เกี่ยวข้องอีก 3 ราย คือ นายจีรวุฒิ หรือบอย / นายจักรี หรือบิ๊ก / และ น.ส.ยุวเรศ หรือหมวย มีการแบ่งหน้าที่กันทำ ในการพาเสี่ยแป้ง นาโหนด หรือนายเชาวลิต หลบหนี

ส่วน น.ส.ไหม ผู้รับจ้างเฝ้าไข้ยืนยันว่า นายเชาวลิต หรือเสี่ยแป้ง นำโทรศัพท์มือถือของเธอไปใช้ และประสานงานให้มีการหลบหนี หากสำเร็จจะให้ค่าตอบแทนเป็นเงิน 2 แสนบาท และให้บ้านที่ จ.ภูเก็ต อีก 1 หลัง แต่ที่ได้จริงตอนนี้คือเงิน 2 พันบาทที่นางหมวยโอนให้เท่านั้น

นอกจากนี้ น.ส.ไหม ยังให้ข้อมูลสำคัญกับตำรวจว่า นายเชาวลิต ใช้คีมตัดเหล็กตัดกุญแจ โดยทำในผ้าห่มเมื่อคืนวันที่ 20 ตุลาคม แล้ว 1 ครั้ง แต่ไม่สำเร็จ วันรุ่งขึ้นได้แจ้งผู้คุมขอเปลี่ยนโซ่ ปรากฎว่า ผู้คุมนำโซ่มาเปลี่ยนให้ มีการพันธนาการแบบหลวมมาก

จากนั้นวันที่ 21 ตุลาคม น.ส.ไหม ไปซื้อโทรศัพท์มือถือให้เสี่ยแป้ง กระทั่งดึกคืนวันที่ 21 ตุลาคม นายบอยซึ่งมาเฝ้านายเชาวลิตอยู่ด้วย โดยปะปนกับญาติคนอื่นๆ แบบเนียนๆ ได้ลงไปรับกุญแจจากนายบิ๊กด้านล่าง แล้วนำมาส่งให้ หลังจากนั้นนายเชาวลิตได้ใช้ผ้าห่มคลุมทับ ไขกุญแจจนสำเร็จ แล้วไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเดินลงไปด้านล่างหนีหายไปพร้อมกับนายบอย โดยมีภาพวงจรปิดบริเวณหน้าลิฟท์จับภาพไว้ได้ โดยเดินออกจากลิฟท์พร้อมกัน หลังพ้นกล้องวงจรปิดไป ได้มอบปืนขนาด 9 มม. เอาไว้ป้องกันตัวระหว่างหลบหนี ส่วนตนเองด้วยความตกใจยังอยู่ด้านบน กระทั่งเจ้าหน้าที่ทราบเรื่อง     

ขณะที่ พล.ต.ต.สมชาย ยังมีการตั้งข้อสังเกตความหละหลวมของการควบคุมนักโทษรายนี้ ทั้งการเปลี่ยนกุญแจข้อเท้าได้อย่างง่ายดาย เป็นการเอื้อต่อการหลบหนีหรือไม่ และพบด้วยว่าตลอดเวลาที่นอนอยู่ในหอผู้ป่วย นายเชาวลิตได้รับปืนขนาด 9 มม.จากลูกน้องซ่อนติดตัวอยู่ตลอดเวลาด้วย

พล.ต.ต.สมชาย เปิดเผยอีกว่า ขณะนี้ได้รวบรวมพยานหลักฐานทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกำลังเสนอศาลเพื่อขอหมายจับบุคลที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือนายเชาวลิต หรือเสี่ยแป้ง หลบหนีประมาณ 3-4 คน และอยู่ในระหว่างติดตามตัว ส่วนจะดำเนินการสอบสวนว่าเจ้าหน้าที่รัฐเอื้อหรือมีส่วนหรือไม่นั้นยังอยู่ในระหว่างการสอบสวน และเมื่อออกหมายจับแล้วจะส่งหมายไปยังท้องที่ใกล้เคียงที่บุคคลตามหมายจับอาศัยเพื่อติดตามจับกุมมาดำเนินคดี

สำหรับนายเชาวลิต หรือเสี่ยแป้งนั้นเป็นบุคคลอันตราย หากพบเห็นสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนพฤติการณ์หลบหนีในขณะนี้จากการติดตามกล้องวงจรปิดพบว่ามีผู้เกี่ยวข้องเบื้องต้นรวม 4 คนที่คอยช่วยเหลือในการหลบหนี ใช้รถยนต์อย่างน้อย 2 คัน คือกระบะมิตซูบิชิ สีขาว ทะเบียนจังหวัดพัทลุง

ขณะนี้ทราบแล้วว่าเป็นรถของมารดาหนึ่งในผู้ที่ช่วยเหลือนายเชาวลิต หรือเสี่ยแป้งหลบหนี อีกคันเป็นรถอีซูซุสีขาว และยังมีเก๋งต้องสงสัยสีดำอีกคัน ซึ่งกำลังตรวจสอบความชัดเจนว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ เจ้าหน้าที่ยังตั้งข้อสังเกตความหละหลวมของการควบคุมนักโทษรายนี้อีกด้วย

ขณะที่มีรายงานข่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่นายเชาวลิตวางแผนหนี ได้มีการหยิบเอาเงินที่ถูกอายัดไว้กว่า 100 ล้านออกมาล่อกับทีมงานวางแผนอีกด้วย

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/9_AM4-bGwiU