'ดอกแก้ว' ร่ำไห้อ้างไม่เกี่ยวตุ๋น ม.6 ผ่อนไอโฟนทิพย์ สุดท้ายสารภาพ ถูกหลอกเปิดบัญชีม้าแลกเงิน 300

"ดอกแก้ว" บัญชีม้าร่ำไห้ยันไม่เกี่ยวข้องหลอกนักเรียน ม.6 ตร.ไซเบอร์หิ้วเข้ากรุงสอบปากคำเข้ม สุดท้ายยอมรับ ถูกหลอกให้เปิดบัญชีม้า

 ความคืบหน้าคดีน้องพลอย นักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช ผูกคอเสียชีวิต เนื่องจากเครียดที่ถูกแก๊งมิจฉาชีพ หลอกให้ผ่อนซื้อโทรศัพท์ไอโฟน สูญเงินไปเกือบ 2 หมื่นบาท  ซึ่งตำรวจ สภ.เกาะทวด จังหวัดนครศรีธรรมราช ทำงานร่วมกับตำรวจไซเบอร์ เร่งล่าตัวแก๊งมิจฉาชีพกลุ่มนี้ รวมทั้งบัญชีม้าที่รับโอนเงินจากน้องพลอย  ซึ่งเจ้าของบัญชีชื่อ “ดอกแก้ว แก้วเจิม” มีภูมิลำเนาอยู่ที่ตำบลทุ่งลุยลาย อำเภอคอนสาร  จังหวัดชัยภูมิ

เมื่อวานนี้ (18 ต.ค.66) ตำรวจ สภ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ  เชิญตัวนางสาวดอกแก้ว แก้วเจิม อายุ 23 ปี เจ้าของบัญชีธนาคารที่น้องพลอยโอนเงินให้ มาสอบปากคำ เพราะต้องสงสัยว่าเป็นบัญชีม้าให้กับขบวนการมิจฉาชีพ  แต่นางสาวดอกแก้ว  ร่ำไห้ยืนยัน ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเปิดบัญชีม้า โดยตนมีบัญชีธนาคารอยู่ 3 บัญชี คือ ธนาคารกรุงไทย ที่ใช้ประจำ ธนาคารกสิกรไทย ที่ไม่ค่อยได้ใช้ เพราะจำรหัสเข้าแอปไม่ได้ และ ธนาคาร ธกส.ซึ่งเป็นบัญชีของลูกชายอายุ 4 ขวบ เปิดไว้รับเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด  ส่วนบัญชีธนาคารที่ผู้ตายโอนเงินให้มิจฉาชีพ ตนเองไม่เคยมี และไม่เคยรู้จักธนาคารนี้ด้วย  

ส่วนบัตรประชาชนของตน ไม่เคยทำหาย หรือนำไปสมัครอะไรในอินเตอร์เน็ต และไม่เคยรับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร  แต่เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนนำบัตรประจำตัวประชาชนไปมัดจำไว้ที่ร้านค้าในชุมชน เพื่อแลกข้าวสารกับไข่ไก่ที่ร้านค้า โดยสิ้นเดือนจะนำเงินไปใช้คืน  และตนก็เชื่อว่าข้อมูลบัตรของตนไม่ได้หลุดมาจากร้านค้าแน่นอน  ส่วนช่วงที่ตนไปทำงานที่กรุงเทพฯ  ตนจะรับเงินค่าแรงเป็นเงินสดบ้าง และผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย

แต่เมื่อ 2-3 ปีก่อนตนสมัครแอปเงินกู้  โดยใช้บัตรประชาชนและสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตน  คาดว่ามิจฉาชีพอาจจะเอาบัตรและข้อมูลส่วนตัวของตน ไปเปิดบัญชีเพื่อใช้หลอกลวง

นางสาวดอกแก้ว บอกด้วยว่า ตนเองมีอาชีพรับจ้างกรีดยาง ไม่เคยขายของออนไลน์ แถมไม่มีเงินเพียงพอแม้แต่จะส่งค่างวดรถ ตอนนี้ค้างค่างวดรถมากว่า 6 เดือนแล้ว และคิดจะปล่อยให้ไฟแนนซ์มายึดรถด้วยซ้ำ หากตนเป็นเจ้าของบัญชี หรือ หลอกลวงคนอื่น ก็คงมีเงินใช้หนี้ และ ไม่เป็นหนี้จนทุกข์ใจขนาดนี้

ด้านแม่ของนางสาวดอกแก้ว เล่าว่า ลูกสาวของตนนั้นได้ทำงานอยู่ที่ไร่ กรีดยางอยู่ตลอดเวลา ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวและไม่เคยเกี่ยวข้องกับแก๊งมิจฉาชีพ   อีกทั้งยังไม่เคยไปเปิดบัญชีที่ธนาคารดังกล่าว  ซึ่งตนก็ไม่รู้จักด้วยซ้ำว่าเป็นบัญชีธนาคารอะไร  พร้อมกับฝากให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียด  ขอความเป็นธรรมให้กับลูกสาวด้วย  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ตำรวจไซเบอร์ พานางสาวดอกแก้ว และแม่ขึ้นรถ เพื่อจะนำตัวมาสอบปากคำต่อที่กรุงเทพฯ พ่อของนางสาวดอกแก้ว มายืนส่งลูกขึ้นรถด้วย โดยกล่าวทั้งน้ำตาว่า ลูกสาวของตน ไปทำงานรับเหมาก่อสร้างทำหลังคากับสามี  นานๆ จะกลับมาบ้าน   ตนไม่เชื่อว่าลูกสาวจะไปเกี่ยวข้องกับการเปิดบัญชีม้าให้แก๊งมิจฉาชีพนำไปหลอกลวงชาวบ้าน  ตนไม่เชื่อว่าลูกสาวจะทำได้ จึงอยากขอความเป็นธรรมให้กับลูกสาวตนด้วย พร้อมบอกด้วยว่า ตนเป็นห่วงลูกมาก ยังไงลูกก็คือลูก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตรวจสอบประวัติของนางสาวดอกแก้ว  พบว่า มีประวัติคดีลักทรัพย์ 2 คดี  ในพื้นที่ สภ.คอนสาร จังหวัดชัยภูมิ   และพื้นที่ สภ.บ้านปรางค์ จังหวัดนครราชสีมา ตั้งแต่ปี 2557


ทันทีที่ตำรวจไซเบอร์คุมตัวนางสาวดอกแก้ว แก้วเจิม และแม่ มาถึงที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้คุยแชทกับน้องพลอย ผู้ตายหรือไม่ และได้รับจ้างเปิดบัญชีม้าหรือไม่  นางสาวดอกแก้วปฏิเสธที่จะตอบคำถาม  มีสีหน้าเคร่งเครียด และร้องไห้ ก่อนจะถูกนำตัวไปสอบสวน โดย พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 เป็นผู้สอบสวนด้วยตัวเอง

หลังจากนั้น พลตำรวจตรีชรินทร์  เปิดเผยว่า เบื้องต้น นางสาวดอกแก้ว ให้การว่า ก่อนหน้านี้  มีคนทักมาในแชทเฟซบุ๊กชวนหารายได้พิเศษ  ด้วยการเปิดบัญชีโดยมีค่าตอบแทนให้ 300 บาท ตนเองหลงเชื่อ จึงส่งภาพถ่ายหน้าตรง คู่กับบัตรประชาชนไปให้ แต่หลังจากนั้นก็ถูกบล็อคเฟซบุ๊กและไม่ได้รับเงินค่าจ้างตามที่ตกลงกัน

จากการตรวจสอบพบว่า บัญชีม้าของนางสาวดอกแก้ว ถูกเปิดเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเปิดบัญชีผ่านแอปลิเคชั่นของธนาคาร แล้วถูกนำไปใช้เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม โดยมีเงินโอนเข้ามาจากบัญชีของเด็กนักเรียนชั้น ม.6 ก่อนจะเสียชีวิตเพียง 2 วัน หรือ 15 ตุลาคม

เจ้าหน้าที่พบว่า นางสาวดอกแก้ว มีบัญชีธนาคารอยู่ทั้งหมด 4 บัญชี  เป็นบัญชีม้า 1 บัญชี ที่เชื่อมโยงกับการเสียชีวิตของนักเรียนชั้น ม.6 และเชื่อมโยงกับการกระทำผิดอีก 4 คดี ในพื้นที่ห้วยขวาง , บุคคโล , หัวหมาก และจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นการกระทำผิดในลักษณะคล้ายกัน คือ หลอกขายไอแพด ไอโฟน และหลอกทำงานผ่านออนไลน์  ส่วนอีก 3 บัญชี อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดหรือไม่  

 โดยตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ตำรวจควบคุมตัวนางสาวดอกแก้วไว้ที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5  เพื่อสอบปากคำอย่างละเอียด และแจ้งข้อหา ฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ โดยเตรียมจะควบคุมตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลอาญา รัชดา ในช่วงเช้าวันนี้ (19 ต.ค.66)

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/FRJ9UMiLI08