อาชญากรรม

ตำรวจ ยันไม่นิ่งนอนใจจับบ่อนบางนา ด้าน "โตโต้" ซัดเคยแจ้งความไปเมื่อ ก.ย. แต่เรื่องเงียบ

16 ต.ค. 2566

152 views

ตำรวจ สน.บางนา เปิดเผยข้อมูลกับทีมข่าวอาชญากรรม ช่อง 3 ว่า ทางตำรวจได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านกรณีลักลอบการเล่นการพนันในพื้นที่ตลาดดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา และคืนนั้นก็ได้ส่งชุดสายตรวจเข้าพื้นที่ สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ 1 ราย คือ นายธีรพร อายุ 40 ปี ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รวบรวมสำนวนเสร็จแล้วและส่งฟ้องต่อศาลแขวงพระโขนงวันนี้ ในข้อหาลักลอบเล่นการพนัน โดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนจะมีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องหรือไม่ ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนขยายผลเพิ่มเติมแล้ว


ส่วนที่เมื่อคืนนี้ที่นายปิยรัฐ จงเทพ สส.พรรคก้าวไกล ได้ใช้เครื่องขยายเสียงพูดแฉบริเวณด้านหน้าตลาดนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ส่งชุดสายตรวจพร้อมชุดสืบสวนลงพื้นที่เช่นเดียวกัน ก็ไม่พบว่ามีการลักลอบการเล่นการพนันอีกแล้ว จึงเชื่อว่ากลุ่มเล่นการพนันน่าจะเกรงกลัวต่อกฎหมายและไม่กล้าที่จะลักลอบเล่นการพนันอีก


ส่วนที่มีข้อมูลระบุว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับทาง ผกก.สน.บางนานั้น ยืนยันว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา นายปิยรัฐได้นำผู้เสียหายจำนวน 2 รายที่ถูกหลอกชักชวนให้มาเล่นการพนันเข้าพบพนักงานสอบสวนและ ผกก.สน.บางนา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งได้รายงานให้ทาง ผกก.ทราบถึงการลักลอบเล่นการพนันที่ตลาดนี้แล้ว


ยืนยันว่า ตำรวจ สน.บางนา ไม่ได้นิ่งนอนใจและทราบข่าวการเปิดลักลอบเล่นการพนันจากกลุ่มจัดงานเทศกาลในพื้นที่ แต่พอนำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจค้น ปรากฏว่ากลุ่มพวกนี้ไหวตัวทันและด้วยความที่ใช้อุปกรณ์การเล่นอย่างง่าย เช่น เหรียญสำหรับปั่นแปะกับโต๊ะพับ 1 ใบ ไม่ได้มีอุปกรณ์การเล่นหลัก ๆ เช่น ไฮโล ไพ่


พอตำรวจเข้าจับกุม ก็ทำลายหลักฐานอย่างรวดเร็วและตบตาเจ้าหน้าที่อ้างว่ารวมกลุ่มส่องพระ จึงทำให้ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ค่อนข้างที่จะทำงานลำบากในการจับกุมซึ่งหน้า แต่เมื่อคืนวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่จากการร้องเรียนของชาวบ้านและก็สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้


หลังจากนี้จะส่งสายตรวจและชุดสืบสวนไปกวดขันพื้นที่จัดงานเทศกาลตลาดเฉพาะกิจเหล่านี้ให้มากขึ้นร่วมกับอาสาสมัครชาวบ้าน เพื่อป้องกันการลักลอบการเล่นการพนัน รวมทั้งจะจัดชุดสืบสวนเพื่อหาข่าวและขยายผลเพิ่มเติมเพื่อให้ได้ตัวขบวนการลักลอบเร่งการพนันและนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป


นอกจากนี้ จะขอความร่วมมือประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนว่า หากพบเห็นเบาะแสการลักลอบเล่นการพนันในลักษณะเช่นนี้ ไม่ว่าจะจุดใดก็ตาม ให้แจ้งมาที่ตำรวจ สน.บางนา ได้เลยหรือสายด่วน 191 ได้ทันที เพื่อที่ตำรวจจะได้สามารถเข้าจับกุมผู้กระทำความผิดและเป็นการกวาดล้างการลักลอบเล่นการพนัน


ส่วนผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงให้มาเล่นการพนันจนเสียเงินเป็นจำนวนมาก ซึ่งนายปิยรัฐพามาพบตำรวจเมื่อคืนนั้น เบื้องต้นอยู่ในระหว่างการเชิญมาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานว่าพฤติการณ์ถูกหลอกอย่างไรและหาเส้นทางการเงิน ซึ่งหากพบว่าผู้รับเงินเข้าข่ายกระทำความผิดก็จะรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีต่อไป


ด้านนายปิยรัฐ จงเทพ สส.เขตบางนา-พระโขนง กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่า ว่า ลักษณะพฤติการณ์เล่นการพนันแบบนี้มีมาอย่างยาวนานเกินกว่า 10 ปี จากการตระเวนจัดเทศกาลอาหารหรือตลาดนัดเฉพาะกิจตามจุดต่าง ๆ


โดยกลุ่มลักลอบเล่นการพนันจะจัดซุ้มในลักษณะของเล่นเสี่ยงโชคทั่วไป เพื่อจูงใจให้ประชาชนที่เดินในงานสนใจและเข้าไปเล่น รูปแบบการเล่นจะเป็นในลักษณะของเกมเสี่ยงโชคทั่วไป เช่น ปั่นแปะ หมุนวงล้อ และเกมทายเหรียญ 3-8 ซึ่งผู้ที่สนใจจะเล่นนั้น จะต้องลงเงินครั้งละ 500 บาทขึ้นไปถึงจะเล่นได้ โดยมีหน้าม้าประมาณ 3-4 คน ทำทีเล่นและได้เยอะ ๆ เพื่อหลอกล่อให้คนที่สนใจมาดูและหลงเชื่อว่าหากลงเงินแล้วจะได้เยอะ ๆ หรือใช้ประโยคชวนเชื่อกับเหยื่อว่า "พี่ได้เงินเยอะแล้วน้องมาเล่นหน่อยไหม พี่มีเงินให้ยืม"


หากใครหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อ ก็จะหลวมตัวเข้าไปเล่นทันที ซึ่งแรก ๆ ก็จะได้ เงินกลับคืนมา เพื่อจูงใจให้เหยื่อเล่นต่อไป พอถึงจุดหนึ่ง ก็จะมีการโกงเพื่อให้ผู้เล่นเสีย จากนั้นหน้าม้าก็จะทำทียุยงให้ผู้เล่นลงต่อเพื่อถอนทุนคืน หากไม่มีเงินสด หน้าม้าก็จะให้ยืมหรือให้โอนเงินผ่านบัญชีไปยังผู้รับซึ่งเป็นบัญชีม้าของพวกเจ้ามือ จนสุดท้ายกว่าเหยื่อจะรู้ตัวก็สูญเงินไปมากแล้ว


นายปิยรัฐกล่าวว่า กลุ่มตลาดนัดเฉพาะกิจ จะเวียนจัดตามสถานที่ต่าง ๆ เดือนละครั้ง ครั้งละประมาณ 10 วัน และทุก ๆ คืนก็จะมีซุ้มจัดกิจกรรมลักลอบเล่นการพนันในลักษณะแบบนี้ อยู่กลางตลาดบ้างหรือท้ายตลาดบ้าง ประมาณ 5 ซุ้มต่องาน แต่ละซุ้มก็จะมีเจ้ามือ 1 คน บรรดาหน้าม้าประมาณ 3-4 คนได้ และมีกำลังการ์ดกระจาย อยู่บริเวณโดยรอบตลาด เพื่อป้องกันมิให้มีคนเข้ามาแอบถ่ายรูปหรือส่งเสียงโวยวายหากเสียพนัน ซึ่งเท่าที่ตนทราบจากชาวบ้าน พบว่าการ์ดพวกนี้มีการข่มขู่ที่จะทำร้ายร่างกายชาวบ้านที่มาแอบถ่ายรูปด้วย


ที่ผ่านมา นายปิยะรัตน์ได้นำเรื่องราวดังกล่าวไปปรึกษาหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรและแจ้งไปยังตำรวจท้องที่ตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา แต่ได้รับการตอบกลับแค่ว่า อยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนหาพยานหลักฐานหรือไม่ก็เปรียบเทียบปรับแล้ว


อีกทั้งเห็นว่า เรื่องกลับเงียบและไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหากวาดล้างกลุ่มลักลอบเล่นการพนันผิดกฎหมายพวกนี้ได้ ทั้งที่การกระทำความผิดสำเร็จแล้ว ตนจึงต้องการอยากที่จะช่วยประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อและให้ระมัดระวังกลุ่มเหล่านี้ เมื่อคืนที่ผ่านมา จึงได้ใช้เครื่องขยายเสียงพูดแจ้งเตือนประชาชนบริเวณด้านหน้าตลาดย่านแบริ่ง เพื่อให้ประชาชนระมัดระวังกลุ่มลักลอบเล่นการพนันเหล่านี้ แต่ก็ถูกการ์ดของกลุ่มลักลอบเล่นพนันเข้ามาอุ้มลำโพงของตนไป จนตนต้องรีบแจ้งให้ทีมงานของพรรคก้าวไกลช่วยกันเอาลำโพงกลับคืนมา และบอกว่า ตนเป็น สส.พื้นที่ กลุ่มการ์ดพวกนั้นเลยไม่มายุ่งอะไรกับตนอีก จึงทำให้เชื่อแน่ชัดว่า กลุ่มจัดงานและลักลอบเล่นการพนันกลุ่มพวกนี้นั้น ไม่ใช่คนในพื้นที่บางนาแต่อย่างใด แต่น่าจะเป็นขบวนการที่ทำพฤติการณ์ลักษณะแบบนี้ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล


สำหรับสิ่งที่น่ากังวลในกรณีนี้นั้น คือเรื่องของประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อเข้าไปเล่น โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นการพนัน จนสุดท้ายก็สูญเงินไปเป็นจำนวนมาก ตอนนี้เท่าที่ตนได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านมีมากกว่าถึง 10 ราย ว่า ตกเป็นเหยื่อถูกหลอกเข้าไปเล่นซุ้มพนันเหล่านี้


มีอยู่รายหนึ่ง รวมมูลค่าค่าเสียหายมากกว่า 320,000 บาท ส่วนที่เหลือเฉลี่ยแล้วเสียหายคนละหมื่นกว่าบาท ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่ง ที่กลุ่มลักลอบเล่นการพนันอาศัยหากินกับประชาชนที่ไม่รู้เรื่องอะไรและถูกหลอกใช้คนให้เข้าไปเล่น ยิ่งเสียมาก ก็ต้องยิ่งถอนทุนคืน


ในขณะที่นักพนันตัวยง เท่าที่ตนทราบจะไม่ค่อยมาเล่นในซุ้มงานเหล่านี้ เพราะรู้ว่าเล่นไปก็เสียเปล่า จึงน้อยมากที่จะมีนักพนันตัวจริงเข้าไปเล่น นอกจากหน้าม้าและเหยื่อ เมื่อคืนที่ผ่านมา ตนก็ได้นำเหยื่อ 2 รายที่ประสงค์แจ้งความ เข้าไปพูดคุยและแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.บางนาแล้ว แต่ในเรื่องทางคดี ต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ


สำหรับตำรวจท้องที่นั้น ตนได้รับคำตอบเพียงแค่ว่า ได้ดำเนินการตรวจสอบและขยายผลดำเนินคดีให้ แต่ตนก็ตั้งข้อสงสัยว่า ที่ผ่านที่ทำให้ขบวนการเหล่านี้ยังตระเวนกระทำความผิด เพราะตำรวจและหน่วยงานปกครองบ่ายเบี่ยงที่จะดำเนินการตรวจสอบและกวาดล้างเอาผิดกับกลุ่มลักลอบเล่นการพนัน ไม่รู้ว่าเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพลหรือไม่ แต่ตนเคยถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่เสนอเงินมาให้ เพื่อขอให้ช่วยเหลือในเรื่องของการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งตนก็ปฏิเสธ เพราะเป็นเรื่องผิดกฎหมายและตนมีอุดมการณ์ตั้งใจทำงานเพื่อประชาชน เลยไม่มั่นใจว่า ขนาดตนที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ยังถูกเสนอผลประโยชน์แบบนี้ แล้วหน่วยงานภาครัฐอื่น ๆ ในพื้นที่จะถูกเสนอเงินในลักษณะเช่นนี้หรือไม่


หลังจากนี้ ตนเตรียมที่จะเสนอกระทู้ถามสดในที่ประชุม สภาผู้แทนราษฎร ไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อถามถึงมาตรการการแก้ไขปัญหาลักลอบเร่งการพนันและแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องการเล่นการพนันกับผู้มีอิทธิพล รวมทั้งจะนำเรื่องเข้าสู่คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งตนก็เป็นกรรมาธิการเพื่อเตรียมแก้ไขกฎหมายปราบปรามการลักลอบเล่นการพนันและผู้มีอิทธิพลต่อไป


นายปิยรัฐ ยังได้ฝากเตือนถึงประชาชนที่พบเห็นลักษณะการลักลอบเล่นพนันที่หลอกล่อชักชวนให้ลงเงินว่า อย่าหลงเชื่อเข้าไปเล่น หากพบเห็นก็ขอให้หลบออกมา อย่าเดินเข้าไป เพราะกลุ่มพวกนี้ไม่ต่างอะไรจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกลวงเอาเงินประชาชน อีกทั้งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายโดยใช้งานเทศกาลเหล่านี้บังหน้าด้วย

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ