อาชญากรรม
รวบคนขายปืน-กระสุน ให้เด็ก 14 ไปกราดยิง อ้างไม่รู้ขายให้เด็ก 14 แชทบอก "ขอให้สนุกกับของเล่นนะครับ"
โดย nattachat_c
6 ต.ค. 2566
149 views
ภายหลังจากเกิดเหตุสะเทือนขวัญ จนกลายเป็นเหตุโศกนาฏกรรม เมื่อเด็กชายอายุ 14 ปี กราดยิงประชาชนในห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน จนมีชาวต่างชาติผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บ 5 ราย ก่อนที่เด็กชายจะถูกตั้งข้อหาหนัก และนำตัวส่งสถานพินิจ
วันที่ 5 ตุลาคม พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้มอบหมาย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ผบก.สส.บช.น. ติดตามเร่งรัดขยายผล
กระทั่ง ทางตำรวจ สน.ยานนาวา ได้มีการขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญากรุงเทพใต้ จับกุม 3 บุคคล ที่เกี่ยวข้องกับกรณีเด็ก 14 ปี กราดยิงในห้างสรรพสินค้า โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า บุคคลทั้ง 3 ราย เป็นผู้ที่จำหน่ายอาวุธปืนแบลงค์กันให้กับผู้ก่อเหตุ
-------------
ต่อมา ตำรวจสามารถจับกุมได้แล้ว 3 ราย คือ
รายที่ 1 นายสุวรรณหงษ์ พราหมณ์คณาจารย์ อายุ 44 ปี (พ่อเลี้ยงของนายอัครวิชญ์) จับกุมได้ที่ จ.ยะลา
รายที่ 2 นายอัครวิชญ์ ใจทอง อายุ 22 ปี (ลูกของนายสุวรรณหงษ์) จับกุมได้ที่ จ.ยะลา
รายที่ 3 นายปิยะบุตร เพียรพิทักษ์ อายุ 30 ปี (คนขายกระสุนปืนให้เด็ก 14) จัจับกุมได้ที่พระราม 3 เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ
โดยทั้งหมดจะถูกดำเนินคดีในข้อหา
- ร่วมกันมีอาวุธและเครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต
- ร่วมกันจำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต
------------
ไทม์ไลน์เด็ก 14 สั่งซื้ออาวุธปืนแบลงค์กัน-กระสุน นำมาก่อเกตุกราดยิงพารากอน พบติดต่อซื้อปืนผ่านทางไลน์ ตั้งแต่กลางเดือน ก.ย. ผู้ขายแชทตอบกลับมาว่า “ขอให้สนุกกับของเล่นนะครับ”
วันที่ 19 ก.ย. 66
ผู้ก่อเหตุได้ติดต่อซื้ออาวุธปืนผ่านทางไลน์ โดยพูดคุยกับแชทที่ใช้ชื่อว่า ลี ซอล ทักไปสอบถามว่า สนใจซื้ออาวุธปืน Glock 19 gen3 ราคา 16,000 บาท แต่ยังไม่สั่งซื้อปืน บอกขอเวลาก่อน แต่ได้สั่งซื้อเครื่องกระสุน 9 มม. จำนวน 1 กล่อง ราคา 1,800 บาท
วันที่ 20 ก.ย. 66
ผู้ก่อเหตุโอนเงินค่าเครื่องกระสุน เข้าบัญชีชื่อ นายปิยะบุตร จำนวนเงิน 1,800 บาท และแจ้งผู้ขายให้ส่งสินค้ามาที่คอนโดย่านสาทร จ่าหน้าเป็นชื่อตนเอง
วันที่ 21 ก.ย. 66
พัสดุถูกส่งมาถึงปลายทาง โดยปรากฎชื่อ ผู้ก่อเหตุเป็นผู้รับพัสดุด้วยตนเอง ตอน 11.24 น. จากนั้น ผู้ก่อเหตุจึงสั่งซื้อปืน glock 19 gen3 ตามที่คุยไว้ตอนแรก แล้วโอนเงินเข้าบัญชี นายสุวรรณหงษ์ จำนวนเงิน 16,000 บาท ตอนประมาณ 5 โมงเย็น โดยผู้ขายได้ตอบกลับว่า “ของมาจากอีกที่ ถ้าได้แล้วจะส่งให้”
วันที่ 25 ก.ย. 66
ผู้ก่อเหตุสั่งซื้อแม็กกาซีนเพิ่ม โอนเงินเข้าบัญชี นายปิยะบุตร จำนวนเงิน 1,020 บาท
วันที่ 27 ก.ย. 66
อาวุธปืน Glock 19 gen3 สีดำ พร้อมแม็กกาซีน 1 แม็ก ส่งมาถึงผู้ก่อเหตุ ต่อมาผู้ก่อเหตุส่งภาพสินค้าไปให้ผู้ขายดู ผู้ขายแชทตอบกลับมาว่า “ขอให้สนุกกับของเล่นนะครับ
วันที่ 1 ต.ค. 66
ผู้ก่อเหตุสั่งซื้อเครื่องกระสุนขนาด .38 มม. จำนวน1 กล่อง โอนเงินเข้าบัญชี นายปิยะบุตร จำนวนเงิน 2,820 บาท
3 ต.ค. 66 (วันเกิดเหตุ)
ในเวลาประมาณ 14.49 น. ผู้ก่อเหตุได้นำกระสุนใส่แม็กกาซีน แล้วถ่ายภาพไปให้ผู้ขายดู แล้วลงมือก่อเหตุยิงประชาชน ในห้างสยามพารากอน
-----------
วานนี้ (5 ต.ค. 66) เวลา 15.15 น.ตำรวจควบคุมตัว นายสุวรรณหงษ์ พราหมณ์คณาจารย์ และนายอัครวิชญ์ ใจทอง 2 พ่อลูก ขายอาวุธปืนให้ผู้ก่อเหตุ จาก อ.เมือง จ.ยะลา มาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สน.ยานนาวา รวมถึง นายปิยะบุตร เพียรพิทักษ์ ผู้ขายกระสุนปืนให้ผู้ก่อเหตุ ตำรวจได้คุมตัวมาสอบปากคำด้วยเช่นกัน
เมื่อมาถึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ขึ้นไปสอบปากคำที่ห้องประชุมชั้น 3 โดยมี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ // พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. // พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สอบปากคำเบื้องต้นในห้องประชุมด้วยตนเอง
ระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม นายอัครวิชญ์ คนผลิตอาวุธปืนแบลงค์กัน และ นายปิยบุตร คนขายกระสุนปืนให้ผู้ก่อเหตุ ว่า ทั้งคู่ทราบหรือไม่ว่า ขายปืนและกระสุนปืนให้เด็กอายุ 14 ปี แต่ทั้้งคู่ไม่ตอบอะไรเลย
นายสุวรรณหงษ์ พ่อของนายอัครวิชญ์ ได้บอกกับผู้สื่อข่าวระหว่างที่ถูกคุมตัวไปสอบสวนที่ชั้น 3 ของโรงพักว่า
ทราบว่า ลูกชายผลิตอาวุธปืนแบงค์กันไว้ขายตามอินเตอร์เน็ต ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยเตือนลูกชายไว้แล้วว่า ไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ แต่ลูกชายไม่เคยฟังตนเองก็ไม่รู้จะทำยังไง
ส่วนตัวยืนยันว่า ไม่ทราบเลยว่า ลูกชายได้ขายอาวุธปืนขายให้กับเยาวชนอายุ 14 ปี ที่ไปก่อเหตุ แต่เพียงตอนที่รับเงินมาจากคนซื้อ ลูกชายได้ใช้ชื่อบัญชีของตนเองเท่านั้น โดยยืนยันว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่ทราบด้วยว่า คนที่มาซื้อปืนแบลงค์กันจากลูกชาย เป็นเยาวชนอายุเพียงแค่ 14 ปี
ส่วน นายปิยบุตร คนขายกระสุนปืน ตำรวจจับกุมตัวได้ที่ทำงานย่านบางคอแหลม
โดยระหว่างจับกุม นายปิยะบุตร พกปืนแบลงค์กันติดตัว พร้อมกระสุนอีก 10 นัด จึงนำตัวไปตรวจค้นที่บ้านพัก พบกระสุนปืนขนาด .380 อีก 50 นัด และแม็กกาซีนอีก 2 อัน จึงได้จับกุมตัว แจ้งข้อกล่าวหา และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน
ซึ่งจนถึงตอนนี้ทั้ง 3 คน ยังให้การปฏิเสธว่า ไม่รู้ว่าลูกค้าคือเด็กอายุ 14 ปี และไม่รู้ว่าปืนที่ขายไปเป็นปืนที่เด็ก 14 ปี ใช้ก่อเหตุ
ส่วนที่มีรายงานว่าเด็กไปกู้เงิน 16,000 บาท มาซื้อปืน ยังให้รายละเอียดไม่ได้ เพราะตอนนี้ยังไม่สามารถสอบปากคำเด็กอายุ 14 ปีได้
ส่วนการออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมยังอยู่ระหว่างดำเนินการ
ส่วนกรณีที่มีภาพปรากฏว่าเด็กอายุ 14 ปี ได้ไปซ้อมยิงปืนที่สนามปืนแห่งหนึ่ง ประเด็นนี้ สน.ปทุมวัน จะเป็นผู้สืบสวนสอบสวน
----------
วานนี้ (5 ต.ค. 66) เวลา 13.10 น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. // พล.ต.ท.ธิติแสงสว่าง ผบช.น. // พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. // พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. // พล.ต.ต. มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผบก.น.8
ร่วมกันตรวจสถานที่ผลิต ดัดแปลงอาวุธปืน บีบีกัน แบลงค์กัน ย่านทุ่งครุ พื้นที่สน.ราษฎร์บูรณะ เชื่อมโยงเหตุกราดยิงภายในห้างสยามพารากอน
จากการสืบสวนทางโลกโซเชียลพบว่า มีการจำหน่ายอาวุธปืน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเสนอต่อศาลให้พิจารณาออกหมายค้น เพื่อเข้าตรวจค้นจับกุมความผิด และได้นำหมายค้น เข้าทำการตรวจค้นและจับกุมตัวนายวีระยุทธ์ หรือโอ๋ นทีธร อายุ 41 ปี
ทั้งนี้ ตรวจยึดอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน อุปกรณ์ดัดแปลงอาวุธปืนชนิดต่าง ๆ ให้สามารถยิงกระสุนปืนจริงขนาดต่าง ๆ ได้ ของกลางที่ตรวจยึดได้ จำนวน 48 รายการ/322 ชิ้น ประกอบด้วยกระสุนปืนขนาดต่าง ๆ หลายสิบนัด แม็กกาซีนกว่า 40 อัน ถังทดสอบอาวุธปืน 1 ถัง
ตลอดจนหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องกับคดี และยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) จำนวน 2 ถุง น้ำหนักรวมถุง 6.02 กรัม โดยพบอุปกรณ์ที่มีลักษณะเชื่อมโยงกับเหตุกราดยิงที่ ห้างพารากอน โดยจะได้ดำเนินการขยายผลต่อไป
โดยได้แจ้งข้อหานายวีระยุทธ์
- มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
- ทำ ประกอบซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มี หรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปีนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต
- ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทหนึ่ง เมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายเสพยาเสพติดให้โทษประเภทหนึ่ง เมทเเอมเฟตามีน (ยาไอซ์) โดยผิดกฎหมาย
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เผยว่า
จากการขยายผลตรวจค้นพื้นที่ดังกล่าว ทางกองบังคับการตำรวจนครบาล 8 และตำรวจพื่นที่ ได้เฝ้าติดตามผู้ต้องหาดังกล่าวมานานกว่า 2 เดือนแล้ว แต่ยังเข้าพื้นที่ไม่ได้ เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นกลุ่มนิรนาม จะเปิดเผยตัวตนเฉพาะในดาร์กเว็บเท่านั้น (กลุ่มขายอาวุธปืนเถื่อน)
ซึ่งผู้ต้องหาได้มาเช่าบ้านหลังดังกล่าวภายใน ซอยประชาอุทิศ 65 ที่จะมีซอกซอยตันด้านใน และมีเส้นทางเข้าออกมีเพียงทางเดียว อีกทั้ง ยังมีการติดตั้งกล้องวงจรปิด รวมถึงผู้ต้องหาไม่เคยเปิดเผยตัวตน หรือออกจากบ้านเลย
หลังจากตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของเยาวชนอายุ 14 ทำให้พบความเชื่อมโยงกับ กลุ่มเครือข่ายที่ติดต่อกับเยาวชนอายุ 14 ที่มีความเกี่ยวข้องกับบ้านหลังดังกล่าว ทำให้ตำรวจสบโอกาสเข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งมีรายงานว่าตำรวจได้ขอหมายค้นและหมายจับ และมาตรวจคนไปแล้ว เมื่อคืนวันที่ 4 ต.ค.
ส่วนหมายจับที่ออกนั้นเป็น สามีภรรยาเจ้าของบ้าน ซึ่งตัวภรรยานั้นหลบหนีไปก่อนหน้านี้ จับกลุ่มได้เพียงตัวสามีก็คือนาย วีระยุทธ นทีธร อายุ 41 ปี หรือ โอ๋ ยี่เรือ พบเคยมีประวัติถูกดำเนินคดีเกี่ยวข้องกับอาวุธปืนเถื่อน มีปี 2558 และออกจากเรือนจำมา เมื่อปี 2562 และหวนกลับมาทำอาชีพเดิมได้ 2 ปี และจะเปลี่ยนแปลงที่อยู่ปีละครั้ง
จากการจรวจค้น พบของกลางจำนวนมาก ทั้งอุปกรณ์ดัดแปลงปืนเถื่อน อุปกรณ์ทดสอบการยิง ที่มีการเก็บเสียงเป็นอย่างดี ทำให้เพื่อนบ้านใกล้เคียงไม่มีใครรู้หรือได้ยินเสียง และตำรวจ ยังพบหลักฐานสำคัญอย่างน้อย 2 ชิ้น ที่เชื่อมโยงกับอาวุธปืนที่เยาวชนอายุ 14 ใช้ก่อเหตุ แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ชัดเจนต้องรอการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง
ส่วนหัวกระสุนปืนที่ถูกใช้ในการยิงทดลอง ที่ตกอยู่ในบ้านก็ถือว่าเป็นประโยชน์ในการสืบสวน เพราะสามารถนำไปตรวจสอบเทียบเคียงว่าเคยนำไปก่อเหตุที่อื่นหรือไม่
พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยว่า ตำรวจสืบสวนนครบาล 8 ได้ขยายผลการจับกุมผู้ขายอาวุธปืนผ่านช่องทางออนไลน์มานานกว่า 2 เดือน จนพบว่าสถานที่นี้ เป็นที่ผลิตปืนแบล็งกันและลำกล้อง รวมถึงแม็กกาซีนบรรจุกระสุน โดยผลการตรวจค้นพบชุดกันเสียง อุปกรณ์การไลฟ์สดและกล่องทดสอบการยิงปืน
ซึ่งกองพิสูจน์หลักฐาน จะนำไปเปรียบเทียบกับกระสุนปืนที่นำไปใช้ในเหตุกราดยิงที่ห้างพารากอนว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ จากนั้น จึงจะทราบด้วยว่าผู้ก่อเหตุ ขายปืนมานานเพียงใด โดยจะสืบสวนขยายผลต่อว่า ผู้ประกอบปืนรับอุปกรณ์ต่าง ๆ มาจากที่ใด และส่งขายที่ใดบ้าง
------------
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/aOpIpAtOIoc