อาชญากรรม

รวบเพิ่มเจ้าของบัญชีม้าเครือข่าย "สารวัตรซัว" สอบถามคําให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

โดย kanyapak_w

29 ก.ย. 2566

758 views

ตํารวจสอบสวนกลาง(CIB) รวบเพิ่มเจ้าของบัญชีม้าเครือข่ายสารวตัรซัว



กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้ การอํานวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ศราวุธ จันต๊ะวงค์ ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.นฤทธิ์ ผูกจิตร รอง ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.นพรัตน์ คํามาก รอง ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.เนติวิทย์ ธนาสิทธิ์นิติกุล รอง ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.พลวุฒิ ผาตินุวัติ รอง ผกก.2 บก.ป.



เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นําโดย พ.ต.ท.ปรัชญ์ แม้นเดช สว.กก.2 บก.ป. พร้อมด้วย ด.ต.สังคม ม่วงนาค ผบ.หมู่ กก.2 บก.ป., ด.ต.วันชัย สมนาค ผบ.หมู่ กก.2 บก.ป., ด.ต.จิรศักดิ์ มั่งคั่ง ผบ.หมู่ กก.2 บก.ป., จ.ส.ต.สาทิส พากเพียร ผบ.หมู่ กก.2 บก.ป., ส.ต.อ.รัฐอิสระ ศิริวรรณ์ ผบ.หมู่ กก.2 บก.ป.



ร่วมกันจับกุม นายไตรทศฯ อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 2372/2566 ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2566 โดยกล่าวหาว่ากระทําความผิดฐาน “ร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันออนไลน์ หรือ ทําอุบายล่อช่วยประกาศโฆษณา หรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่น หรือเข้าพนันในการเล่น ซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ซึ่งเป็นการจัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ,สมคบ โดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทําความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทําความผิดฐานฟอกเงิน เพราะเหตุที่ได้สมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน”



สถานที่จับกุม บริเวณริมถนน ตําบลพลิ้ว อําเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี



พฤติการณ์ เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2566 กองปราบฯ เปิดปฏิบัติการ “ชัตดาวน์เครือข่ายอั้งยี่ มาเฟีย พนันออนไลน์ เป็นต่อกรุ๊ป หรือเครือข่ายสารวัตรซัว ครั้งที่ 4” หลังกระจายกําลังเข้าตรวจค้น พื้นที่เป้าหมาย 39 จุดทั่วประเทศ จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “อั้งยี่, ร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันฯ, สมคบ ฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน” เปิดปฏิบัติการกวาดล้างจับกุมเครือข่ายดังกล่าวรวม 4 ครั้ง ตั้งแต่เดือน ก.พ. ที่ผ่านมา โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 57 ราย คงเหลือผู้ต้องหา 19 ราย ซึ่งยังหลบหนีอยู่ทั้งในและ ต่างประเทศทั้งนเี้ครือข่ายสารวัตรซัวเป็นองค์กรอาชญากรรมขนาดใหญ่ซับซ้อนต้องใช้เวลาในการแกะรอย สืบสวน ติดตามจับกุมผู้กระทําผิด



ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กองกํากับการ 2 กองบังคับการปราบปราม ได้เฝ้าแกะรอยผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี อยู่ในประเทศ โดยสืบทราบว่า นายไตรทศฯ หนึ่งในผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2372 / 2566 ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2566 ที่ยังคงหลบหนีการจับกุม กบดานอยู่ที่ อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี จึงเฝ้าติดตามจนพบ บุคคลมีตําหนิรูปพรรณตรงกับ นายไตรทศฯ เดินอยู่บริเวณริมถนนทางขึ้นน้ําตกพลิ้ว จึงได้ร่วมกันแสดงตัว



เป็นเจ้าหน้าที่ตํารวจพร้อมแสดงความบริสุทธิ์ใจแล้ว ได้ขอตรวจสอบบัตรประจําตัวประชาชน ซึ่งนายไตรทศฯ แจ้งว่าทําบัตรประชาชนหาย จึงได้ตรวจสอบเอกสารทะเบียนบ้านและเอกสารแสดงผลการเรียน พบว่ามีตําหนิ รูปพรรณ ชื่อหมายเลขบัตรประจําตัวประชาชนตรงตามหมายจับ จึงได้แสดงหมายจับของศาลจังหวัดอาญาฯ ให้ นายไตรทศฯ ตรวจดู อ่าน พร้อมทั้งแจ้งข้อความในหมายจับ ทั้งนี้ นายไตรทศฯ ยอมรับว่าเป็นบุคคลตาม หมายจับของศาลอาญาฯ ดังกล่าวจริง



เจ้าหน้าที่ตํารวจชุดจับกุมควบคุมตัวมาทําบันทึกการจับกุมตัวที่ กองกํากับการ 2 กองบังคับการ ปราบปราม เสร็จแล้วนําตัวส่ง พนักงานสอบสวน กองกํากับการ 2 กองบังคับการปราบปราม เพื่อดําเนินการ ตามกฎหมายต่อไป



สอบถามคําให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา



คุณอาจสนใจ

Related News