เปิด 7 หน่วยงานรัฐ ส่อเอื้อ 'กำนันนก' ฮั้วประมูล งบ 7,500 ล้าน - แฉระบบ e-bidding ก็ฮั้วได้

วานนี้ (13 ก.ย. 66) นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยกับทีมข่าวอาชญากรรม ถึงอาการล่าสุดของ 'กำนันนก' ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ว่า

ตลอด 4 วัน ที่ผ่านมา กำนันนกอยู่ในสภาพปกติ กินข้าวได้ พักผ่อนดูโทรทัศน์  สามารถปรับตัวในการใช้ชีวิตในเรือนจำได้ ไม่มีปัญหาทางสุขภาพ และไม่มีภาวะอาการความเครียดใด ๆ และไม่ได้ร้องขอที่จะพบทนายความเป็นพิเศษด้วย

ตอนนี้ กำนันนกยังคงอยู่ในกระบวนการแรกรับ ตามมาตรฐานการปฏิบัติงานของเรือนจำ ซึ่งจะครบระยะกักโรค 5 วันแรก ในวันนี้ (14 ก.ย. 66) ก่อนจะส่งต่อไปยังห้องกันชนต่อ อีก 5 วัน แล้วหลังจากนั้น จะพิจารณาส่งตัวกำนันนกเข้าสู่แดนต้องขังของนักโทษไม่เด็ดขาด

ส่วน 6 นายตำรวจ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาที่ช่วยกำนันนกหลบหนี ถูกนำตัวไปฝากขังที่เรือนจำจังหวัดสมุทรสงคราม

นางจิตรา ประเสริฐโสภา ผู้บัญชาการเรือนจำกลางสมุทรสงคราม เปิดเผยว่า ตำรวจทั้ง 6 นาย ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง กินได้ นอนหลับ และปฏิบัติตามระเบียบประจำวันได้ ตั้งแต่วันแรกรับ ทุกคนมีความเครียดบ้างเล็กน้อย ซึ่งตอนนี้ ทั้ง 6 คน มีสุขภาพจิตใจที่ดีขึ้นบ้าง

ส่วนปัญหาทางสุขภาพ พบว่ามี 4 นายที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิต เบาหวาน แต่ยังไม่มีใครมีอาการเจ็บป่วยรุนแรง ซึ่งได้ประสานญาติให้นำยารักษาโรคประจำตัวมามอบให้ เพื่อรักษาตามอาการแล้ว

ทั้งนี้ ทางเรือนจำได้เฝ้าสังเกตการณ์ผ่านกล้องวงจรปิดตลอดเวลา รวมทั้งได้จัดทีมแพทย์ และจิตแพทย์ คอยเฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด

----------

วานนี้ (13 ก.ย. 66) ทีมข่าวรวบรวมรายละเอียดโครงการรัฐ 7 หน่วยงาน ที่บริษัทของ 'กำนันนก' เคยรับงานมาแล้วว่า มีที่ไหนบ้าง โดยประกอบไปด้วย

1. กรมการปกครอง

2. กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น

3. กรมทางหลวง

4. กรมทางหลวงชนบท

5. กองทัพอากาศ

6. สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา

7. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

-------------

เมื่อแบ่งเป็น 2 กระทรวงหลัก

กระทรวงที่หนึ่ง คือ 'กระทรวงมหาดไทย' แบ่งออกเป็น 2 กรม ได้แก่ กรมการปกครอง และ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น

เป็นโครงการของกรมการปกครอง 71 โครงการ

• วงเงินงบประมาณ 78,979,540 บาท
• ราคาที่กำนันนกประมูลได้ อยู่ที่ 65,126,672 บาท
• มีค่าความแตกต่าง 13,851,868 บาท
• คิดเป็นค่าเฉลี่ยโครงการละ 1,112,373.80 บาท

เป็นโครงการขอกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น 1,206 โครงการ

• วงเงินงบประมาณ 3,657,356,798.72 บาท
• ราคาที่กำนันนกประมูลได้ อยู่ที่ 3,270,899,520. 47 บาท
• มีค่าความแตกต่าง 386,457,278.25 บาท
• คิดเป็นค่าเฉลี่ยโครงการละ 3,032,634.16 บาท
  

กระทรวงที่สอง คือ กระทรวงคมนาคม แบ่งออกเป็น 2 กรม ได้แก่ กรมทางหลวง และ  กรมทางหลวงชนบท

เป็นโครงการของกรมทางหลวง 110 โครงการ

• วงเงินงบประมาณ 2,323,251,116 บาท
• ราคาที่กำนันนกประมูลได้ อยู่ที่ 2,125,789,533 บาท
• มีค่าความแตกต่าง 197,461,583 บาท
• คิดเป็นค่าเฉลี่ยโครงการละ 21,120,464.69 บาท

เป็นโครงการของกรมทางหลวงชนบท 153 โครงการ

• วงเงินงบประมาณ 1,484,535,624 บาท
• ราคาที่กำนันนกประมูลได้ อยู่ที่ 1,472,375,324 บาท
• มีค่าความแตกต่าง 12,160,300 บาท
• คิดเป็นค่าเฉลี่ยโครงการละ 9,702,847.22 บาท
  

-------------

โครงการของกองทัพอากาศ 2 โครงการ

• วงเงินงบประมาณ 16,580,000 บาท
• ราคาที่กำนันนกประมูลได้ อยู่ที่ 15,53,000 บาท
• มีค่าความแตกต่าง 1,527,000 บาท
• คิดเป็นค่าเฉลี่ยโครงการละ 8,290,000 บาท

-------------

โครงการของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา 1 โครงการ

• วงเงินงบประมาณ 10 ล้านบาท
• ราคาที่กำนันนกประมูลได้ อยู่ที่ 9,950,000 บาท
• มีค่าความแตกต่าง 50,000 บาท

-------------

โครงการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1 โครงการ

• วงเงินงบประมาณ 8,700,000 บาท
• ราคาที่กำนันนกประมูลได้ อยู่ที่ 5,621,200 บาท
• มีค่าความแตกต่าง 3,78,800 บาท

และ ยังมีอีก 20 โครงการ ที่มีมูลค่าสูงกว่า 30 ล้านบาท ที่ต้องตรวจสอบ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการในกรมทางหลวง // กรมทางหลวงชนบท // กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น

รวมทั้งหมด 1,544 โครงการ ราคาประมูล 6,964,815,249.47 บาท

----------
สำหรับรายละเอียด 2 โครงการ สังกัดกรมทางหลวง ที่ DSI ดำเนินตรวจสอบ เป็น บริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้าง จำกัด ของกำนันนก ที่เข้าข่ายมีพฤติการณ์การเสนอราคาด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) แบบผิดปกติ ได้แก่

การประกวดราคาจ้างก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 375 สาย ต.ลำลูกบัว - บรรจบทางหลวงหมาย 346

• ปีงบประมาณ 2564 ตั้งงบประมาณอยู่ที่ 350,000,000 บาท
• มีราคากลางอยู่ที่ 349,996,811 บาท
• บริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้าง จำกัด ประมูล e-bidding ได้ไป 240,000,789 บาท
• ต่ำกว่าราคากลาง 109,996,022 บาท

อีกทั้ง พบว่า 

• ในวันที่มีการประกาศโครงการ คือ ตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 2564 มีรายชื่อผู้ขอซื้อเอกสารหรือซื้อซอง จำนวน 32 บริษัท
• ทว่าในวันเคาะราคา หรือวันประมูล e-bidding วันที่ 17 พฤษภาคม 2564 ปรากฏเหลือชื่อรายชื่อผู้ยื่นเอกสารเพียงแค่ 3 บริษัท
• หนึ่งในนั้น คือ บริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้าง จำกัด

การประกวดราคาจ้างเหมาทำการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 375 สาย อ.ดอนตูม - ต.ลำลูกบัว

• ปีงบประมาณ 2560 ด้วยงบประมาณ 300,000,000 บาท
• มีราคากลางอยู่ที่ 299,929,880 บาท
• บริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้าง จำกัด ประมูล e-bidding ได้ไป 298,399,900 บาท

พบพิรุธว่า

• ในวันที่มีการประกาศโครงการตั้งแต่ 26 สิงหาคม 2559 มีรายชื่อผู้ซื้อซอง จำนวน 33 บริษัท
• ขณะที่ในวันเคาะราคา หรือวันประมูล e-bidding วันที่ 30 กันยายน 2559 ปรากฏเหลือชื่อรายชื่อผู้ยื่นเอกสารเพียงแค่ 4 บริษัท
• หนึ่งในนั้น คือ ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้าง จำกัด

เบื้องต้น ทาง DSI จะออกหมายเรียกบริษัทที่ซื้อซองประมูลทั้ง 2 โครงการ แต่ไม่ได้เข้าเสนอราคาจำนวน 58 บริษัท เข้าให้ปากคำภายในวันที่ 18-20 กันยายน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานว่า มีพฤติการณ์ฮั้วประมูล หรือถูกข่มขู่หรือไม่

----------

นางพิชญา ธารากรสันติ โฆษกดีเอสไอ และ ร้อยตำรวจเอก สุรวุฒิ รังไสย์ ผู้อำนวยการกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ แถลงข่าวการตรวจสอบโครงการจัดซื้อจัดจ้างของกำนันนก โดยพบว่า

จากข้อมูลตรวจสอบเบื้องต้น ตรวจสอบอย่างเร่งด่วน มี 2 โครงการ ที่เข้าข่ายอาจจะมีการกระทำความผิด คือ

• โครงการสร้างทางหลวง 375 สายตำบลลูกบัว-สาย 346
• โครงการถนนหลวง 345- ดอนตูม

2 โครงการนี้ ส่อแววทุจิรต และยังมีอีก 20 โครงการที่ DSI พบว่า เป็นโครงการที่มีมูลค่าสูงถึง 30 ล้านบาท ต้องดำเนินการสืบสวน ส่วนใหญ่เป็นโครงการในกรมทางหลวง // กรมทางหลวงชนบท // และกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น

จากนี้ ก็จะดำเนินการสืบสวน 1,514 โครงการ พบว่า บริษัท ป.รวีกนกฯ 30 ล้านขึ้นไป มี 2 โครงการ บริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ มีทั้งหมด 18 โครงการ พบเห็นข้อพิรุธ สงสัย 2 โครงการดังกล่าว โดยมีมูลค่า 350 ล้าน และ 300 ล้าน ดำเนินการมีข้อมูลค่อนข้างดี เพราะมีผู้ประมูลและชาวบ้านให้ข้อมูลในทางลับ ระบุว่า มีการฮั๊วประมูลจริง ซึ่งทางดีเอสไอก็จะสืบสวนในทางลับ และดำเนินการพบว่ามี ข้อมูลเข้าข่าย สมยอมราคากันได้ก็มีความผิด

โดยพบว่า โครงการแรกงบประมาณอยู่ที่ 300 ล้าน แต่ราคากลางอยู่ที่ 290 ล้าน และมีการประมูลที่ 240 ล้าน เป็นราคาที่ต่ำมาก “เรียกกันว่าฟันราคา”

นอกจากนี้ กลุ่มพวกนี้ ก็ยังมีพฤติกรรมที่ซื้อซองประมูลใกล้เคียงกัน และพบว่า  การตรวจค้นเมื่อเช้าวานนี้ ผู้ซื้อซองได้รับผลประโยชน์ด้วย ซึ่งจะมีการตรวจสอบต่อไป

สำหรับการประมูลในอดีต เวลาไปซื้อซอง จะมีคนดักกีดกั้น ตั้งแต่ทางเข้า แต่ปัจจุบันใช้ระบบ e-bidding พบว่า ทุกคนที่ซื้อซองจะคีย์ในระบบและวันเสนอราคา ก็จะมาเสนอราคา โดยคนที่ซื้อซอง จะไม่มีใครรู้ว่าใครซื้อซองบ้าง แต่ ทำไมกำนันนกถึงรู้ว่า มีใครบ้างซื้อซอง และรู้ราคา

“เรื่องนี้ ผอ.บอกว่า เขาต้องมีเครือข่ายรู้เรื่องการซื้อซอง เมื่อเขารู้แล้ว เขาก็ไปจัดการบล็อกไว้ โดยโครงการที่พบพิรุธ ก็มีผู้เสนอราคา 32 คน แต่พอถึงเวลาประมูลเหลือแค่ 3 บริษัทเท่านั้น ที่เหลือหายไปไหน”

กรณีนี้ ทางดีเอสไอ ได้พยานหลักฐานบุคคลและเอกสารแล้ว โดยจะมีการเรียกมาสอบปากคำอาทิตย์หน้า

และที่ผ่านมาพบว่า ผู้ที่ร่วมประมูลกับกำนันนก เคยมีบางคนโดนข่มขู่ด้วย ซึ่งจะมีการเรียกมาให้ข้อมูลเ ช่นกัน ซึ่งหากมาให้การ ก็จะกันในฐานะพยาน แต่หากไม่มา ก็ถือว่ารับเป็นประโยชน์ก็เท่ากับสมยอม จะตรวจเส้นทางการเงินและรายละเอียดอื่น ๆ ร่วมด้วย และจะต้องตรวจสอบเจ้าของโครงการด้วย เข้าข่ายความผิด

1. สมยอมกันทำให้รัฐขาดทุน

2. ถ้าเข้าไม่มาเพราะได้รับผลประโยชน์

3. คนที่ไปข่มขู่ จะมีโทษมากที่สุด

ส่วนการตรวจสอบ ขณะนี้ ยังไม่พบว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐไปเกี่ยวข้อง ซึ่งอาจจะยังสอบไม่ถึง เพราะตอนนี้ กำลังตรวจสอบเรื่องผู้มีอิทธิพลก่อน

ทั้งนี้ งบประมาณที่บริษัทของกำนันนกประมูลได้มา 95% อยู่จังหวัดนครปฐม

• จำนวน รวมวงเงิน 7,579,402,078.72 บาท
• ราคาประมูล 6,964,815,249.47 บาท
• มีค่าความแตกต่าง 614,586,829.25 บาท
• ทั้งหมด1,544 โครงการ

ซึ่งพฤติกรรมการกระทำแบบนี้ การกระทำนี้ ชั่วร้าย และร้ายแรง แบบครบวงรอบ

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่บริษัทกำนันนกสามารถประมูลได้หลายโครงการ เป็นเรื่องปกติที่บริษัทอื่น ๆ ทำได้แบบนี้หรือไม่ หรือว่ามีแบ็กดี  

ผอ.ระบุว่า จากการตรวจสอบประวัติ ก็ไม่มีใครทำแบบนี้ได้ นอกจากจะประมูลเก่ง และก็ตามที่นักข่าวรู้กัน แบ็กดี สังคมก้รับรู้ว่าคืออะไร

ทั้งนี้ ทางดีเอสไอเข้ามาทำเรื่องนี้ ก้ไม่กลัวเรื่องอิทธิพล หรือ กังวลใด ๆ ยืนยันจะทำให้ดี เพื่อให้ข้อเท็จจริงปรากฎ

----------

วานนี้ (13 ก.ย. 66) ทีมข่าวได้รับการเปิดเผยจาก คุณเล็ก ผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างรายหนึ่ง เกี่ยวกับวิธีการฮั้วประมูล การจัดซื้อจัดจ้างงานต่าง ๆ ของภาครัฐ

โดยคุณเล็ก บอกว่า ตนเองอยู่ในวงการนี้มาเกือบ 20 ปี รู้วิธีการซิกแซก และการฮั้วประมูล จัดซื้อจัดจ้างทุกรูปแบบ และยอมรับว่า ตนเองก็เคยทำการฮั้วประมูลอยู่บ่อย ๆ

ยกตัวอย่าง เมื่อ 10 ปี ก่อน หน่วยงานราชการหน่วยงานหนึ่ง มีโครงการจะก่อสร้างโรงแรมในพื้นที่ว่างเปล่า ของตนเอง และให้เอกชนเข้ามาเช่าระยะยาวเปิดให้บริการกับนักท่องเที่ยว งบประมาณก่อสร้างประมาณ 80 ล้านบาท

คุณเล็ก บอกว่า ตนเองต้องการชนะการประมูลโครงการนี้มาก ซึ่งมีคู่แข่งยื่นซองประมูล 10 ราย แต่ไม่ผ่านคุณสมบัติ จึงถูกคัดออกเหลือ 3 ราย รวมถึงบริษัทของคุณเล็ก

คุณเล็กใช้วิธีการหอบเงินสดใส่กระเป๋า กระเป๋าละ 10 ล้านบาท 2 กระเป๋า เพื่อซื้อบริษัทคู่แข่งทั้ง 2 บริษัท ให้ไม่ต้องมายื่นซองแข่ง

ซื้อคู่แข่ง 20 ล้านบาทยังไม่พอ คุณเล็กบอกว่า ต้องซื้อคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้าง ที่เป็นผู้ตรวจรับงานด้วย โดยทำดังนี้

• ลางดึกก่อนวันยื่นซองประมูล บริษัทของคุณเล็ก เชิญคณะกรรมการทั้งหมดมาทานข้าว
• จ่ายเงินซื้อกรรมการ
• ให้กรรมการตรวจดูรายละเอียดของซองประมูล ทั้งด้านราคา, ด้านเทคนิคและคุณสมบัติ ก่อนยื่นจริง
• พอถึงวันยื่นจริง ทุกอย่างก็ผ่านฉลุย
  

พอยุคสมัยเปลี่ยนไป ระบบการจัดซื้อจัดจ้าง เปลี่ยนมาใช้ระบบ e-bidding ยื่นซองประมูล ผ่านเว็บไซต์ของกรมบัญชีกลาง

คุณเล็กบอกว่า ก็สามารถฮั้วประมูลได้อยู่ดี และทำได้ 100% ด้วยวิธีการเดียวกัน คือ การซื้อคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานเจ้าของโครงการ

เช่น การก่อสร้างถนนระยะทาง 10 กิโลเมตร

• ก็ต้องพูดคุยรายละเอียดการก่อสร้างกับบริษัท ที่ฮั้วประมูลก่อน เพื่อล็อกสเปค
• พอถึงเวลาประกาศการจัดซื้อจัดจ้างผ่านระบบ e-bidding บริษัทที่ฮั้วประมูลก็ผ่านฉลุย ตรงสเปคทั้งราคา , เทคนิค และคุณสมบัติ
• พอถึงเวลาลงมือก่อสร้างจริง ๆ ก็ลดสเปค จากใช้เหล็กหนา 10 มิลลิเมตร ก็เหลือหนาเพียง 3 มิลลิเมตร เพื่อลดต้นทุน ลดสเปค
• และขั้นตอนสุดท้าย ซื้อคณะกรรมการตรวจรับงาน เพื่อให้การส่งมอบงานผ่าน

คุณเล็ก บอกอีกว่า กรณีของกำนันนก ตนเองมั่นใจว่า ฮั้วประมูล 100% เพราะตนเองอยู่ในวงการรับเหมาก่อสร้าง และประมูลงานของรัฐ มากกว่า 20 ปี การฮั้วประมูลก็จะทำกันในลักษณะนี้ เป็นเรื่องของเงิน และอิทธิพล

ตนเองเคยแข่งขันกับบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับประเทศก็เคยมาแล้ว ถึงขั้นถูกอุ้มขึ้นรถ ขอว่า ไม่ต้องยื่นประมูลแข่ง และให้เลือกระหว่างเงินกับชีวิต

ซึ่งตนเองก็ต้องเอาเงิน เพื่อเอาชีวิตรอด และหัวใจสำคัญของการฮั้วประมูล คือ การซื้อคน ซื้อเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่รับเงิน ตบมือข้างเดียวยังไงก็ไม่ดัง

----------