ศาลสั่งประหาร 'แม่-พ่อเลี้ยงโหด' ทำร้ายน้องพีพีดับ น้องเจ้าขาสาหัส สารภาพลดโทษเหลือคุกตลอดชีวิต

จากกรณี นายณัฐพล ทองดวง พร้อมด้วย นางอนันต์ มาเจริญศรี ย่า ของเด็กทั้ง 2 คน เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 65 เพื่อให้ช่วยติดตามคดี หลัง 'น้องเจ้าขา' ลูกสาววัย 3 ขวบถูกทำร้าย จนบาดเจ็บสาหัส และแจ้งความตำรวจ สภ.บางบัวทอง แต่คดีไม่มีความคืบหน้า

นอกจากนี้ ยังพบว่า น้องพีพี วัย 2 ขวบ หลานชายก็เสียชีวิตแบบมีปริศนา ไปก่อนหน้านี้ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 2 ราย

• น.ส.ณัธรวิชณ์ ณ ปัตตานี อายุ 27 ปี แม่แท้ ๆ ของน้องเจ้าขาและน้องพีพี

• นายทินกร กมลศิลป์ อายุ 29 ปี พ่อเลี้ยง

• ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น โดยทรมานทารุณโหดร้าย
  

-------------
ล่าสุด วานนี้ (30 ส.ค. 66) เวลา 09.00 น. ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี นายปิยณัฐ สุกยัง ทนายความเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วย นายณัฐพล ทองดวง พ่อของน้องเจ้าขาและน้องพีพี

ได้เดินทางมาร่วมฟังคำพิพากษาตัดสินในคดีนี้ โดยมีโจทย์เป็นพนักงานอัยการ ยื่นฟ้อง น.ส.ณัธรวิชณ์ ณ ปัตตานี อายุ 27 ปี จำเลยที่ 1 // นายทินกร กมลศิลป์ อายุ 29 ปี จำเลยที่ 2 แม่แท้ ๆ และพ่อเลี้ยงของน้องเจ้าขาและน้องพีพี โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยทรมาน ทารุณโหดร้าย

โดยในช่วงเช้านี้ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดนนทบุรีเตรียมออกนั่งบัลลังก์ตัดสินคดี  โดยมีพ่อและญาติของเด็กน้อยทั้งสอง มารอฟังคำตัดสิน

-------------

นายณัฐพล กล่าวว่ากล่าวว่า ตนอยากให้ตัดสินประหารชีวิต แต่เขารับสารภาพเลยได้ลดโทษ ก็กังวลว่า เขาจะหลุดคดี หรือได้รับโทษน้อยไป

ส่วนตัวอยากให้ประหารชีวิต เพราะกลัวว่าเมื่อพ้นโทษออกมาจะเป็นภัยกับสังคม ขนาดลูกตัวเองยังทำได้ขนาดนี้

ตอนนี้ อาการน้องเจ้าขาดีขึ้น ค่อย ๆ ตอบสนอง เริ่มเรียกปะป๋า เรียกย่า ได้แล้ว  พยายามทำกายภาพบำบัดให้กับน้อง แต่น้องยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องมีคนคอยดูแล แค่อากาศเปลี่ยนน้องก็จะเป็นไข้

ส่วนที่น้องโดนทำร้ายที่ศีรษะ ต้องรอหมอนัดตรวจอีกครั้ง ตอนนี้ไม่กังวล เพราะว่าตนกับย่าของน้องช่วยกันดูแลใกล้ชิด ตนอยากให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

-------------

ด้าน ทนายปิยณัฐ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ในชั้นพนักงานสอบสวน ทั้ง 2 คน ให้การปฎิเสธมาตลอด

จนมาถึงชั้นศาล ทั้ง 2 คน กลับคำให้การ เป็นยอมรับสารภาพยอมรับผิด เพราะอยากกลับตัวกลับใจ

แต่ในมุมของทางตนมองว่า เป็นการกระทำเพื่อให้ได้ลดโทษ เนื่องจากพยานหลักฐานทั้งจากทางแพทย์ที่ทำการรักษาเด็ก ค่อนข้างที่จะครบถ้วน จึงอยากขอให้ศาลตัดสินลงโทษให้ถึงที่สุด คดีนี้ไม่กังวล ศาลต้องตัดสินลงโทษอยู่แล้ว แต่จะหนักเบาแค่ไหนต้องรอฟังคำตัดสิน

--------------

ต่อมา เมื่อเวลา 11.30 น. นายณัฐพล ทองดวง พ่อของน้องเจ้าขาและน้องพีพี และ นายปิยณัฐ สุกยัง ทนายความ เดินทางออกจากห้องพิจารณาคดีของ ศาลจังหวัดนนทบุรี หลังขึ้นไปร่วมฟังคำตัดสินของศาล

โดยศาลมีคำพิพากษาให้ลงโทษ น.ส.ณัธรวิชณ์ ณ ปัตตานี อายุ 27 ปี แม่แท้ๆของน้องเจ้าขาและน้องพีพี // นายทินกร กมลศิลป์ อายุ 29 ปี พ่อเลี้ยง ในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยทรมาน ทารุณโหดร้าย ให้ทั้ง 2 คน จำคุกตลอดชีวิตหลังให้การรับสารภาพ

นายปิยณัฐ กล่าวว่า วันนี้ มาฟังคำพิพากษาอัยการ ฟ้องมาทั้งหมด 2 คดี คดีของน้องเจ้าขา 1 คดี และของน้องพีที 1 คดี

ศาลสั่งรวมการพิจารณา ข้อหาที่ฟ้องมาคือ พยายามฆ่าผู้อื่น และเจตนาฆ่าโดยทรมานและทารุณโหดร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289 อนุ 5

ในส่วนของจำเลยที่ 2 ที่เป็นแฟนใหม่ของแม่เด็ก มีการฟ้องในคดีข่มขืนกระทำชำเลาเพิ่มด้วย มีโทษประหารชีวิตทั้ง 2 คน แต่ในกรณียอมรับสารภาพ ศาลเห็นว่าเป็นผลดีต่อรูปคดี จึงลดโทษจากประหารชีวิต เหลือจำคุกตลอดชีวิตแทน

ด้านนายณัฐพล กล่าวว่า ยอมรับคำตัดสินของศาล ศาลให้เหตุผลมาว่าหากประหารชีวิตทั้ง 2 คน ใครจะมาชดใช้ค่าเสียหาย

แต่ตนไม่ทราบว่า ติดคุกตลอดชีวิตจะติดกี่ปี ฝากถึงทั้ง 2 คน แม้ศาลจะให้โอกาส แต่ฝั่งนี้จะไม่มีคำว่าอโหสิกรรม หรือยกโทษให้ แต่ก็ขอให้ทำตัวให้สังคมยอมรับและให้สังคมตัดสินอีกรอบว่า ควรจะอยู่หรือไม่อยู่ต่อไป

--------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/Co8jVyNsmMY