อาชญากรรม

คนร้ายปลอมแอปพลิเคชันไลน์เป็นคุณครู บังคับ ด.ญ.ถ่ายภาพโป๊เปลือย อ้างขอตรวจร่างกาย

โดย kanyapak_w

19 ส.ค. 2566

398 views

คนร้ายปลอมแอปพลิเคชันไลน์เป็นคุณครู บังคับ ด.ญ.ถ่ายภาพโป๊เปลือย อ้างขอตรวจร่างกาย ก่อนนำภาพไปโพสต์ลงโซเชียล



เพจเรื่องจริงนครนายก ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากผู้ปกครอง ของเด็กหญิงรายหนึ่งซึ่งเป็นลูกสาว วัย 12 ปี นักเรียน ชั้น ป.6 ได้ถูกคนร้ายปลอมตัวเป็นคุณครูในโรงเรียน ใช้แอปพลิเคชันไลน์คุย บังคับให้ถ่ายภาพโป๊เปลือย อ้างขอตรวจร่างกาย เด็กหลงเชื่อถ่ายส่งไป ก่อนภาพดังกล่าวถูกแชร์ว่อนในสื่อโซเชียล เพจเรื่องจริงนครนายกลงพื้นที่ไปยังบ้านของผู้ปกครองที่ร้องทุกข์มา เพื่อสอบถามแม่เด็กหญิง คนที่ร้องเรียน โดยเล่าว่า เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 66 มีเพื่อนของลูกสาว ชื่อดา(นามสมมติ) ได้ทักมาหาลูกสาว ว่าครูมะตูม ซึ่งเป็นครูผู้หญิงในโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอแก่งคอยจังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อกับอำเภอบ้านนาจังหวัดนครนายก จะขอคุยด้วย โดยให้แอดไลน์ไปหาครู




โดยได้ส่งคิวอาร์โค้ดไลน์มาให้เด็กผู้เสียหาย ซึ่งตอนแรกน้องดาได้บอกกับครูไปว่า น้องผู้เสียหายไม่เล่นไลน์ แต่ครูก็ขู่น้องดามาว่าทำยังไงก็ได้ให้ แอดมาให้ได้ ไม่งั้นจะซวยทั้งคู่ จนน้องดาต้อง มาบอกเด็กผู้เสียหายให้แอดไลน์ครู โดยสอนให้น้องผู้เสียหายโหลดแอปไลน์ จนสามารถ ทักไลน์ไปหาคนร้ายที่อ้างว่าเป็นครู จนสำเร็จ ซึ่งรูปโปรไฟล์ไลน์ที่ได้ทักไปหานั้นเป็นรูปหน้าของครูมะตูม ซึ่งเป็นครูผู้หญิงในโรงเรียน จริง เด็กจึงปักใจเชื่อว่าเป็นครูจริงๆ เนื่องจากเด็กก็ไม่เคยเล่นไลน์ และอายุเพิ่งเพียง 12 ปี ซึ่งไม่ทราบว่าจะมีคนร้ายสามารถปลอมเป็นครูได้ ต่อมาเมื่อเด็กได้พูดคุยกับคนร้ายนั้น ก็ได้บอกให้เด็กนั้น รายงานตัวมาสิ ว่าชื่อ - นามสกุลอะไร อายุเท่าไหร่ มีแฟนหรือไม่ อยู่กับใคร นอนกับใคร ซึ่งลักษณะเหมือนเป็นการให้ยืนยันตัวตนว่า เด็กคนดังกล่าวคือเป้าหมายตัวจริง ที่ทางคนร้ายนั้นต้องการจะคุยด้วย จากนั้นคนร้ายได้สั่งให้เด็กถ่ายภาพ เปลือย ด้านบน แล้วส่งให้ดู โดยอ้างว่าเป็นการตรวจร่างกาย ถ้าไม่ยอมถ่ายให้ จะไล่ออกจากโรงเรียน เด็กเห็นว่าเป็นครูผู้หญิงเลยเกิดความกลัวจึงได้ถ่ายภาพเปลือยด้านบนส่งไปให้ จากนั้นคนร้ายก็เงียบหายไป เด็กก็ยังไม่รู้ตัวว่าถูกหลอก




ผ่านไป 2 วัน วันที่ 6 ส.ค. 66 คนร้ายที่อ้างว่าเป็นครูมะตูมนั้น ก็ได้ทักมาหาผู้เสียหายอีกและบังคับให้น้องผู้เสียหายถ่ายรูปและส่งให้ครูอีก ขณะที่น้องกำลังจะถอดเสื้อเพื่อถ่ายรูปแม่เดินเข้ามาเห็นพอดี จึงได้ห้ามไว้และมีการสอบถาม ถึงสาเหตุว่าทำไมคุณครูถึงต้องบังคับให้ลูกสาวของตน ส่งภาพโป๊เปลือยไปให้เพื่ออะไร จากนั้นแม่จึงได้ดูโทรศัพท์ของลูกสาวพบว่ามีข้อความการสนทนาทางไลน์ ในลักษณะข่มขู่สารพัด คำพูดหยาบคาย นอกจากนี้แม่ได้เห็นภาพของลูกสาวอยู่ในกลุ่มไลน์ที่ถูกแชร์ออกมาจากผู้ก่อเหตุ ด้วยความเป็นแม่รู้สึกสงสารลูก เพราะสภาพจิตใจของลูกบอบช้ำมาก เพราะถูกเพื่อนๆ ที่โรงเรียนล้อและดูถูกว่าเป็นเด็กขายบริการ ตนจึงนำหลักฐานต่างๆ เข้ามาพบผู้อำนวยการของโรงเรียนดังกล่าว เพื่อสอบถามถึงคุณครูผู้หญิงคนดังกล่าวว่ามีจริงมั้ย ปรากฎว่ามีจริง จึงเรียนครูมาสอบถามโดยทางคุณครูได้บอกว่า ตนเองไม่เคยทักไลน์ไปคุยกับน้องผู้เสียหายเลย แต่รูปที่ปรากฎหน้าโปรไฟล์เป็นรูปของตนจริง





ทั้งผู้อำนวยการผู้ปกครองรวมถึงเด็กผู้เสียหาย งงกับเรื่องราวที่เกิดเหตุ จากนั้นคุณครูจึงได้พาผู้ปกครองและเด็กไป แจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.แก่งคอย สระบุรี จากนั้นเรื่องกลับเงียบหายไป ไม่มีคืบหน้าอะไร จนลูกสาวไปโรงเรียนก็ต้องเจอกับเพื่อนๆ และรุ่นพี่ล้อเลียนด้วยคำหยาบคายต่างๆ นาๆ จนลูกสาวไม่อยากไปโรงเรียนเพราะรับสภาพไม่ไหว นอกจากนั้นยังมีพี่สาวที่หน้าตาคล้ายกัน เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันก็ถูกผลกระทบไปด้วย เนื่องจากหน้าเหมือนกันมาก จนตนเองผู้เป็นแม่ทนไม่ไหว จึงตัดสินใจแจ้งขอความช่วยเหลือมายังเพจเรื่องจริงนครนายก เพื่อให้เข้าช่วยเหลือครอบครัวของตนด้วย โดยทางเพจได้ลงพื้นที่ และได้ดูหลักฐานต่างๆ และสอบถามผู้ปกครองและตัวเด็ก




จากนั้นจึงได้ประสานไปยัง ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผผู้ดี ประธานมูลนิธิองค์กรทำดี ว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ซึ่งสภาพจิตใจของน้องย่ำแย่มาก ดร.บุ๋มจึงได้มีการโฟนอินเข้ามาพูดคุยกับผู้ปกครอง โดยให้กำลังใจและจะช่วยติดตามผู้ก่อเหตุดังกล่าวมาดำเนินคดีให้ได้ โดย ดร.บุ๋ม ได้ประสานไปยัง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติปภัสร์ ผบ.ตร.แห่งชาติ เพื่อกำชับ จนท.ตร.ในพื้นที่ ที่รับผิดชอบให้เร่งติดตามผู้ก่อเหตุมาให้ได้ เบื้องต้น ทาง จนท.ตร.ได้นำหลักฐานต่างๆ มาเช็กข้อมูลพบว่า ผู้ก่อเหตุคาดว่าจะมีประมาณ7คน และจากการที่เช็กข้อมูลแล้วพบว่าเป็นเด็กนักเรียนรุ่นพี่ ของน้องคนดังกล่าวอีกด้วย แต่ทั้ง7คน ยังคงให้การปฏิเสธ ตอนนี้ จนท.ตร.ก็ยังคงสืบหากลุ่มผู้ก่อเหตุอยู่ แต่เนื่องจากกรณีนี้เป็นเด็กและเยาวชนการทำหน้าที่จึงต้องรัดกุม เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อเด็ก




ส่วนเรื่องราวดังกล่าวตามที่เพจเรื่องจริงได้รับข้อมูลจากน้องผู้เสียและแม่บอกมาเป็นข้อมูลว่า ตนเองนั้นเคยมีปัญหากับรุ่นพี่ ม.3 เพราะเข้าใจผิดคิดว่าตนเองนั้นไปแย่งแฟนเค้ามาจาก รุ่นพี่กลุ่มนี้ จึงสันนิษฐานว่า เหตุดังกล่าวที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากฝีมือของรุ่นพี่กลุ่มนี้ แต่ จนท.ตร.ยังไม่ปักใจเชื่อและเพื่อให้ความเป็นธรรมจึงขอสืบจากหลักฐานที่มีอยู่ทั้งหมดก่อน และจะเร่งติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุดังกล่าวมาดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป




คุณอาจสนใจ

Related News