บุกค้นบ้านคนร้ายขโมยทารกวัย 2 วัน หาหลักฐานโยงแก๊งค้ามนุษย์-คดีเด็ก 8 เดือน พร้อมตั้ง 3 ข้อหา

จากกรณีสาวประเภท 2 บุกห้องพักฟื้นคุณแม่หลังคลอด ลักพาตัวเด็กแรกเกิดวัย 2 วันซุกกระเป๋าคล้ายถุงสีดำออกจากโรงพยาบาล


ซึ่งผู้เป็นแม่ เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า เธอคลอดลูกชายน้ำหนัก 3 กิโลกรัม เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม และย้ายมาพักฟื้นอยู่ในห้องพักรวมกับคุณแม่หลังคลอดคนอื่น ๆ ซึ่งในห้องมีอยู่ 4-5 เตียง และครั้งสุดท้ายที่เธอให้นมลูกชายวัย 2 วัน คือประมาณ 03.30 น.ของวันที่ 13 สิงหาคม ก่อนจะผล็อยหลับไป


จนประมาณ 04.00 น. เธอตื่นมาไม่เจอลูกชายแล้ว เมื่อสอบถามสามีที่นอนอยู่ใกล้ ๆ ว่าอุ้มลูกชายไปหรือไม่ สามีก็ปฏิเสธ เดินดูรอบห้องก็ไม่พบ สักพักมีเพื่อนร่วมห้องที่นอนเตียงข้าง ๆ บอกว่า เห็นผู้ชายตัวขาว ๆ มาอุ้มลูกชายไป เธอจึงรีบแจ้งพยาบาลว่า "ลูกหาย"


หลังพยาบาลแจ้งตำรวจ สภ.บางเลน ทางโรงพยาบาลและครอบครัวก็ลงประกาศตามหาผ่านโซเชียลมีเดียทันที ขณะที่ตำรวจก็ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในโรงพยาบาล แล้วก็พบคนร้ายจริง ๆ ก่อนจะตามแกะรอยจากรถจักรยานยนต์ไปจนถึงบ้านพักคนร้าย ที่หมู่บ้านหินมูล ต.บางหลวง อ.บางเลน จ.นครปฐม ก็คือ 11.30 น.ของวันเดียวกัน ซึ่งสภาพทารกตอนที่ตำรวจไปพบ คือ ตาซ้ายบวม เขียว และ หัวปูดบวม 4 ซม. ออกซิเจนต่ำ


ตำรวจจึงรีบอุ้มทารกขึ้นรถยนต์แล้วนำส่งโรงพยาบาลบางเลนทันที ขณะนั้นแม่ของทารกก็นั่งรอด้วยใจร้อนรนอยู่ที่หน้าโรงพยาบาล ทันทีที่เจอเห็นตำรวจอุ้มลูกมาเธอถึงกับร้องไห้ ส่วนทารกแพทย์ตรวจอาการเบื้องต้นพบว่ามีการติดเชื้อ เพราะผู้ต้องหาซื้อนมกล่องให้กิน จึงต้องย้ายทารกไปอยู่ในความดูแลของแพทย์โรงพยาบาลศูนย์นครปฐมตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้


ส่วนคนร้ายที่ลักพาตัวทารก คือ นายนันทจักรษ์ อายุ 43 ปี เป็นสาวประเภท 2 ตำรวจคุมตัวมาที่ สภ.บางเลน ให้การกับตำรวจว่า คืนเกิดเหตุเขาขี่จักรยานยนต์ไปขโมยเด็กที่โรงพยาบาลจริง เพราะอยากมีลูก ตั้งใจเอาเด็กมาเลี้ยงเอง แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะผู้ก่อเหตุมีหนี้สินจำนวนมาก และมีบัญชีธนาคารหลายบัญชีที่มีเงินหมุนเวียนแบบผิดปกติ เป็นไปได้ว่าในคดีนี้อาจเกี่ยวข้องกับการ "ค้ามนุษย์”


เบื้องต้นตำรวจตั้งข้อหานายนันทจักรษ์ ฐานพรากผู้เยาว์ กักขังหน่วงเหนี่ยวฯ และทำร้ายร่างกาย จากนั้นตำรวจคุมตัวนายนันทจักรษ์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่โรงพยาบาล ท่ามกลางญาติของทารกน้อยที่มาเฝ้าติดตามดูด้วยอารมณ์โมโห


ตำรวจได้ตั้งข้อสังเกตว่า นายนันทจักรษ์ อาจจะเกี่ยวข้องกับคดีการหายตัวไปของ "ทารกวัย 8 เดือน" ที่หายตัวปริศนาเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เพราะบ้านอยู่ตรงข้ามกัน และจนถึงขณะนี้มีเพียงคำให้การของ "แม่ทารกวัย 8 เดือนเท่านั้น" ที่ยืนยันว่าลูกตายเพราะเธอทำหล่นจึงโยนทิ้งน้ำ แต่ไม่มีพยานหลักฐานอื่นที่ยืนยันในคำให้การนี้


ตำรวจจึงต้องสอบปากคำนายนันทจักรษ์เพิ่ม จนเมื่อช่วง 10.30 น.ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.บางเลน พร้อมตำรวจพิสูจน์หลักฐานเตรียมเข้าค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมที่บ้านนายนันทจักรษ์ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นการค้นหาหลักฐานในคดีการสูญหายของเด็กชายวัย 8 เดือน และในวันนี้ นางสาว ชลิดา หรือคุณอ้อ ประธานที่ปรึกษามูลนิธิวิน วิน ลงพื้นที่มาตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วย เพื่อหาหลักฐานว่าเชื่อมโยงกับคดีเด็กชายวัย 8 เดือนที่หายไปหรือไม่


คุณอ้อ ได้เปิดเผยกับทีมข่าวอาชญากรรมว่า เมื่อวานนี้ (13ส.ค.) ตาของทารกวัย 8 เดือน โทรศัพท์มาปรึกษาว่าอยากให้คุณอ้อเข้าไปสอบถามลูกสาว (นิ่ม) อีกครั้ง ถึงการหายตัวไปของหลานชายวัย 8 เดือน เพราะจากการสอบถามลูกสาวเรื่องนายนันทจักรษ์ที่อยู่ตรงข้ามบ้าน ลูกสาวยอมรับว่าสงสัยผู้ชายคนนี้ ถ้าหากบอกว่าสงสัย ก็เท่ากับว่าลูกสาวไม่ได้ทำให้หลานชายตกพื้นแล้วไปโยนทิ้งน้ำ และหลานชายอาจจะไม่ได้ตายก็ได้ ซึ่งหากเป็นเรื่องจริง คดีก็จะพลิกไปอีกอย่าง


นอกจากนี้ คุณอ้อ ยังเปิดเผยถึงหลักฐานในโทรศัพท์ของนายนันทจักรษ์ ว่ามีภาพเด็กชายวัย 8 เดือน และมีภาพสมุดบัญชีหลายเล่ม รวมถึงสลิปการโอนเงินช่วงที่ทารกวัย 8 เดือนหายไป ซึ่งอาจจะเชื่อมโยงกันก็ได้ และช่วงบ่ายวันนี้ วินวิน จะไปพูดคุยกับแม่ของทารกวัย 8 เดือนและพ่อ ที่บ้านในอำเภอนครชัยศรี เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงอีกครั้ง


แต่ล่าสุด นายนันทจักรษ์ เปิดเผยกับมูลนิธิวินวินว่า ตอนที่พาทารกวัย 2 วัน เข้ามาที่บ้านไม่มีใครรู้ ทางบ้านมารู้ตอนเช้าวานนี้ (13ส.ค.) เพราะเห็นข่าวและวงจรปิดที่เป็นภาพของนายนันทจักรษ์ ซึ่งตอนนั้นทารกน้อยเริ่มอ่อนแรงแล้ว ช่วงที่กำลังจะพาเด็กไปโรงพยาบาลตำรวจก็มาพอดี ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลที่ทีมข่าวได้คุยกับผู้ใหญ่บ้าน ที่ให้ข้อมูลว่า แม่ของทารกวัย 8 เดือนเคยบอกตำรวจยศ "รองผู้การฯ" ว่าสงสัยนายนันทจักรษ์ แต่ขณะนั้นอาจจะพยานหลักฐานไม่ถึงจึงไม่มีความคืบหน้า


บรรยากาศในบริเวณหน้าบ้านของผู้ก่อเหตุมีสื่อมวลชนเดินทางมาเฝ้ารอสังเกตการณ์การเข้าตรวจค้นตั้งแต่เช้า และมีคนอยู่บ้านเพียงคนเดียว แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดอะไรกับนักข่าว


ส่วนแม่ของทารกวัย 8 เดือน ที่มีบ้านตรงข้ามกับผู้ก่อเหตุ ได้ย้ายไปอยู่กับพ่อในอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ตั้งแต่หลังเกิดเหตุ และเมื่อ 10.42 น. นางสาว มด อายุ 43 ปี ลูกสาวต่างพ่อของผู้ก่อเหตุ ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า นายนันทจักรษ์ เป็นลูกติดของแม่เลี้ยงและย้ายอยู่ที่บ้านนี้มาสักพักแล้ว ปกติไม่คุยกัน เพราะมีปัญหาเรื่องบ้านที่อยู่อาศัย


เมื่อทีมข่าวถามว่าเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของเด็กชายวัย 8 เดือนหรือไม่โดย เธอยืนยันว่า ได้ยินอย่างชัดเจนว่านายนันทจักรษ์ตอบคำถามนักข่าวต่อหน้าตำรวจว่า เป็นคนเอาทารกวัย 8 เดือนไป


ชาวบ้านในพื้นที่ระบุว่า ตัวนายนันทจักรษ์ชอบเก็บตัวเงียบในบ้านพัก ไม่เคยเห็นว่าออกมาเล่นกับเด็กหรือรักเด็ก และพึ่งมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ได้ไม่นาน แต่ช่วงคดีเด็กชายวัย 8 เดือน นายนันทจักรษ์ก็มาอยู่ที่บ้านหลังนี้แล้ว ซึ่งขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบบ้านคนร้ายเพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่ม