เจอเด็กแล้ว! ทารกแรกเกิดวัย 2 วัน หายจาก รพ. ผู้ก่อเหตุอยู่ตรงข้ามบ้าน 'น้องต่อ' หายปริศนา

เจอเด็กแล้ว! ทารกชาย แรกเกิดวัยเพียง 2 วัน หายจาก รพ.บางเลน ผู้ก่อเหตุที่อุ้มไปคือชายที่อยู่ตรงข้ามบ้าน น้องต่อ เด็ก 8 เดือนหายปริศนา วงจรปิดจับภาพอุ้มเด็กใส่กระเป๋าสีดำ แขวนแฮนด์รถจักรยานยนต์ขี่ออกจาก รพ.กลับบ้าน ผู้ต้องหารับเสพยาบ้า เครียด ไป รพ.เห็นเด็กนอนน่ารัก จะเอาไปเลี้ยงดู ยันไม่เกี่ยวข้องคดีน้องต่อ


เมื่อวันที่ 13 ส.ค.66 ผู้เสียหายเป็นพ่อทารกชายแรกเกิดวัยเพียง 2 วัน เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางเลน จ.นครปฐม ว่าลูกหายไปจากโรงพยาบาล ที่เกิดเหตุในห้องพักฟื้นของโรงพยาบาลบางเลน ลักษณะเป็นห้องรวมมี 5-6 เตียง ล่าสุดเจอตัวเด็กแล้ว กลับสู่อ้อมกอดแม่อย่างปลอดภัย


พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม เผยว่า หลังรับแจ้งเหตุได้สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.บางเลน ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบภาพชายต้องสงสัยใส่แมสก์ สวมกางเกงขายาวสีดำ สวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน ใส่ร้องเท้าแตะสีขาว เดินเข้ามาบริเวณห้องพักฟื้นแม่และเด็ก โดยมีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอยู่บริเวณนั้น


จากการสอบสวนทราบว่า เมื่อวันที่ 13 ส.ค. เวลาประมาณ 03.41 น. ได้มีชายต้องสงสัยเข้ามาพาเด็กขณะนอนอยู่กับมารดาที่เตียงคนไข้ห้องหลังคลอด จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า เมื่อเวลาประมาณ 03.38 น. ได้มีชายคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาจอดที่บริเวณหน้าโรงพยาบาลบางเลน


จากนั้นชายต้องสงสัยเดินเข้ามาด้านข้าง บริเวณหน้าห้องคลอด โดยถือกระเป๋าหิ้วสีดำ เข้าไปภายในห้องหลังคลอด และได้อุ้มเด็กใส่กระเป๋าหิ้วเดินออกจากห้องหลังคลอด ในเวลาประมาณ 03.44 น. ของวันเดียวกัน แล้วเดินไปขึ้นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีแดง นำกระเป๋าที่ยัดเด็กแขวนแฮนก์รถขับขี่หลบหนีไปบ้านพักของตัวเอง ภายในหมู่บ้านหินมูล ต.บางหลวง อ.บางเลน จ.นครปฐม


ต่อมามีการโพสต์ภาพเด็กลงในกลุ่มโซเชียล อ.บางเลน มีคนเข้ามาให้ข้อมูลญาติ ๆ ว่าชายคนดังกล่าวอาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.หินมูล และมีคนยืนยันว่าเขาคือคนที่อยู่บ้านตรงข้ามกับบ้านของพ่อแม่น้องต่อ ทารกวัย 8 เดือนที่หายปริศนา (คดีน้องต่อเกิดขึ้นเมื่อเดือน ก.พ.66 ตอนนั้นได้ข้อสรุปว่าแม่ของเด็กประมาทเป็นเหตุให้ลูกเสียชีวิต ตามคำรับสารภาพของนิ่ม ที่อ้างว่าอุ้มลูกไปทิ้งน้ำ แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครพบร่างน้องต่อ)


กระทั่งเวลา 11.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางเลน ตามไปพบตัว นายนันทจักษ์ หรือ นัน อายุ 42 ปี  ซึ่งอาศัยอยู่ตรงข้ามบ้านพ่อแม่น้องต่อ และพบตัวเด็กทารก 2 วัน ที่หายจาก รพ.บางเลน ในสภาพบาดเจ็บบริเวณตาด้านซ้าย เบ้าตาปูดบวม ศีรษะด้านซ้ายปูด จากนั้นตำรวจชุดสืบสวนได้นำตัวเด็กกลับสู่อ้อมกอดแม่อย่างปลอดภัย ย้ายเด็กไปที่ รพ.นครปฐม แล้ว


นางสาวยุพารัตน์ อายุ 26 ปี แม่ของเด็ก ให้การว่า ตนมาคลอดลูกเมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลา 19.40 น. แพทย์ให้นอนพักฟื้นที่ห้องรวม โดยเอาลูกนอนที่เตียงคนไข้ด้วย ราว 03.30 น. ของวันที่ 13 ส.ค. ตนเองสะดุ้งตื่นหันไปข้าง ๆ ก็ไม่เจอลูกแล้ว จึงเดินไปถามเตียงข้าง ๆ ว่าเห็นพยาบาลได้นำลูกไปให้นมหรือเปล่า เดินไปถามพยาบาลที่เข้าเวรอยู่ พยาบาลตอบว่าไม่ได้นำเด็กมาให้นม ตนจึงบอกญาติให้มาที่โรงพยาบาลและไปแจ้งตำรวจ


"หลังได้ลูกคืนมารู้สึกใจชื้น ดีใจมาก ทีแรกคิดว่าคงไม่ได้ลูกคืน ภาวนาให้ลูกปลอดภัย อาศัยหมอดูว่าลูกยังมีชีวิตหรือไม่ พอรู้ว่าลูกยังมีชีวิตก็ยิ่งดีใจ ตอนนั้นไม่คิดจะเอาเรื่องผู้ต้องหาเลย คิดอย่างเดียวว่าอยากได้ลูกคืนเท่านั้น คืนเกิดเหตุที่โรงพยาบาลเงียบไม่ค่อยมีเจ้าหน้าที่ ทำให้คนร้ายอาศัยจังหวะขโมยเด็กออกจากโรงพยาบาล ใช้เวลาก่อเหตุเพียง 3 นาที ไม่คิดว่าลูกจะหายเพราะอยู่ในห้องพักฟื้นหลังคลอด อีกทางโรงพยาบาลก็เป็นสถานที่ราชการ ในห้องนั้นก็มีคนอื่นที่เพิ่งคลอดนอนอยู่รวมกัน 10 กว่าคน คนร้ายจใจเย็นมากที่กล้าเข้าไปอุ้มเด็กออกมา"


นายพงศ์ธร อายุ 28 ปี พ่อของเด็ก เผยว่า พอทราบว่าลูกหายไปพยายามคิดในแง่ดีว่าลูกปลอดภัย คงไม่ได้ไปไหนไกล พอดูวงจรปิดเห็นคนอุ้มลูกไปก็ใจเสีย คิดว่าเขาคงอยากเอาลูกของตนไปเลี้ยงหรือไม่ อยากได้ลูกคืนมาก ยิ่งเห็นตอนคนร้ายนำลูกยัดใส่กระเป๋าแขวนแฮนด์รถมอเตอร์ไซค์ ก็ยิ่งเป็นห่วงลูกจะเป็นอย่างไรบ้าง ไม่ใยดีลูกของตนเลย


"พอทราบว่าตำรวจเจอคนร้ายทราบพิกัดบ้านแล้ว ตนจึงรีบเดินทางไปที่บ้านของคนร้าย แต่ไม่เจอลูกเพราะตำรวจนำตัวลูกส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้าแล้ว จากนั้นตนจึงรีบเดินทางไปที่โรงพยาบาล เบื้องต้นหมอตรวจดูอาการระบุว่าปลอดภัย เห็นลูกเจ็บตนก็รู้สึกเจ็บ แต่ยังดีที่ได้ลูกคืน ขอบคุณตำรวจที่ทำงานเร็วจับกุมตัวคนร้ายได้ ขอให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์"


ทั้งนี้ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนที่ สภ.บางเลน แจ้ง 3 ข้อหา พรากผู้เยาว์, บุกรุกสถานที่ราชการในเวลากลางคืน, เสพยาบ้า จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายนันทจักษ์ นำตัวไปชี้จุดเกิดเหตุทั้งโรงพยาบาลบางเลน และบ้านของผู้ต้องหา ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ


จากนั้นควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.บางเลน นายนันทจักษ์ เผยกับทีมข่าวระหว่างตำรวจคุมตัวออกจากห้องสืบสวนเข้าห้องขัง "ยอมรับว่าก่อนลงมือก่อเหตุได้เสพยาบ้า ควบคุมตัวเองไม่ได้ ไม่อยากให้โยงคดีน้องต่อ ซึ่งตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง"


เมื่อถามว่าทำไมถึงไปอุ้มเด็กออกจากโรงพยาบาล ผู้ต้องหาอ้าง "เครียดกดดันหลายอย่าง ไม่ได้ไปดูลาดเลาก่อน ตนเองไปที่โรงพยาบาลเห็นเด็กนอนอยู่น่ารักดี จึงอุ้มเด็กใส่กระเป๋าหิ้วกลับบ้านไปเลี้ยงดูอย่างดี สาเหตุที่ยัดใส่กระเป๋าเพราะไม่รู้จะเอาเด็กออกจากโรงพยาบาลอย่างไร ไม่คิดว่าเด็กจะได้รับอันตรายเพราะดูมาตลอดทาง"


ทีมข่าวได้คุยกับแม่ของผู้ต้องหา อายุ 61 ปี เผยว่า ตนไม่รู้ไม่เห็นว่านายนัน ลูกชายขโมยเด็กออกจาก รพ.บางเลน กลับมาที่บ้าน ไม่ได้ยินเสียงเด็กร้อง ตนเห็นมีการแชร์ภาพวงจรปิดลูกชายในโซเชียล จึงเคาะประตูเรียกถาม "นันไปอุ้มลูกใครมาหรือเปล่า" พอเปิดประตูเข้าไปดูในห้องของลูกชายพบเด็กนอนอยู่ในห้อง ลูกชายบอกเอาเด็กมา รพ.บางเลน ตนจึงบอกให้เอาไปคืน แต่ลูกชายบอกให้ตนนำเด็กไปคืนแทน ตนจึงอุ้มเด็กขึ้นมากำลังจะเอาเด็กไปคืน ปรากฎว่าตำรวจมาที่บ้านเสียก่อน


ตนสอบถามลูกชาย เขาอ้างคิดว่าเป็นลูกของนายวา ซึ่งเลิกกันนานแล้ว กลายเป็นโรคซึมเศร้า เก็บกด โดยนายนัน ลูกชายของตนฝังใจกับนายวา จึงไปที่โรงพยาบาล อุ้มเด็กออกมา เรื่องเสพยาแม่ไม่เคยรู้ แม่ยืนยันลูกชายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีน้องต่อ หากใครนำไปโยงแม่จะแจ้งความ


นางสาวมาลิสา อายุ 24 ปี น้องสาวของผู้ต้องหา เผยว่า ตนไม่ทราบว่าพี่ชายทำไปเพื่ออะไร ปกติพี่ชายเป็นคนเงียบ ไม่ค่อยพูดคุยกับคนในครอบครัว ชอบเก็บตัวเงียบอยู่ในห้อง เขาไม่เคยพูดว่าอยากเลี้ยงเด็กหรืออยากมีลูก รู้สึกตกใจไม่คิดว่าพี่ชายจะทำแบบนี้ ตนเองก็เสียใจ พี่ชายก็เครียดร้องไห้ ตนขอโทษพ่อแม่เด็กแทนพี่ชายด้วย


จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ผู้ต้องหามีบัญชีธนาคารหลายบัญชี และมีหนี้สินเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสืบสวนสอบสวน ว่าผู้ต้องหารายนี้มีความเชื่อมโยงกับคดีน้องต่อหรือไม่ ตำรวจระบุผู้ต้องหาเป็นหนึ่งในบุคคลสงสัยคดีน้องต่อเมื่อหลายเดือนก่อน แต่ไม่หลักฐานเพียงพอ อีกทั้งผู้ต้องหาปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องในคดีน้องต่อ โดยวันนี้ (14 ส.ค.) ตำรวจจะคุมตัวผู้ต้องหาส่งศาลจังหวัดนครปฐม ฝากขังต่อไป

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/I1gWAh59IJA