สุดท้ายกลายเป็นศพ...ฆ่าหั่น 'นักธุรกิจเยอรมัน' ยัดตู้แช่ ตร.เตรียมออกหมายจับแก๊งเพื่อนร่วมชาติ

เจอแล้วร่าง มิสเตอร์ฮันส์ ปีเตอร์นักธุรกิจเยอรมันที่หายตัว ถูกพบเป็นศพถูกหั่นยัดตู้แช่ ภายในบ้านเช่าพื้นที่หนองปรือ ชลบุรี หลังแกะรอยวงจรปิดพบกลุ่มผู้ก่อเหตุ ขนตู้แช่ถูกปิดด้วยผ้าเทปอย่างเเน่นหนาก่อนวิ่งทั่วเมือง ก่อนระดมค้นบ้านแต่ไม่พบเจ้าของ

ด้านตำรวจ พุ่งเป้าประสงค์ต่อทรัพย์ หลังพบหลักฐานการโอนเงิน 2-3 ล้านบาท หนึ่งในผู้รับ คือโอลาฟ แต่ยังปากแข็ง คาดออกหมายจับแก๊งอุ้มนักธุรกิจวันนี้ เตรียมจัดตำรวจคุ้มกันครอบครัว ด้านลูกชายยันพ่อชอบทำธุรกิจคนเดียว ไม่คุ้นหน้าใคร แต่มีสายสำคัญโทรมาก่อนหายตัว

จากกรณีการหายตัวของชายนักธุรกิจชาวเยอรมันหายจากบ้านพักในเมืองพัทยาจังหวัดชลบุรีเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 4 กรกฎาคม มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งชื่อเคส ซึ่งระบุว่าเป็นเพื่อนของชายผู้สูญหายได้แจ้งข้อมูลมาทางเพจของมูลนิธิวินวิน โดยระบุว่า ขอให้ทางมูลนิธิวินวินช่วยติดตามหา และประกาศลงโซเชียลในการติดตามหาตัวนักธุรกิจชาวเยอรมันคนนี้ ชื่อ Dr.Hans Peter Mack อายุ 62 ปี ชาวเยอรมัน ทำธุรกิจที่เมืองไทยมา 30 ปีแล้ว เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ได้ออกจากบ้านไปเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม เวลา 10.00 น. 

สำนักข่าวแต่ละที่ช่วยกันแชร์ข่าวประกาศทางโซเชียลและหาข้อมูลเพื่อติดตามหาตัวพวกนักธุรกิจที่สูญหาย โดยมีการตั้งรางวัลติดตามจำนวนสามล้านบาทและรถยนต์ Mercedes เบนซ์ที่หายไปด้วยจำนวน 100,000 บาท

ตำรวจได้หลักฐานสำคัญ จากกล้องวงจรปิด พบว่า รถยนต์กระบะ มาสด้า สึดำ ทะเบียน ชลบุรีของสองผัวเมีย ที่เข้าให้การเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจก่อนหน้านี้ โดยให้การว่า ได้ถูกนางเพธาน นายหน้า ชาวเยอรมัน ว่าจ้างให้บรรทุกตู้แช่แข็งสีขาว ขนาดความยาว 1.50 เมตร ฝาปิดแบบทึบ และ ถูกแพ็กด้วยพลาสติกอย่างดี ให้นำไปส่งให้ที่บ้านพลูวิลล่า ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยมีชาวต่างชาติคล้ายแขกขาว นั่งท้ายมาด้วย พอส่งเสร็จก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนกระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ ที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับการหายตัวไป ของนักธุรกิจชาวเยอรมันรายนี้

เมื่อเวลา 20.10 น. (10 ก.ค.) ตำรวจไล่กล้องวงจรปิด พบว่า รถโตโยต้า รีโว่ สีดำ ชลบุรี ซึ่ง นายโอลาฟ ชาวเยอรมัน และเป็นเพื่อนสนิทของมาดามเพธาน นายหน้าชาวเยอรมัน ได้รับช่วงต่อในการบรรทุกตู้แช่แข็งขับวนรอบๆ ในพื้นที่ จ.ชลบุรี เป็นระยะทางกว่า 160 กม. ก่อนจะขับเข้ามาจอดในหมู่บ้านหนึ่ง ซึ่งห่างจากลานจอดรถชั่วคราว ที่รถเบนซ์ ของ นายฮันส์ ปีเตอร์ แรลเตอร์ มัค ( MR.HANS PETER RALTER MACK ) อายุ 62 ปี ถูกนำไปจอดทิ้งไว้

ตำรวจจึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ จนทราบว่า ตู้แช่แข็งถูกนำมาซุกซ่อนไว้ในบ้านทาวน์โฮมชั้นเดียว ภายในหมู่บ้านหนึ่ง หมู่ 5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงรีบนำกำลังเข้าตรวจสอบ พร้อมด้วย ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน เขต 2 ชลบุรี โดยคาดการว่า ภายในตู้อาจมีการบรรจุร่างของนักธุรกิจชาวเยอรมัน แต่อยู่ระหว่างการตรวจสอบเพราะต้องรอเจ้าของบ้านกับหมายค้นเพื่อรอเข้าตรวจสอบซึ่งอยู่ในการประสานงาน

เมื่อตำรวจได้หมายค้นจากศาลจังหวัดพัทยา จึงแสดงหมายแก่ผู้ดูแลบ้านหลังดังกล่าว ก่อนเข้าไปตรวจสอบ พร้อมด้วยตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน เขต 2 ชลบุรี ในห้องนอนพบตู้แช่แข็งสีขาว ปิดด้วยเทปกาวสีดำ โดยปิดผนึกอย่างแน่นหนา มีการเสียบปลั๊กทำความเย็นไว้

เมื่อเปิดออก พบชิ้นส่วนมนุษย์ถูกหั่นด้วยเลื่อยยนต์ หั่นอวัยวะต่างๆ ออกเป็น 13 ส่วน ตั้งแต่ศีรษะ ลำคอ กลางลำตัว ขาทั้ง 2 ข้าง ข้อเท้าทั้ง 2 ข้าง ส่วนแขนทั้ง 2 ข้าง ถูกหั่นแยกออกเป็น 3 ส่วน แล้วบรรจุใส่ถุงดำแช่แข็งไว้ ส่วนศีรษะถูกตีด้วยของแข็งหลายครั้ง นอกจากนี้ยังพบเลื่อยไฟฟ้า เชือกรัดสีส้ม ซีลสำหรับซีลอาหาร

ในขณะที่อดีตภรรยา ได้มาเฝ้าสังเกตการณ์ อย่างมีความหวัง ว่าคงไม่ใช่อดีตสามีอันเป็นที่รัก แต่ว่าปาฏิหาริย์ไม่มีแล้ว ถึงกับเป็นลมเจ้าหน้าที่จึงขอให้เดินทางกลับที่พักไปก่อน ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของชาวบ้านที่อาศัยในหมู่บ้านแห่งนี้ ถึงความโหดเหี้ยมอำมหิต ในการก่อเหตุของคนร้ายกลุ่มนี้

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะนี้ เตรียมออกหมายจับกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมด ซึ่งเชื่อว่าเป็นฝีมือของเพื่อนร่วมชาติ (นางเพธานนายหน้า. นายโอลาฟ) มาดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป 

-------------

วันที่ 9 กรกฎาคม 66 ช่วงค่ำ ตำรวจพบข้อมูลหลักฐานสำคัญในการก่อเหตุฆาตกรรมหรือผู้สูญหาย โดยภรรยาของผู้สูญหายได้มาให้ข้อมูลกับตำรวจว่า ในวันที่มีการเรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบถามข้อมูล

ภรรยาได้ยินชายชาวเยอรมันสองคนพูดกันในภาษาเยอรมันว่า หากเขาไม่พบศพ ก็ทำอะไรเราไม่ได้ซึ่ งทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวชายสองคนนี้ มาสอบปากคำอย่างละเอียด โดยพบว่าชายสองคนนี้เป็นลูกน้องของผู้ก่อเหตุ และมาเช่าบ้านในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เขตพื้นที่อำเภอบางละมุง ตำบลหนองปรือ จังหวัดชลบุรี
-------------

ก่อนที่ ตำรวจจะเจอชิ้นส่วนศพนักธุรกิจชาวเยอรมัน ทีมข่าวได้เดินทางไปเจอ กับนางสาวเพธาน หญิงชาวเยอรมันคนสุดท้ายที่อยู่กับนายฮันส์ปีเตอร์ ในฐานะนายหน้าที่มีการติดต่อขายที่ดิน โดยการเข้าไปพูดคุยกับเจ้าตัวนั้น ไม่อนุญาตให้มีการบันทึกเสียง บันทึกภาพ หรือมีการถ่ายภาพนิ่ง ซึ่งเจ้าตัวพร้อมที่จะตอบข้อสงสัยทุกประเด็น เพื่อที่จะเป็นประโยชน์ต่อการตามหาเบาะแสนายฮันส์ ปีเตอร์

นางสาวเพธาน เปิดใจกับทีมข่าวว่า ส่วนตัวรู้จักกับฮันส์ปีเตอร์ เพราะเนื่องจากมีการติดต่อเพื่อที่จะซื้อขายที่ดินโดยเป็นสนามมวย ที่ห้วยใหญ่ จ.ชลบุรี  จึงได้มีการนัดพูดคุยกันเกี่ยวกับธุรกิจการขาย 3 ครั้ง ซึ่งรวมถึงครั้งล่าสุด ที่มีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ ตนเองไปนั่งพูดคุยเพื่อที่จะหาคนซื้อขาย แต่ในวันนั้นยังตกลงอะไรกันไม่ได้ เพราะตัวของฮันส์ปีเตอร์ บอกว่าจะมาให้คำตอบช่วง 5 ทุ่มของคืนนั้น (4 ก.ค.) แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลา ฮันส์ปีเตอร์ บอกว่า “รอคนสนใจจะติดต่อมา”

จากนั้นก็หายไป ตั้งแต่วันที่ 4 กค . ตนเองก็พยายามที่จะติดต่อผ่านทางเอสเอ็มเอสถึง 4 ครั้ง เพื่อถามว่า สรุปแล้วเรื่องการซื้อขายสนามมวยนั้น ได้ข้อสรุปหรือยัง และแนวทางจะเป็นอย่างไร

แต่ตัวฮันส์ปีเตอร์ ก็ยังเงียบ จนกระทั่งตนเองมารู้ข่าวภายหลังว่าหายตัวปริศนา และหลังจากที่มีการออกจากร้านกาแฟวันนั้น“ยืนยันว่าตนเอง และฮันส์ปีเตอร์ต่างคนต่างแยกย้าย ไม่รู้ว่าฮันส์ปีเตอร์ จะไปที่ไหนต่อหรือเจอกับใคร เพราะตนเองก็แยกไปอีกทาง”

ส่วนกรณีที่มีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพ ว่ารถของตนเองขับนำ แล้วฮันส์ปีเตอร์ขับตาม ตนไม่ทราบว่ามีใครขับตามหรือไม่ เพราะขับรถ มองแต่ข้างหน้า เพื่อที่จะไปทำธุระ จึงไม่รู้ว่าฮันส์ปีเตอร์ ขับตามหลังตนเองมา หรือจะไปในเส้นทางใด แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีการขับตามกันแน่นอน

เพธาน บอกอีกว่า ส่วนตัว “มีความเชื่อว่าตอนนี้ฮันส์ปีเตอร์ ยังคงมีชีวิตอยู่ แต่เพียงแค่ยังไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ตนเองรู้สึกเป็นห่วงฮันส์ปีเตอร์ อยากให้รีบกลับมา”

เพราะตนเองจะได้พ้นข้อครหา เนื่องจากอยู่เป็นคนสุดท้ายก่อนจะหายตัวไป และที่สำคัญก็เป็นห่วงตัวของตัวเอง ที่จะต้องมาพัวพันเกี่ยวกับเรื่องนี้เนื่องจากอยู่กับเขาเป็นคนสุดท้าย  

ทั้งนี้ อยากจะหวังพึ่งกระบวนการของไทย และอยากจะฝากถึงตำรวจไทยให้ช่วยติดตามเบาะแส เพราะถ้าหากเจอตัวแล้วอย่างน้อยตนเองก็จะได้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

อย่างไรก็ตาม กรณีที่ตำรวจมีการจับกุมตัวผู้ต้องสงสัย คือ นายโอลาฟ และริโก้ ตนเองไม่รู้จักกับนายริโก้ แต่ตนเองรู้จักกับโอลาฟ ซึ่งก็เข้าใจว่าเป็นกลุ่มคนรักรถ ซึ่งจากประวัติที่เคยรู้จักกันมา โอลาฟว่าเขาเป็นคนดี ไม่ได้เกี่ยวข้องกับวงการมาเฟียหรือผู้มีอิทธิพล

-------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/rpjQVE-B4Hw