อาชญากรรม

มรดกเลือด! น้าเขยวัย 67 ไล่ยิงหลานดับ 2 ศพ ก่อนปลิดชีพตัวเองตาม ปมประกาศขายบ้านไม่ปรึกษา

โดย thichaphat_d

14 มิ.ย. 2566

1.3K views

น้าเขยวัย 67 มีปากเสียงกับหลานปมมรดก เหตุประกาศขายบ้านย่านท่าดินแดง ไม่ปรึกษา ไล่ยิงจนหลานเสียชีวิต 2 ศพคาที่ ตำรวจปิดล้อมบ้าน ตามภรรยามาเกลี้ยกล่อมแต่ไร้เสียงตอบรับ ผ่านไป 2 ชั่วโมง ตัดสินใจบุกเข้าบ้าน พบร่างผู้ก่อเหตุที่ปลิดชีพตัวเองนอนเสียชีวิตบนเตียง พร้อมปืน 9 มม. ตกข้างศพ

วานนี้ (13 มิ.ย.66) เมื่อเวลา 10.00 น. ตำรวจ สน.สมเด็จเจ้าพระยา ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ใช้อาวุธปืนยิงกันเสียชีวิต  โดยได้รับแจ้งว่ามีเสียงยิงปืนดังขึ้นประมาณ 10 นัด ในพื้นที่ท่าดินแดง ซ.6 แขวงและเขตคลองสาน กทม.  เมื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่าผู้ก่อเหตุเป็นชายวัย 67 ปี ทราบชื่อต่อมาคือนายอดิศักดิ์ เป็นอดีตเจ้าหน้าที่ปฏิรูปที่ดินจังหวัดเพชรบูรณ์ มีโรคประจำตัวเป็นมะเร็งตับระยะสุดท้าย ก่อเหตุยิงปืนใส่หลานชาย 51 ปี ซึ่งเป็นหลานเขย ซึ่งผู้ก่อเหตุมีศักดิ์เป็นน้าเขย เสียชีวิตอยู่ภายในรถ  จากนั้นหลบหนีเข้าไปในบ้านพักมีอาวุธปืนอยู่กับตัวจำนวน 1 กระบอก  ก่อนที่จะยิงหลานสาววัย 48 ปี เสียชีวิต และยิงตัวเองเสียชีวิตตาม โดยสาเหตุคาดว่าขัดแย้งกันเรื่องมรดก รวมเสียชีวิตทั้งหมด 3 ราย ประกอบด้วย

1.ผู้ก่อเหตุ ชื่อนายอดิศักดิ์ หรือไก่ อายุ 67 ปี

2.หลานชายชื่อ นายกัลป์ หรือกอล์ฟ อายุ 51 ปี

และ 3.หลานสาวชื่อนางสาวกนกวรรณ หรือแก้ว อายุ 48 ปี

สำหรับครอบครัวนี้ทีมข่าวได้ข้อมูลจากเพื่อนบ้านรายหนึ่งว่า เจ้าของบ้านคือ คุณตาย-คุณยาย ตามศักดิ์คือคุณตา-คุณยายของนายกอล์ฟ และนางสาวแก้ว ซึ่งคุณตาเป็นตำรวจยศ พล.ต.ต. ซึ่งทั้ง 2 ท่านเสียชีวิตแล้ว โดยมีลูกสาวทั้งหมด 5 คน ประกอบด้วย

1.น.ส.เอ (นามสมมุติ) เป็นแม่แท้ๆของ นายกอล์ฟ และน.ส.แก้ว

2.น.ส.บี (นามสมมุติ) ตอนเกิดเหตุไม่อยู่บ้าน

3.น.ส.ซี (นามสมมุติ)

4 น.ส.ดี (นามสมมุติ) ซึ่งคนที่3-4 เป็นฝาแฝด ซึ่งอยู่ต่างจังหวัด

และ 5.น.ส.ออย (นามสมมุติ) ภรรยานายไก่ ผู้ก่อเหตุ

สำหรับลำดับเหตุการณ์วานนี้ (13 มิ.ย.66) พบว่าเมื่อเวลา 10.00 น. ตำรวจ สน.สมเด็จเจ้าพระยา ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ใช้อาวุธปืนยังกันเสียชีวิต  โดยได้รับแจ้งว่ามีเสียงยิงปืนดังขึ้นประมาณ 10 นัด ในพื้นที่ท่าดินแดง ซ.6 แขวงและเขตคลองสาน กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และนำกำลังสายตรวจเข้าไปตรวจสอบ

เบื้องต้นผู้ก่อเหตุเป็นชายวัย 67 ปี ทราบชื่อต่อมาคือนายอดิศักดิ์ หรือไก่ อดีตข้าราชการ สวพ. มีโรคประจำตัวเป็นมะเร็งตับระยะสุดท้าย ก่อเหตุยิงปืนใส่หลานชาย 51 ปี ซึ่งเป็นหลานเขย ซึ่งผู้ก่อเหตุมีศักดิ์เป็นน้าเขย เสียชีวิตอยู่ภายในรถ  จากนั้นหลบหนีเข้าไปในบ้านพักบริเวณท่าดินแดง ซ.6 ซึ่งมีอาวุธปืนอยู่กับตัวจำนวน 1 กระบอก เจ้าหน้าที่จึงทำปิดล้อมเพื่อให้ผู้ก่อเหตุยอมมอบตัว

ขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้คุยกับ 2 เพื่อนบ้าน เล่าว่าได้ยินเสียงปืนดังออกมาจากบ้านหลังนี้หลายนัด ครั้งแรกดังขึ้น 5 นัด / ครั้งที่สอง 4 นัด / และครั้งสุดท้าย 2 นัด โดยแต่ละครั้งทิ้งช่วงประมาณ 1 นาที แล้วก็เงียบไป พอตนเดินไปดูกลับไม่พบว่าอะไร เพิ่งจะมารู้ว่ามีคนเสียชีวิตตอนที่ตำรวจเข้ามาแล้วเข้าไปตรวจสอบ  

ส่วนปมสาเหตุความขัดแย้ง ได้ยินเขาเล่าต่อๆกันมา โดยชาวบ้านแถวนี้จะรู้หมดว่ามีปัญหาขัดแย้งกันเรื่องมรดก ส่วน ลักษณะนิสัยของทั้งบ้านหลังนี้ เป็นคนไม่ค่อยสุงสิงกับใคร

ต่อมา พล.ต.ต.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผบก.น.8 และ พ.ต.อ.มหพล สายหยุดผกก.สน.สมเด็จเจ้าพระยา ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบ โดย ช่วงหนึ่ง ผกก.ได้เจรจาผ่นเครื่องขยายเสียง เพื่อเกลี้ยกล่อมให้ผู้ก่อเหตุมอบตัว ระบุว่า “สวัสดีครับ พี่ไก่ครับ จนท.ตำรวจ ได้รับแจ้งว่าที่บ้านมีเหตุทำร้ายร่างกาย / ตอนนี้พี่ไก่อยู่ในบ้านไหมครับ ถ้าอยู่ในส่งสัญญาณ ส่งเสียงออกมาหน่อย

จากนั้นภรรยาของนายไก่ หรือผู้ก่อเกตุ เข้ามาเจรจาเกลี้ยกล่อมต่อ ทำนองว่าให้บอกหน่อย ว่าอยู่ตรงไหนของบ้าน จะเอายาไปให้ เพราะในวันนี้เจ้าตัวเป็นคนไปเอายารักษามะเร็งที่โรงพยาบาลกลับมาให้สามี แต่ปรากฏว่าไม่มีเสียงตอบกลับจากตัวของนายไก่ ผู้ก่อเหตุ

ผกก.สน.สมเด็จเจ้าพระยา จึงพยามพูดเสริมเพื่อเจรจาเกลี้ยกล่อมอีกครั้งว่าตนคือ ผกก. “ตอนนี้พี่เล็ก (ภรรยาผู้ก่อเหตุ) อยู่กับผมนะพี่ไก่ เดี๋ยวสักพักจะให้เล็กเอายาไปให้ แต่การเจรจาดังกล่าวก็ไม่เป็นผล”

กระทั่งเวลาประมาณ 12.19 น. หลังเจ้าหน้าที่ปิดล้อมเจรจาอยู่นานเกือบ 2 ชั่วโมง มีการประสานกันของตำรวจผ่านวอล์ประสานงาน ระบุว่า “พบศพเป้าหมาย ยิงตัวตาย และพบศพผู้หญิงอยู่ในห้องเดียวกัน” ก่อนจะมีการยืนยันว่า เหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย คือ นายกอลฟ์ หลานชาย ที่เสียชีวิตภายในรถยนต์ฮอนด้าซิตี้สีบรอนซ์เงินที่จอดอยู่บริเวณบ้าน ที่กระจกฝั่งคนขับมีร่องรอยถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 9 มม. ถึง 8 รู  ซึ่งถูกกระสุนยิงเข้าที่ศีรษะ ลำตัว และหน้าอก รวม 12 นัด และพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกกระจายเกลื่อนพื้น

ส่วนที่โถงทางเดินชั้นล่างของบ้าน บริเวณหน้าห้องนอน พบร่างนางแก้ว อาจารย์มหาวิทยาลัย และเป็นน้องสาวนายกอล์ฟ โดนยิงที่ศีรษะ 2 นัด เสียชีวิตคาที่ ทั้งที่ยังสวมชุดนอน จุดนี้เจอปลอกกระสุนขนาด 9 มม. อีก 2 นัด

ส่วนในห้องนอนชั้นล่าง พบศพนายไก่ ผู้ก่อเหตุนอนเสียชีวิตอยู่บนเตียง สภาพถูกยิงเข้าที่ขมับขวา ปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ข้างศพ

ต่อมาเวลา 13.00 น. พลตำรวจตรีมานพ สุคนธ์นพัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 ออกมายืนยันว่า ในบ้านหลังดังกล่าวมีผู้อาศัยทั้งหมด 6 คน แต่ระหว่างเกิดเหตุไม่อยู่ในบ้าน 3 คน มีทั้งออกไปทำงาน และออกไปเอายาให้นายไก่ ส่วนปมขัดแย้งนั้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุกับผู้เสียชีวิตมีปมขัดแย้งกันเรื่องมรดกอยู่ในชั้นศาล

ส่วนจะมีชนวนเหตุเรื่องอื่นด้วยหรือไม่ ต้องรอพนักงานสอบสวนสอบปากคำคนในบ้านที่เหลือ พร้อมให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุรวมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมต่อไป

ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก “สืบนครบาล IDMB” เขียนข้อความบอกเล่าถึงเหตุการณที่เกิดขึ้นว่า เบื้องต้น หลานสาวอายุ 48 ปี และหลานชาย อายุ 51 ปี ขับรถมาจอดหน้าบ้าน หลังจอดรถ ผู้ก่อเหตุได้เดินมาใช้อาวุธกระหน่ำยิงหลานชาย ส่วนหลานสาวที่นั่งรถมาด้วยวิ่งหนีเข้าในบ้าน ผู้ก่อเหตุวิ่งตามใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิต หลังจากนั้นใช้อาวุธปืนที่ก่อเหตุ ยิงตัวตาย

สำหรับเหตุจูงใจ เบื้องต้นมาจาก มรดกพ่อแม่ของหลานทั้ง 2 ที่เสียชีวิต แล้วไม่ได้ทำพินัยกรรม ศาลตัดสินให้หลานทั้ง 2 เป็นผู้จัดการมรดก  เลยทำให้ผู้ก่อเหตุไม่พอใจ เกิดการทะเลาะบ่อยครั้ง จนวันนี้ เลยใช้อาวุธปืนยิงทั้ง 2 คนเสียชีวิต และผู้ก่อเหตุ ยิงตัวตายตาม

ทั้งนี้ บนชั้น 2 ของบ้าน ยังพบว่ามีการติดป้ายประกาศขายบ้านพร้อมที่ดินด้วยระบุว่า ให้ติดต่อ คุณแก้ว (หลานสาวที่เสียชีวิต) โดยบอกชัดเจนว่าเป็นผู้จัดการมรดก

เมื่อทราบว่าในพื้นที่บ้านหลังดังกล่าวมีผู้เสียชีวิต 3 ราย จนท.ตำรวจ และพิสูจน์หลักฐานจึงได้เข้าเคลียร์พื้นที่ และเก็บหลักฐานก่อนที่จะลำเลียงร่างทั้ง 3 ออกมาเพื่อนำส่งชันสูตรพลิกศพโดยละเอียดที่ รพ.ศิริราช


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/NdiIOS18QsA

คุณอาจสนใจ

Related News