อาชญากรรม

'ลุงหวงบ้าน' ฆ่าเจ้าของใหม่ อ้างไม่ได้รับความเป็นธรรมจากธนาคาร ผู้ตายกดดันทำฟางเส้นสุดท้ายขาด

โดย nattachat_c

31 พ.ค. 2566

10.5K views

วานนี้ (30 พ.ค. 66) เวลาประมาณ 14.00 น. ตำรวจ สภ.ธัญบุรี รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันที่หมู่บ้านกรีน การ์เด้นโฮม ซอย 42 ถนนรังสิต -นครนายก คลอง 11 ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อ นางสาวกมลพร อายุ 52 ปี สภาพนอนจมกองเลือดอยู่กลางถนนในหมู่บ้าน มีชาวบ้านและกู้ภัยช่วยกันเข้าไปนำร่างนางสาวกมลพรออกจากหน้าบ้าน จุดเกิดเหตุ


โดยก่อนเกิดเหตุ ผู้เสียชีวิตเดินทางมากับลูกสาว มาเจรจากับเจ้าของบ้านเดิม คือนายเดชา ให้ย้ายบ้านไป ซึ่งนายเดชาที่อยุ่บ้านหลังนี้มานานกว่า 20 ปี เอาบ้านไปจำนองกับธนาคารออมสิน แต่สุดท้ายถูกยึดคืน แต่นายเดชาไม่ยอมย้ายออก ซึ่งก็มีการเจรจากว่า 1 ปี ซึ่งไม่เคยเกิดเรื่องร้ายแรงแต่สุดท้ายก็เกิดเหตุจนถึงแก่เสียชีวิตจนได้


ทั้งนี้ มีคลิปช่วงก่อนเกิดเหตุ ผู้เสียชีวิตพร้อมลูกสาวขับรถยนต์มาจอดที่หน้าบ้านหลังเกิดเหตุ  จากนั้น ผู้เสียชีวิตเดินลงไปที่หน้าบ้านหลังดังกล่าว ส่วนลูกสาวนั่งอยู่ในรถ และใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิป ในคลิปจะเห็นว่าผู้เสียชีวิตกำลังเจรจากับผู้ก่อเหตุ


โดยผู้ก่อเหตุนั่งอยู่ที่โต๊ะหน้าบ้าน ผู้เสียชีวิตยืนกอดอกอยู่หน้าบ้านแล้วพูดว่า “ทำไมไม่ไปกู้ล่ะ อย่าเพ้อเจ้อเอายังไง” ผู้ก่อเหตุได้พูดตอบโต้มาทำนองว่า ฝ่ายผู้ก่อเหตุจะให้หลานชายไปกู้ยืมเงินมาเพื่อมาปิดหนี้  แต่ผู้เสียชีวิตถามว่า “จะเอายังไง ถ้าจะให้หลานชายไปกู้เงินก็ย้ายออกก่อน แล้วค่อยมาซื้อ”


จากนั้น ฝ่ายผู้ก่อเหตุพยายามเจรจา แต่ผู้เสียชีวิตได้ถือเอกสาร และบอกว่า “ไม่ฟังอะไรของลุงหรอก เพราะลุงพูดเพ้อเจ้อ ไม่ ไม่ ไม่คุยกับลุง หนูมายึดบ้านของหนูเป็นครึ่งปี หนูไม่ได้มารับภาระของลุง” จากนั้นคลิปก็ถูกตัดไป ซึ่งเป็นจังหวะที่ผู้ก่อเหตุยิงปืนนัดแรก

-------------

ทีมข่าวได้กล้องวงจรปิดจากบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านหลังเกิดเหตุประมาณ 120 เมตร


พบว่า เมื่อเวลาประมาณ14.45 น. กล้องวงจรปิดได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 ครั้ง ครั้งแรก 2 นัด ห่างกันประมาณ 1 นาที และครั้งที่ 2 อีกประมาณ 4 นัด เป็นลักษณะการยิงต่อเนื่อง


ขณะเดียวกันยังได้เสียงผู้หญิง 2 คน กรีดร้อง ซึ่งคาดว่าเป็นเสียงของนางสาวกมลพร และลูกสาว หลังจากที่ถูกนายเดชา พยัคฆะ ผู้ก่อเหตุ ไล่ยิงออกมาจากบ้านหลังเกิดเหตุ

-------------

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ตึงเครียด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงปิดล้อมบ้านหลังดังกล่าว และนำเชือกมากั้นพื้นที่ไว้ ป้องกันความปลอดภัยผู้ที่อาศัยอยู่พื้นที่ใกล้เคียง และเกลี้ยกล่อมเจรจาให้มือปืนออกมามอบตัว แต่มือปืนไม่ยอมออกมา


นางสาวบัณฑิตา เทียรทรัพย์ อายุ 24 ปี ลูกสาวของนางสาวกมลพร ดอนทอง (ผู้ตาย) ผู้ถือกรรมสิทธิ์คนใหม่ของบ้านหลังดังกล่าว เปิดเผยว่า


บ้านหลังนี้แม่ของตัวเองซื้อต่อมาจากธนาคาร เป็นเวลานานกว่า 1 ปีแล้ว ที่ผ่านมาได้เข้ามาทวงถามให้ย้ายออกจากบ้านมา 2-3 ครั้ง และบางครั้งได้โทรศัพท์มาบอก แต่ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด


จนวันนี้ได้ขับรถมากับแม่ และแม่ได้ลงไปเจรจา โดยนำหมายศาลมาแสดงด้วย โดยเห็นว่าผู้ก่อเหตุอายุเยอะแล้ว จึงไม่ได้พาตำรวจมาร่วมเจรจาด้วย แต่ก็ได้รับคำตอบว่า กำลังให้หลานกู้เงินมาซื้อบ้านอยู่


จากนั้น ผู้ก่อเหตุก็ได้เข้ามายิงที่ลำตัวและศีรษะ บริเวณหน้าบ้าน ก่อนที่ผู้ก่อเหตุได้หลบหนีเข้าบ้านไป ส่วนตัวเองก็วิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านในละแวกนั้น โดยที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น


ก่อนหน้านี้ก็ยอมรับว่า ได้เจรจาด้วยดีมาโดยตลอด พร้อมเสนอเงินค่าขนย้ายออกจากพื้นที่ให้ จัดหาบ้านพักหลังใหม่ให้กับผู้ก่อเหตุ อีกทั้งยังทราบมาว่า ผู้ก่อเหตุได้เงินค่าเยียวยามาจากกรมบังคับคดี 60,000 บาท มาแล้ว จึงอยากถามผู้ก่อเหตุว่า ที่ผ่านมา ไม่ได้รับความเป็นธรรมตรงไหน


ส่วนการเข้ามาทวงกรรมสิทธิ์ ที่ผ่านมาก็ยอมรับว่าบางครั้งมีกดดันกับผู้ก่อเหตุอยู่บ้าง แต่เป็นเพราะผู้ก่อเหตุอยู่ที่นี่มานานกว่า 1 ปีแล้ว ซึ่งก็ได้จ่ายเงินซื้อบ้านหลังนี้ไปหมดแล้ว และก็อยากเข้ามาปรับปรุงเพื่อไปขายต่อ หลังจากนี้ ก็จะต้องทำหน้าที่รับซื้อขาย บ้านมือสองต่อจากแม่ เพราะยังมีงานที่ค้างอยู่ รวมทั้งต้องอาศัยอยู่เพียงลำพัง เพราะก่อนหน้านี้พ่อเพิ่งเสียชีวิตไป ตอนสิ้นปีที่แล้ว
-------------

ด้านนางสาวศรสวรรค์ ปักกาโล อายุ 26 ปี เผยว่า


ผู้เสียชีวิตทำอาชีพรับซื้อขายบ้านมือสองมานานแล้ว และก่อนเกิดเหตุ เวลาประมาณ 14.00 น. ได้เข้ามาพร้อมลูกสาว เพื่อมาเจรจาให้ผู้ก่อเหตุออกจากบ้าน เนื่องจากได้ทำการซื้อขายไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็ได้มาแล้วติดต่อหลายครั้ง แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด ป้าได้ซื้อบ้านมาปีนึงแล้ว โดยได้ซื้อมาจากกรมบังคับคดี


ก่อนหน้านี้ ตนกับป้าก็มาคุยกับนายเดชา พยัคฆะ ตั้งแต่ซื้อบ้านตอนแรก และได้ถามว่า “คุณลุงจะออกเมื่อไหร่ เราได้ซื้อบ้านคุณไว้แล้วนะ คุณลุงพร้อมวันไหน มีรถไหม ถ้าไม่มีเราจะช่วยขนของออกให้” จากนั้นนายเดชา ผู้ก่อเหตุ ก็บอกว่า บ้านหลังนี้ตนได้ซื้อมาจากธนาคารออมสิน แต่ธนาคารออมสินโกงตน ถ้าอยากได้ไปฟ้องเอา


จนกระทั่ง ช่วงบ่าย วานนี้ (30 พ.ค. 66) คุณป้าและลูกสาว ได้เดินทางมาบ้านหลังดังกล่าวอีกครั้ง ก่อนที่จะเกิดเหตุขึ้น ยืนยันว่า เข้ามาพูดคุยด้วยดี ไม่ได้ทะเลาะกัน แต่ผู้ก่อเหตุยังไม่ยินยอมย้ายออกจากบ้าน จนเกิดเหตุการณ์ขึ้น


จากนั้น ลูกสาวของคุณป้า ก็วิ่งไปหลบ และโทรมาบอกตน ตนกับญาติๆ ก็รีบขับรถมาหาที่เกิดเหตุ ตกใจว่าทำไมลุงถึงมายิงป้าแบบนี้ มีคนแถวนี้บอกว่าได้ยินเสียงปืน 1 นัด แล้วป้าก็วิ่งออกมา พอมาล้มข้างหน้า ก็เดินออกมายิงซ้ำอีก มีคุณลุงที่ปั่นจักรยานมาบอกว่า เขายิงทั้งหมด 5 นัด และมาจ่อยิงที่หัว 1 นัด

-------------
ด้าน นางกาญจนาพร ดอนทอง อายุ 50 ปี น้องสาวของผู้เสียชีวิต เดินทางมาดูศพของพี่สาว ซึ่งกู้ภัยได้เปิดให้ดูร่าง ที่อยู่ท้ายรถกระบะของรถกู้ภัย น้องสาวร้องไห้แทบขาดใจ เผยกับทีมข่าวว่า


บ้านหลังนี้ พี่สาวซื้อมาจากธนาคารเป็นปีแล้ว แต่เจ้าของบ้านคนเดิมคือนายเดชา ไม่ยอมย้ายออก พี่สาวเคยมาพูดคุยหลายครั้งแล้ว กระทั่ง วานนี้ (30 พ.ค. 66) พี่สาวมาทวงถามอีกครั้งพร้อมกับลูกสาว ก่อนจะเกิดเหตุสลดขึ้น


“ไม่คิดว่ามาแล้วจะเจอแบบนี้ หลังเกิดเหตุหลานสาว (ลูกผู้ตาย) โทรมาบอกว่า แม่โดนยิงไม่กล้าเข้าไปช่วย แม่วิ่งหนีล้มลงกลางถนน โดยนายเดชายังได้ถือปืนออกมายิงซ้ำอีก โทรแจ้งตำรวจก็ยังไม่มา อยากให้ตายไปพร้อมกัน ทำไมไม่คุยกันดีๆ พี่สาวก็ให้โอกาสตั้งหลายรอบมาร้ายผู้หญิงแบบนี้”

-------------
เวลา 16.43 น. ผู้ก่อเหตุยังหลบอยู่ในบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าเจรจา ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ พร้อมโล่ป้องกัน เดินเข้ากระชับพื้นที่บริเวณหน้าบ้าน ตามยุทธวิธี


แต่ปรากฎว่า นายเดชาใช้อาวุธปืนยิงสวนออกมาจากภายในบ้าน 1 นัด ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษต้องล่าถอยออกมา เพื่อวางแผนการจับกุมใหม่อีกครั้ง ท่ามกลางความระทึกของชาวบ้านในหมู่บ้าน


สำหรับการเข้าควบคุมสถานการณ์ เจ้าหน้าที่ใช้กำลังจากหน่วยปฏิบัติการพิเศษของกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี และฝ่ายปกครอง เข้าเจรจา โดยบางจังหวะได้ใช้เครื่องขยายเสียงประกาศให้ผู้ก่อเหตุออกมามอบตัว พร้อมจะรับรองความปลอดภัย


เวลา 17.30 น. เจ้าหน้าที่ได้พยายามใช้โล่กำบัง พร้อมสวมชุดเกราะกันกระสุนเข้าไปภายในบ้าน


แต่ถูกผู้ก่อเหตุยิงสวนออกมา 1 นัด ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องออกมาตั้งรับอยู่ด้านนอก โดยตำรวจปิดล้อมเจรจาอยู่ตั้งแต่เที่ยง แต่ยังไม่เป็นผล ขณะญาติผู้เสียชีวิตร่ำไห้ ยังนำศพออกจากที่เกิดเหตุไม่ได้ เหตุต้องรอพนักงานสอบสวน


เวลา 18.00 น. พลตำรวจโท จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงพื้นที่บัญชาการเหตุการณ์


พร้อมประสานชุดปฏิบัติการพิเศษคอมมานโด เข้ามาสมทบ โดยมีลูก ๆ และเพื่อนที่นายเดชา วางใจมาช่วยเจรจาเกลี้ยกล่อม แต่ผู้ก่อเหตุร้องขอพบนายกัน จอมพลัง โดยอ้างว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรม เรื่องการนำบ้านไปขายทอดตลาด


เวลา 19.45 น. ตำรวจได้ให้ลูกสาวของผู้ก่อเหตุ โทรศัพท์คุยกับพ่อของตัวเอง เพื่อเจรจาเกลี้ยกล่อมขอให้มอบตัว ขณะเดียวกันโทรศัพท์อีกเครื่องก็มีการโทรหา ‘กัน จอมพลัง’ ตามที่ผู้ก่อเหตุร้องขอว่าอยากคุยด้วย


ซึ่งตอนแรกผู้ก่อเหตุต้องการให้ กัน จอมพลัง เข้ามาหาที่บ้าน แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจห่วงเรื่องความปลอดภัย จึงให้ไปเจอกันที่โรงพัก


โดยให้ ‘กัน จอมพลัง’ เดินทางไปรอที่ สภ.ธัญบุรี ซึ่งทางผู้ก่อเหตุอารมณ์เย็นลง และรับปากว่าจะยอมไปที่โรงพัก ช่วงหนึ่งลูกสาวบอกพ่อให้เตรียมเอกสารบางอย่างไปด้วย


จากนั้น ลูกสาวและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินเข้าไปที่บ้านหลังเกิดเหตุ ตำรวจกันพื้นที่ให้สื่อมวลชนและชาวบ้านออกจากจุดเกิดเหตุในรัศมี 100 เมตร เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับตัวผู้ก่อเหตุ


เวลา 20.30 น. ผู้ก่อเหตุยอมมอบตัว


ตำรวจได้เข้าควบคุมตัวผู้ก่อเหตุออกจากบ้านพัก โดยใส่กุญแจมือ และนำตัวขึ้นรถกระบะของฝ่ายสืบสวน ก่อนจะนำไปสอบสวนที่ สภ.ธัญบุรี


เววลา 21.30 น. พลตำรวจตรีชุมพล ชาญชนะโยธิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานีเปิดเผยหลังจากสามารถควบคุมตัวนายเดชา พยัคฆะ อายุ 65 ปี ซึ่งหลังจากผู้ก่อเหตุยิงผู้เสียชีวิตแล้วได้หลบหนีเข้าไปในบ้านพัก ก่อนที่จะเจรจาเกลี้ยกล่อมนานกว่า 6-7 ชั่วโมง


การดำเนินคดีเบื้องต้น แจ้งข้อกล่าวหากับนายเดชา 3 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่น พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน และ พ.ร.บ.อาวุธปืน ส่วนสาเหตุยอมรับว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าของบ้านใหม่ที่เข้ามาทวงถามจนมีปากเสียงกันก่อนเกิดเหตุ


พลตำรวจตรีชุมพล ยังเปิดเผยว่า นายเดชา อ้างว่าที่ผ่านมาถูกกดดันจากผู้เสียชีวิตมาโดยตลอด ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนลูกโม่ขนาด .38 โดยซื้อมาจากที่อื่น เพื่อเตรียมไว้ใช้ป้องกันตัว หลังจากถูกติดตามทวงถามมานาน และยอมรับว่าเป็นคนอารมณ์ร้อน


ขณะที่ นายเดชา อ้างว่าถูกยึดบ้านตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2565 โดยเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากธนาคารออมสิน


จึงได้ไปยื่นเรื่องร้องเรียนกับธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่มาแล้ว  จนมีการมาติดตามขอให้ย้ายออกจากบ้าน เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2565 พร้อมกับแจ้งราคาของบ้านในราคา 550,000 บาท และอยู่ระหว่างให้ลูกสาวกู้เงินเพื่อไปซื้อบ้าน พร้อมยอมรับว่าใจร้อน และวันนี้ก็ถือว่าเป็นฟางเส้นสุดท้าย ที่ตัดสินใจก่อเหตุขึ้น
-------------

กัน จอมพลัง ที่เข้าร่วมเจรจา บอกว่า ในส่วนของคดีความก็ให้ดำเนินคดีไปตามกฎหมายเนื่องจากถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง และต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียชีวิตที่ไม่สามารถมาแก้ต่างได้


ส่วนที่ตัดสินใจมาร่วมเจรจาในครั้งนี้ เนื่องจากไม่ต้องการเห็นการสูญเสียเกิดขึ้น เพราะตำรวจหรือประชาชนในละแวกนั้นก็ไม่ต้องการความสูญเสียเช่นกัน


ส่วนข้อร้องเรียนต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการที่ไม่ได้ความเป็นธรรมเรื่องที่ดิน ที่พักอาศัยของนายเดชา ได้มอบไว้แล้วนั้นก็จะนำกลับไปตรวจสอบก่อนว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร หากพบไม่ได้รับความเป็นธรรมก็จะช่วยเหลือให้ตามสิทธิ์ที่นายเดชาร้องเรียน และจะประสานงานผ่านกับลูกสาวของนายเดชา ต่อไป

-------------

ทีมข่าวได้คุยกับลูกสาวผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า เสียใจกับสิ่งที่พ่อทำ และเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย ไม่คิดว่าจะเหตุนี้ขึ้น


อยากให้ฝั่งครอบครัวผู้เสียชีวิตอโหสิกรรมให้กับพ่อ ขอโทษจริงๆ ขอโทษทูกสิ่งสิ่งทุกอย่าง ตนยังเสียใจกับเหตุที่เกิดขึ้น ยังไม่อยากพูดอะไรมาก โดยตอนที่ตนเข้าไปเกลี้ยกล่อมพ่อให้มอบตัว ก็ถามพ่ออยากได้อะไร และพูดตามที่ตำรวจบอก ซึ่งพ่ออยากเจอ ‘กัน จอมพลัง’ เพราะอยากได้ความเป็นธรรม พ่อไม่ได้บอกสาเหตุที่ยิงเพราะอะไร
-------------



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/LAb_ME4nj3Q


คุณอาจสนใจ

Related News