ครูผู้ช่วยหวั่นความปลอดภัย ขอย้ายออกนอกพื้นที่ ด้านตำรวจคุมตัวคนร้ายฝากขังที่ศาล

จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.น้ำพองและกำนันตำบลบัวเงิน ผู้ใหญ่บ้าน บ้านหนองแวง ม.11 ต.บัวเงิน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ร่วมกันจับกุม นายอนุวัฒน์ อายุ 33 ปี ใน ต.บัวเงิน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ในข้อหาบุกรุกเคหสถานโดยใช้กำลังประทุษร้าย และทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยใช้กำลังประทุษร้าย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย เมื่อคืนวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น



ความคืบหน้ากรณีดังกล่าวนั้น เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 11 พฤษภาคม 2566 นางกรรณิกา รอง ผอ.สพป.ขอนแก่น เขต 4 พร้อมด้วย นายนฤเดช อายุ 53 ปี กำนันตำบลบัวเงิน พร้อมด้วย นาย ปัญญา อายุ 56 ปี ผู้ใหญ่บ้านหนองแวง ต.บัวเงิน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น  ลงพื้นที่พบนางสาวอารยา ผู้อำนวยการฯและคณะครูที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง  ส่วนครูที่ถูกทำอนาจารนั้น ได้กลับบ้านและไม่ได้เดินทางมาที่โรงเรียน

สืบเนื่องจาก เมื่อช่วงเย็นวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา นางสาวสวย (นามสมมติ) ตำแหน่งครูผู้ช่วย อายุ 26 ปี ถูกนายอนุวัฒน์ บุกรุกเข้าไปทำอนาจาร แต่นางสาวสวยสามารถต่อสู่ดิ้นรน หลุดพ้นออกมาได้แล้ววิ่งไปขอความช่วยเหลือจากประชาชนที่มีบ้านพักอยู่ตรงข้ามโรงเรียน จากนั้นชาวบ้านจึงแจ้งผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และคณะกรรมการชุมชน คณะกรรมโรงเรียนมายังจุดที่เกิดเหตุ จากนั้นจึงแจ้งตำรวจ และในระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่ตำรวจมายังจุดเกิดเหตุนั้น กำนันและผู้ใหญ่บ้านรวมถึงคณะกรรมการ พากันจับตัวนายอนุวัฒน์เอาไว้ได้ กระทั่งเวลา 21.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมารับตัวนายอนุวัฒน์ไปทำการสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหา



ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับคุณครูภายในโรงเรียน ทราบว่า ครูสวยมาเข้าเวรที่โรงเรียน และพักอยู่ในบ้านพักในโรงเรียน ขณะเกิดเหตุทราบว่า ครูสวยกำลังเก็บของขึ้นรถ เพื่อกลับบ้านพัก ผู้ก่อเหตุเข้ามาและก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งเป็นช่วงที่ในโรงเรียนไม่มีคนอยู่  และทราบว่า หลังเกิดเหตุ ครูสวย ขอย้ายออกไปสอนที่โรงเรียนอื่น เพราะถ้ายังอยู่ที่เดิมเกรงจะไม่ปลอดภัย



ขณะที่ นายนฤเดช อายุ 53 ปี กำนันตำบลบัวเงิน กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุ หลังจากรับแจ้งจากทางผู้ใหญ่บ้าน ก็รีบแจ้งตำรวจ ละก็รีบมายังโรงเรียนที่เกิดเหตุก็พบคณะกรรมการโรงเรียนและกรรมการหมู่บ้านอยู่ในที่เกิดเหตุ ล้อมจุดเกิดเหตุรอตำรวจ แต่ตำรวจยังไม่มา จึงหารือกับผู้ใหญ่บ้าน เพื่อควบคุมตัวคนก่อเหตุเอาไว้  โดยเกลี้ยกล่อมคนก่อเหตุให้ออกมาจากที่หลบซ่อน  เมื่อคนก่อเหตุออกมาจึงร่วมกันควบคุมตัวไว้รอตำรวจ  ประมาณ 3 ทุ่มกว่าตำรวจจึงมารับตัวคนก่อเหตุไป



“จะมีการพูดคุยกับทางโรงเรียน ว่าอยากให้ผู้นำชุมชนสนับสนุนในเรื่องใดก็จะเข้ามาช่วยกันตามอำนาจหน้าที่ แม้การก่อเหตุครั้งนี้ไม่สำเร็จ แต่ก็เป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมาก และเป็นเรื่องที่ไม่สามารถปล่อยผ่านได้ ซึ่งที่ผ่านมาทางผู้นำชุมชนมีการจัดชุด ชรบ.ตระเวนดูรอบโรงเรียน หลังจากนี้ก็จะมีการพูดคุยกับทางโรงเรียนหารือว่าจะสามารถช่วยเสริมหรือหาทางป้องกันยังไงได้บ้าง อาจจะเพิ่มรอบในการลาดตระเวนป้องกันเหตุ



นางกรรณิกา ซาหยอง รอง ผอ.สพป.ขอนแก่น เขต 4  กล่าวภายหลังพูดคุยกับผู้อำนวยการโรงเรียนและคณะครู กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ว่า  หลังรับรายงาสนจากทางผู้อำนวยการโรงเรียน ผอ.สพป.ขอนแก่น เขต 4 ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ  เพราะเป็นห่วงในเรื่องความปลอดภัยของครู  จึงได้ให้ลงะพื้นที่มาสำรวจและตรวจดูสถานที่เกิดเหตุในโรงเรียน เก็บข้อมูลรายละเอียดต่างๆที่เกี่ยวข้องกัน เพื่อรายงานไปยังศูนย์ความปลอดภัย ศพฐ. เพื่อรายงานต่อไปยังกพฐ. ให้ทราบถึงเหตุการณ์และข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น



“หลังเกิดเหตุสิ่งที่เป็นห่วงคือกำลังใจและความปลอดภัยของครู ซึ่งจากการติดต่อสอบถามกับครูคนที่ประสบเหตุทราบว่า ขณะนี้มีกำลังใจขึ้น รู้สึกปลอดภัยขึ้น และขอออกไปทำงานนอกพื้นที่ โดยขอไปทำการสอนที่โรงเรียนในพื้นที่ภูมิลำเนาตัวเองคือพื้นที่ตำบลทรายมูล ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีที่ครูยังมีกำลังใจในการทำการสอน  เพราะบางเรื่องมันเกินความควบคุม  เช่นเรื่องที่คนก่อเหตุเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เป็นเรื่องที่เกินการควบคุม เมื่อลงพื้นที่มาก็ได้พูดคุยกับทางผู้นำชุมชนว่าในขั้นตอนต่อไป และในอนาคต ภาคีเครือข่ายต้องร่วมมือกัน กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงมหาดไทย ต้องร่วมมือกันดูแลในความปลอดภัยของครูในโรงเรียนให้มากขึ้น เพื่อป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นเกินการควบคุมของครูในโรงเรียน”



ทางด้าน พ.ต.อ.พรศักดิ์ งามดี ผกก.สภ.น้ำพอง กล่าวว่า กรณีของครูสวยนั้น หลังรับแจ้งจากผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เดินทางไปยังที่เกิดเหตุทันที โดยพบว่า กำนันและผู้นำชุมชนควบคุมตัวคนก่อเหตุชื่อว่า นายอนุวัฒน์ อายุ 33 ปี เอาไว้เรียบร้อยแล้ว  จึงควบคุมตัวมาสอบสวน

ในขณะเดียวกัน ครูก็เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ ว่าถูกนายอนุวัฒน์ บุกรุกเข้าไปในบ้านพักครูและใช้กำลังประทุษร้ายโดยใช้มือปิดปาก แล้วใช้กำปั้นซกไปที่บริเวณท้อง และกระทำอนาจารผู้เสียหาย โดยที่ผู้เสียหายไม่ยินยอม และในจังหวะที่ผู้ต้องหาเผลอผู้เสียหายได้ดิ้นหลุดและวิ่งหลบหนีออกมาได้พร้อมได้เรียกให้ชาวบ้านช่วย จนสามารถควบคุมตัวนายอนุวัฒน์ ไว้ได้



และจากการสอบสวน นายอนุวัฒน์ ในเบื้องต้นรับว่าได้เสพยาบ้า และได้บุกรุกเข้าไปทำร้ายร่างกาย และกระทำอนาจาร ผู้เสียหายจริง จึงได้แจ้งข้อหาบุกรุกเคหสถานโดยใช้กำลังประทุษร้าย และทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยใช้กำลังประทุษร้ายฯ และเสพยาบ้าฯ จึงได้ควบคุมตัวนายอนุวัฒน์ ผู้ต้องหาไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปและขณะนี้ได้ควบคุมตัวส่งฟ้องศาลจังหวัดขอนแก่นฝากขังผลัดแรกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว



ด้านครูเตย (สงวนชื่อนามสกุล) ผู้โพสต์ลงข้อความทางเฟซบุ๊ก และเป็นคนถ่ายคลิปขณะเกิดเหตุ เล่าว่า ในวันเกิดเหตุตนเองได้บันทึกภาพไว้ แต่ทำไม ถึงเกิดความล่าช้าในการที่ประสานเจ้าหน้าที่เข้ามาควบคุมตัวคนก่อเหตุ ซึ่งคนร้ายที่มาก่อเหตุ เป็นคนที่มีประวัติติดยาเสพติดมาก่อนและเคยก่อเหตุเผาบ้านตัวเองมาแล้ว และยังมีคดีที่คนร้าย ได้มาก่อเหตุถ้ำมองลูกสาวคนในหมู่บ้าน จนกระทั่งมาก่อเหตุกับครูผู้ช่วยที่โรงเรียนแห่งนี้ ซึ่งตนเองมองว่าหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ อยากให้มีการเข้ามาจับกุมตัวอย่างรวดเร็ว เพราะถือว่าเป็นภัยมาก



นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังได้พูดคุยกับนายรณยุทธ์ อายุ 41 ปี ชาวบ้านที่เข้าไปช่วยเหลือ เล่าว่า ขณะนั้นตนขับรถมาจากทำธุระ  พอมาจอดที่หน้าบ้าน ก็พบครูผู้เสียหายวิ่งออกมาจากภายในโรงเรียนด้วยอาการตกใจและร้องไห้  พร้อม กลับบอกว่า จะโดนข่มขืน  และคนร้ายได้บีบคอ  ทำร้ายจนปากแตก ตนจึงวิ่งเข้าไปภายในโรงเรียนก็พบคนร้ายกำลังนั่งบ่นอยู่คนเดียว ไม่ไปไหน แล้วบอกอย่าให้เข้าไปใกล้ แล้วเดินวนไปวนมา เหตุเกิดตั้งแต่เวลาประมาณ 17.30 น. จนถึงเวลาประมาณ 19.00 น. ของวันเกิดเหตุ คนร้ายก็เดินไปที่กำแพงข้างโรงเรียน ตนและทางกำนันผู้ใหญ่บ้าน จึงช่วยกันจับกุมตัวไว้ได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเดินทางมาควบคุมตัวไป สภ.น้ำพอง