อาชญากรรม

"แอม" ยืนกราน ไม่รับสารภาพ ขอให้การชั้นศาลเท่านั้น- ทนายความ หวั่น แอมเครียดเกินไปจะส่งผลกระทบลูกในท้อง

โดย kanyapak_w

5 พ.ค. 2566

621 views

(5 พ.ค.) หลังจากใช้เวลาพบแอม ไซยาไนด์ ในทัณฑสถานหญิงกลางประมาณ 1 ชั่วโมง ต่อมาเวลา 11:45 น. น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ ทนายความของแอม ไซยาไนด์ เปิดเผยหลังเข้าพบแอมว่า วันนี้ตนได้เข้าพบกับแอมวันที่ 2 โดยวันแรกเป็นวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยในวันนี้แอมเองยังไม่ มีความเครียดใดๆ เมื่อพบกับตน มีความสุขดี ซึ่งแอมยังคงปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา



ส่วนวันนี้เจ้าตัวประสงค์จะขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น ซึ่งก็เป็นไปตามที่ทางทนายความให้การแนะนำ พร้อมบอกว่าไม่ต้องให้ใครมารบกวนตัวเองอีกนอกจากทนายความ รวมถึงรองออฟ อดีตสามีด้วย




ส่วนในวันพรุ่งนี้ที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะเข้าสอบปากคำแอมนั้น ก็ยืนยันยังจะไม่ให้การใด ๆ เว้นแต่จะให้การในชั้นศาล พร้อมทั้งระบุว่า หลังจากนี้แอมจะใช้สิทธิไม่ให้การใด ๆ อีก และจะไม่ให้ตำรวจเข้ามาสอบปากคำในทัณฑสถานอีก เพราะจะกลายเป็นการกดดันที่ทำให้แอมเครียดจนเกินไปและส่งผลกระทบต่อลูกในท้อง อีกทั้งแอมยังให้เหตุผลว่าในทัณฑสถานค่อนข้างสงบเงียบ เหมาะกับการปลีกวิเวก ส่วนเหตุผลที่แอมอยากเจอตน ก็เพราะว่าแอมไว้ใจและอยากให้ทนายช่วยเล่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ข้างนอกให้ฟังด้วย



อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าโทษคดีนี้ หากถูกสั่งประหารชีวิตก็จะได้เพียงชีวิตเดียว หากสารภาพแล้วจำคุกตลอดชีวิต ก็จะต่อโทษไปอีกเรื่อย ๆ ซึ่งแอมยืนยันจะปฏิเสธ โดยไม่รับสารภาพคดีใดทั้งสิ้น ทั้งนี้ในส่วนคดีอื่น ๆ ตนก็แนะให้ลูกความได้ดูพยานหลักฐานของคดีต่าง ๆ ก่อน แต่คดีของก้อย ถือว่าหาพยานหลักฐานหักล้างปกป้องแอมจบแล้วและยืนยันว่าคดีก้อยแอมไม่ผิดกับไม่สารภาพ เตรียมจะไปเริ่มค้นหาหลักฐานในคดีอื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อต่อสู้คดี



โดยสถานะทางคดี ณ ตอนนี้ แอมถูกแจ้งข้อหาไป 8 คดีแล้ว แต่ที่เหลือตนก็ไม่ทราบว่ากำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการหรืออะไรถึงยังไม่แจ้งครบ 14 คดี ซึ่งยืนยันทุกข้อหาตอนนี้ปฏิเสธหมด ให้การในชั้นศาลเท่านั้น และแอมยังย้ำว่า จะต่อสู้ทุกคดีอย่างเต็มที่ในชั้นศาล จนกว่าพยานหลักฐานที่ตำรวจหาในสำนวนจะแน่นหนาพอจนมัดตัวแอม รวมทั้งตนพร้อมเป็นทนายความให้แอมทุกคดี ยืนยันว่าตนไม่หนักใจในคดีนี้



ส่วนประเด็นที่ว่าการรับสารภาพในชั้นพนักงานสอบสวนหรือในชั้นศาลจะแตกต่างกันหรือไม่อย่างไรนั้น ทนายความของแอมมองว่าไม่แตกต่าง เพราะสิทธิของผู้ต้องหาสามารถจะรับสารภาพในชั้นไหนก็ได้ แต่ตามปกติมักจะสารภาพในชั้นศาล ซึ่งก็ต้องดูจากพยานหลักฐานก่อน เพราะตามข้อกฎหมายระบุว่า หากเป็นการรับสารภาพเนื่องจากจำนนต่อพยานหลักฐาน ก็จะไม่เป็นเหตุให้บรรเทาโทษแต่อย่างใด



หากแต่สารภาพตามคำให้การ ก็อาจจะมีเหตุบรรเทาโทษได้ จึงเป็นสิทธิของจำเลยที่จะรับสารภาพหรือไม่อย่างไร ตนมีหน้าที่เพียงแจ้งสิทธิ์ให้จำเลยรับทราบ รวมทั้งมองว่า การที่แอมถูกคุมขังในทัณฑสถาน ก็สามารถเป็นเหตุบรรเทาโทษได้ในระดับหนึ่งแล้ว เนื่องจากไม่มีพฤติการณ์ไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและการทำงานของเจ้าหน้าที่ ส่วนเรื่องของการที่แอมไม่เคยไปงานศพของเหยื่ออันจะเป็นการเยียวยาบรรเทาโทษได้หรือไม่ ทนายความมองว่าเป็นคนละประเด็น



เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่ หากท้ายที่สุดศาลตัดสินประหารชีวิต ทนายความยืนยันไม่หนักใจ เพราะศาลมี 3 ชั้น แม้จะแพ้คดีที่ศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ ก็สามารถขอยื่นฎีกาได้ภายหลัง หากศาลฎีกาตัดสินประหารก็ยังยื่นถวายฎีกาได้ ยืนยันว่าแอมไม่รู้สึกท้อและยังคงยิ้มแย้มแจ่มใส ส่วนแอมเองยังให้กำลังใจตัวเองเช่นกัน บอกให้สู้ ๆ และถามทนายความด้วยว่าเหนื่อยไหม ตนก็บอกว่าไม่เหนื่อย เพราะยังทำคดีอื่นควบคู่ไปด้วย



อย่างไรก็ตาม แอมยังมีความเครียดที่รองอ๊อฟ อดีตสามี มาหาเมื่อวานนี้ ซึ่งได้พูดคุยกันเฉพาะเรื่องสารทุกข์สุกดิบและความเดือดร้อนของครอบครัว แต่ไม่ได้กล่อมให้รับสารภาพ โดยแอมยังบอกว่าดีใจที่ลูกสาวได้ย้ายไปอยู่อีกจังหวัดแล้ว ซึ่งตนก็บอกแอมไปว่า ไม่เป็นไร ไม่ต้องเป็นห่วงลูก ตนจะช่วยเหลือทางคดีให้ถึงที่สุด ไม่มีตังค์จ้างก็ไม่เป็นไร ขอให้แอมสบายใจได้ อย่างมากก็แค่ประหารชีวิต บอกแอมว่าเฉย ๆ เข้าไว้ ไม่เป็นไรหรอก ต่อให้ประหารคดีก็ต้องถึงที่สุดก่อน พร้อมกันนี้ยังยืนยันว่าตัวเองไม่ได้ว่าความให้ฟรี ไม่ฉะนั้นจะถือว่าผิดมารยาททนายความด้วย




คุณอาจสนใจ

Related News