อาชญากรรม
"ชูวิทย์" เปิดศูนย์ต้านกัญชา เดินหน้าโค้งสุดท้ายต่อต้านกัญชาเสรี ภท.
โดย kanyapak_w
3 พ.ค. 2566
138 views
ชูวิทย์ เปิดศูนย์ต้านกัญชา เดินหน้าโค้งสุดท้ายต่อต้านกัญชาเสรี ภท. จนกว่าจะเป็นฝ่ายค้าน ลั่น อนุทิน พังแน่ พร้อมลากลงนรกด้วยกัน 14 พ.ค. นี้
หลังจากนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตนักการเมืองไทยและนักเคลื่อนไหว ประกาศชัดว่าจะเดินหน้ารณรงค์ต่อต้านนโยบายบายกัญชาเสรีของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งมีการเคลื่อนไหวประเด็นดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดวันนี้ (3 พ.ค.66) นายชูวิทย์แถลงเปิดศูนย์ต่อต้านกัญชา Center of Anti Canabis (CAC) อย่างเป็นทางการ
นายชูวิทย์ กล่าวว่า สถานที่ตรงนี้เคยเป็นร้านกัญชา พื้นที่ของโรงแรม ที่ให้เช่าเป็นเวลา 6 เดือน ก่อนจะเลิกไป แต่เมื่อหมดสัญญาเช่า 30 เม.ย.จึงเปลี่ยนเป็นศูนย์ต่อต้านกัญชา พื้นที่นี้ ประชาชนสามารถเข้ามาเอาสินค้าต่อต้านกัญชาเสรีฟรีทุกอย่าง เสื้อ เข็มกลัด สติกเกอร์ โดยจะเป็นต่อสู้โค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง 1 เสียงเพื่ออนาคตของเยาวชน
นายชูวิทย์ ยังกล่าวว่า หลังจากเวลา 12.00 น. ของวันที่ 13 พ.ค ที่พรรคการเมืองต้องหยุดหาเสียง จากนั้นในเวลา 16.00 น. ตนเองจะเริ่มวิ่งต่อต้านกัญชาเสรีที่สวนลุมพิมพ์ โดยจะไม่ได้พูดถึงพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง อย่าให้คนเลวมาปกครองบ้านเมือง การวิ่งของตนเป็นชูวิทย์ กัมป์ (คล้าย forrest gumbo) วิ่งคนเดียว แต่ใครจะวิ่งกับตนก็แล้วแต่ โดยจะมีการแถลงอีกครั้ง
สำหรับศูนย์ต่อต้านกัญชา เพื่อต้องการให้ประชาชนตระหนักถึงสถานการณ์ของกัญชาในประเทศไทย รวมถึงรวบรวมคำสัมภาษณ์ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่เคยให้สัมภาษณ์ในอดีต ที่แตกต่างกับบทสัมภาษณ์ในปัจจุบัน เช่น ที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า กัญชา จุดประสงค์เพื่อใช้ทางการแพทย์เท่านั้น แต่จากการลงพื้นที่ของตนเองกลับพบว่ามีการนำกัญชามาขายเสรี ไม่ได้เป็นการใช้ทางการแพทย์อย่างแท้จริง
พร้อมกันนี้ได้สรุปสถานการณ์กัญชาในประเทศไทยว่า กว่า 80% ของกัญชาในไทน มีการลักลอบนำเข้ากัญชาจากอเมริกา ซึ่งมีค่า THC สูง ที่เหมาะกับการพี้ มากกว่ากัญชาที่ปลูกในไทย ซึ่งมีค่า THC ต่ำ เพื่อใช้ในทางการแพทย์ ที่มีเพียงสี่สายพันธุ์เท่านั้น
และขยายความว่า กัญชาที่เป็นผลผลิตภายในประเทศมาจากการลงทุนของนายทุน เพราะต้องใช้งบประมาณสูง เกินกว่าที่เกษตรกรธรรมดาจะลงทุนทำเองได้ ประกอบกับเกษตรกรไทยไม่มีความชำนาญเนื่องจากเป็นพืชใหม่ จึงทำให้หลายคนขาดทุน แต่มีข้อมูลว่า นายทุนธุรกิจกัญชารายใหญ่ ชื่อย่อ ท. ซึ่งเป็นคนเป็นคนสนิทกับนายอนุทิน แสร้งทำฟาร์มในประเทศไทยบังหน้าแต่ลักลอบนำเข้ากัญชาจากสหรัฐอเมริกา มาจำหน่ายในไมย จึงทำให้ราคากัญชาในประเทศตกต่ำ อยู่กิโลกรัมละ 2000 ถึง 3000 บาท จากเดิมราคา 100,000อยู่ที่ 100,000 ถึง 200,000 บาทต่อกิโลกรัม
โดยประเทศเดียวที่ที่อนุญาตสูบกัญชาเพื่อการบำบัดคือ ที่ออสเตรเลีย แต่ควบคุมโดยแพทย์ใช้ได้ไม่เกินวันละ 0.5 กรัม หรือ สัปดาห์ละไม่เกิน 2 กรัม
หลังจากนี้ จะมีการรณรงค์ต่อต้านกัญชาของตนระยะสุดท้าย โดยจะไปถามพรรคการเมืองต่างๆ ก่อนจากเปิดภาพของผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดตรัง ที่แจกเมล็ดกัญชาหาเสียง ตนจึงยื่นหนังสือร้องเรียนไปยัง กกต.แล้ว รวมไปถึง กรณีที่เคยไปร้องเรียนต่อ กกต. ก่อนหน้านี้ก็ยังไม่มีการตอบกลับมา
เมื่อถามถึงประเด็นที่นายอนุทินยืนยันดำเนินนโยบายเรื่องกัญชาอยู่ มองอย่างไรบ้าง นายชูวิทย์ กล่าวว่า เป็นความผิดพลาด และมองว่าเป็นนายอนุทิน ไม่สามารถกลับลำได้แล้ว เช่นเดียวกับสังคมที่ซึมซับเอานโยบายกัญชาเสรี ต้องเดินหน้าต่อไป ซึ่งการเดินหน้านี้ทำให้สังคมเสี่ยง พร้อมตั้งคำถามในฐานะประชาชนว่า เพียงแค่เพราะว่านายอนุทินต้องการชัยชนะจากการเลือกตั้งแค่นี้หรือ แล้วนายอนุทินไม่ได้มองสังคม ไม่ได้มองเยาวชน และอนาคตของประเทศชาติใช่หรือไม่ ซี่งตนมองว่านายอนุทินไม่สามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้
ส่วนกรณีที่ที่นายอนุทิน บอกว่า ผู้อยู่เบื้องหลังเกมป่วนของนายชูวิทย์ เป็นนักธุรกิจใหญ่ และรู้จักกันดี นายถามกลับว่า ใครละครับ นักการเมืองไหน
นักธุรกิจไหน พร้อมย้อนว่า เบื้อหลังอนุทินใช่นายเนวิน ชิดชอบ ใช่หรือไม่
เมื่อถามว่าจากกรณีที่นายชูวิทย์ เคลื่อนไหวต่อต้านกัญชาเสรี นายอนุทินบอกว่าเข้าใจบทบาทและมองว่าเป็นละครการเมือง นายชูวิทย์ ระบุว่า ไม่มีละคร ไม่มาเหนื่อยเล่นละครหรอก พร้อมกล่าวว่า ในอดีตตนเคยสนับสนุนนายอนุทิน เช่นว่า ดีนะ มีอนาคต อาจจะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ แต่ทันทีทันใดที่นายอนุทินออกกัญชาเสรีมาตนก็บ้าไปด้วย เปิดให้เช่าสถานที่ แต่พอดูไปดูมามองว่าไม่ใช่แล้ว จึงมีสิทธิ์ที่จะไตร่ตรองแล้วมารณรงค์ เพราะไม่มีกฎหมายต่างๆในการควบคุมเลย รวมทั้งเห็นว่านโยบายกัญชาที่มามอมเมาเยาวชน
นายชูวิทย์ กล่าวว่า กัญชา ไม่ใช่พารวยหรือทำคะแนนเสียงให้พรรคภูมิใจไทย แต่กัญชาจะทำให้นายอนุทิน พัง พังแน่นอน โดยที่ตนจะเป็นส่วนสำคัญในการทำให้นายอนุทินพัง
ดังนั้น ตนจึงปฏิญาณต่อต้านกัญชาเสรี โดยประกาศว่า จะต่อต้านจนกว่าพรรคภูมิใจไทยจะเป็นพรรคฝ่ายค้าน ไม่ให้ร่วมรัฐบาล และนำกัญชากลับมาเข้าสู่บัญชียาเสพติด
และมั่นใจว่านายอนุทินจะโดดเดี่ยว จากกัญชาเสรี และตนจะลากนายอนุทินไปลงนรกกับตนในวันที่ 14 พ.ค.นี้
เมื่อถามว่าหลังจากออกมาต่อต้านนโยบายการกัญชาเสรีของพรรคภูมิใจไทย แต่ดูเหมือนว่าคะแนนความนิยมจากจากโพลต่างๆ ออกมาเหมือนไม่ได้รับผลกระทบเลย นายชูวิทย์ กล่าวว่า ไม่จริง โพลคือโพล ให้รอดูผลวันเลือกตั้งดีกว่า
ส่วนกรณีที่นายอนุทิน ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ทั้งหมดเป็นเพียงละคร และมีแชทหวานพูดคุยกับคุณชูวิทย์นั้น ประเด็นนี้คุณชูวิทย์ได้เปิดแชทอ่านข้อความที่พูดคุยกับนายอนุทิน ช่วงสิ้นปีเดือน ธ.ค. 63 พี่มีการส่งข้อความอวยพรวันปีใหม่ ไล่เรียงมาจนถึงช่วงเดือน ก.พ. 64 ที่มีการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการทำงาน ซึ่งในช่วงขณะนั้นยังไม่มีการปลดล็อคกัญชา แต่หลังจากวันที่ 1 ก.ค.ไม่ได้มีการคุยกันอีกเลย
พร้อมกันนี้ได้เปิดแชตข้อความของนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 30 เม.ย.66 ที่ผ่านมา ซึ่งนายชูวิทย์ บอกเอาไว้ว่า ยินดีสนับสนุนหาก ไม่เอานโยบายกัญชา ด้าน เศรษฐา ตอบว่า ไม่เอาแน่นอน ตนจึงย้ำไปว่า พรรคเพื่อไทยจะต้องไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทย
ส่วนกรณีของทนายตั้ม หรือ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ที่จะมีการแถลงข่าวในเย็นนี้ นายชูวิทย์บอกว่า ต้องไปถามออยศรีและผองเพื่อน ตนไม่อยากไปยุ่งกับทนายตั้ม เพราะมองว่ามันไม่ใช่ของแท้
แท็กที่เกี่ยวข้อง ข่าวการเมือง ,เลือกตั้ง66 ,เลือกตั้ง66เปลี่ยนใหม่หรือไปต่อ