แม่ภรรยาดาบตำรวจ เชื่อ ลูกดับ โยง “แอม ไซยาไนด์” ลั่นชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต

เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ความคืบหน้ากรณีมีข่าว เหยื่อ แอม ไซยาไนด์ ถูกวางยาเสียชีวิต หลายราย ตามข่าว มียอดคนตกเป็นเหยื่อ กว่า 30 ราย ทยอยออกมายืนยันหลังมีข่าวเผยแพร่ออกไป


ล่าสุด พบอีกราย คือ น.ส.สาวิตรี หรือ หนิม อายุ 40 ปี อดีตพนักงานแบงก์ เป็นชาว อ.เมือง จ.มุกดาหาร ได้สามีอาชีพรับราชการตำรวจ ชาว อ.นาแก จ.นครพนม โดยเกิดเหตุเสียชีวิตปริศนา เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2563 ในบ้านพัก ในเขตเทศบาลเมือง จ.มุกดาหาร ที่สำคัญช่วงเสียชีวิต พึ่งคลอดลูกสาวคนที่ 2 ได้ ประมาณ 1 เดือน แต่ภายหลังทางญาติผู้เสียชีวิต ไม่ได้นำศพส่งไปตรวจชันสูตร เพราะไม่มีเบาะแสว่าถูกฆาตกรรม วางยาถึงแม้จะคาใจ เพราะผู้ตายไม่มีโรคประจำตัว จนกระทั่งมีข่าว การรับสารภาพ ของ แอม ไซยาไนด์ จึงมั่นใจว่า เป็น 1 ในเหยื่อที่ถูกวางยาเสียชีวิต


จนกระทั่งล่าสุด ทางด้าน นางนงเยาว์ อายุ 65 ปี ผู้เป็นแม่เผยว่า มั่นใจการเสียชีวิตของลูกสาวเป็นฝีมือของ แอม ไซยาไนด์ เพราะทำธุรกิจร่วมกัน และมีหนี้สินกับลูกสาว เป็นเงินจำนวนมากพอสมควร


ทั้งนี้หลังติดตามข่าว ยิ่งทำให้รับไม่ได้ เพราะลูกสาวเป็นคนดี ไม่เคยคิดร้ายใคร ไม่คิดว่าจะถูกทำร้ายแบบนี้ รับไม่ได้ที่กระบวนการยุติธรรมไม่ลงโทษขั้นประหาร วอนลงโทษประหาร เพราะชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต


ยอมรับว่าเสียใจมากหลังจากลูกสาวเสียชีวิตมานานกว่า 3 ปี ตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งตนยังคาใจหาสาเหตุไม่เจอ เพราะเสียชีวิตปริศนา ไม่มีอาการป่วยมาก่อน สุขภาพแข็งแรง ปกติลูกสาวเคยทำงานพนักงานธนาคาร และทำธุรกิจหลายอย่าง ส่วนสามีเป็นชาว อ.นาแก จ.นครพนม หลัง ลูกสาวเสียชีวิต ตนจึงมาดูแล เลี้ยงหลาน ลูกของลูกสาว หรือหนิม ที่เสียชีวิต มีลูกทั้งหมด 2 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 1 คน


ส่วนบ้านที่มุกดาหาร ให้ญาติดูแล ไม่มีคนอยู่ เพราะสามีตนเสียชีวิตหลายปีแล้ว ที่สำคัญช่วงลูกสาวเสียชีวิต พึ่งคลอดลูกสาว คนที่ 2 ได้แค่ประมาณ 1 เดือน ยอมรับคาใจ แต่หาสาเหตุที่มาไม่เจอว่าเกิดจากอะไร จึงไม่ได้ส่งศพไปชันสูตร จนกระทั่งมาทราบจากข่าวภายหลัง ยิ่งมั่นใจว่าลูกสาวตกเป็นเหยื่อ ถูกวางยา เพราะสนิทสนม คุ้นเคย ทำธุรกิจร่วมกันกับ แอม ไซยาไนด์ มานานหลายปี


ตนรับรู้ตลอดว่าโทรศัพท์คุยกัน แต่ตนไม่เคยเห็นมาหาที่บ้าน รู้เพียงว่าสนิทกับลูกสาว พอทราบถึงสาเหตุยิ่งเสียใจ รับไม่ได้ ไม่คิดว่าจะทำร้ายลูกสาวขนาดนี้ ซ้ำร้ายทราบจากข่าวว่า คดีนี้ผู้ก่อเหตุไม่ได้รับโทษประหาร ยิ่งสงสารลูกสาว ไม่ขอเรียกร้องอะไร ถึงจะไม่คุ้มกับการเสียชีวิต สิ่งเดียวที่ต้องการคือ ชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต อยากให้ถูกโทษประหารชีวิต เท่านั้น