อาชญากรรม

เปิดใจ 2 ตำรวจน้ำดีช่วยเด็ก 17 ถูกพ่อแท้ๆข่มขืน-ถ่ายคลิป รับอ่อนไหวกับคดีเด็ก ห่วงสภาพจิตใจผู้เสียหาย

โดย petchpawee_k

22 มี.ค. 2566

3.2K views

เปิดใจ 2 ตำรวจสายตรวจ ช่วยเด็กสาวถูกพ่อแท้ๆข่มขืน-ถ่ายคลิป ขณะที่เจ้าของหอ-รปภ. เผยไม่เคยระแคะระคาย และไม่เคยได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ 


วานนี้ (วันที่ 21 มี.ค.)    ทีมข่าวได้พูดคุยเปิดใจกับ สิบตำรวจโทวรชัย ศิริอัฐ อายุ 31 ปี และสิบตำรวจโทนฤชิต กอพงษ์ อายุ 28 ปี ซึ่งทั้ง 2 นาย เป็นผู้บังคับหมู่ งานสายตรวจ 1 กองกำกับการสายตรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 ที่ได้เข้าไปสอบถามเด็กหญิงวัย 13 ปีที่เดินร้องไห้อยู่แถวบางเขน จนนำไปสู่การเข้าช่วยเหลือจับกุมพ่อแท้ๆ ที่ก่อเหตุข่มขืนพี่สาววัย 17 ปีในห้องเช่าย่านทุ่งสองห้อง


โดยเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 นาย เล่าเหตุการณ์ว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 11.30 น. ระหว่างออกตรวจบริเวณย่านบางเขน ก็ไปเจอกับเด็กหญิงคนนี้เดินอยู่ริมถนน ซึ่งท่าทางผิดสังเกต ลักษณะดูเศร้า มีอาการร้องไห้ หวาดระแวง ในมือกำกระดาษ 4-5 แผ่นเอาไว้แน่น ตนจึงได้เข้าไปสอบถามว่ามีอะไรให้ช่วยหรือไม่ เด็กหญิงก็บอกว่าพี่สาวถูกพ่อแท้ๆ กักขังและข่มขืน พร้อมกับยื่นกระดาษให้ดู ก็พบกับข้อความขอความช่วยเหลือ ซึ่งประเมินว่า ลักษณะเป็นเหมือนกับการสื่อสารกันระหว่างพี่น้องที่ต้องใช้วิธีเขียนผ่านกระดาษแล้วขยำแอบไว้ โดยตนมาทราบภายหลังว่า ผู้ก่อเหตุมีรหัสโทรศัพท์ของเด็กๆ จึงไม่สามารถจะคุยกันเรื่องการขอความช่วยเหลือได้


ซึ่งพอตนได้เห็นข้อความในกระดาษ ก็รู้สึกสะเทือนใจ และเชื่อว่าน่าจะมีเหตุจริง ซึ่งมองว่าเป็นเหตุที่ต้องทำทันที ไม่สามารถปล่อยผ่านได้ จึงสอบถามน้องว่า ไว้ใจพี่ไหม ให้พาพี่ไปที่ห้อง จากนั้น ตนก็เข้าปฏิบัติตามขั้นตอน โดยแจ้งผ่านนิติบุคคล และได้สอบถามน้องก่อนว่าผู้ก่อเหตุมีอาวุธหรือไม่ เพราะต้องประเมินทุกอย่างก่อนเข้าไปให้รัดกุม จากนั้นพอเปิดประตูห้อง ผู้เสียหายก็วิ่งออกมาทันที โดยแววตาของผู้เสียหายแสดงออกมาอย่างชัดเจน ว่าสิ้นหวังแต่พูดอะไรไม่ได้ ทำให้ตนยิ่งสะเทือนใจมาก ตนจึงบอกให้วิ่งไปรอกับน้องสาวในรถตำรวจก่อน เพื่อเป็นการแยกผู้เสียหายออกจากผู้ก่อเหตุ ป้องกันการข่มขู่


ขณะเดียวกันตนก็ขอบัตรประชาชน และเปิดโทรศัพท์มือถือเพื่อตรวจสอบประวัติอาชญากรรม แล้วก็สังเกตเห็นว่าผู้ก่อเหตุอยู่โทรศัพท์มือถือไว้ 2 เครื่อง กำเอาไว้ในมือแน่น ตนจึงขอตรวจสอบ ซึ่งตอนแรกผู้ก่อเหตุก็ไม่ยอม ตนเลยเดินกลับไปถามผู้เสียหายให้แน่ใจ ผู้เสียหายก็ยืนยันว่าถูกข่มขืนจริง ตนจึงกลับไปยืนยันว่าต้องขอรหัสผ่านกับผู้ก่อเหตุ ก็เจอหลักฐานปรากฏในโทรศัพท์มือถือ จึงเชิญตัวไปที่สถานีตำรวจท้องที่และรายงานเหตุให้ผู้กำกับทราบ และให้พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ดำเนินการต่อ


ทั้งนี้ หลังเรื่องดังกล่าวปรากฎเป็นข่าว และมีเสียงชื่นชมจากโซเชียล ตนเองยังไม่ได้เห็น แต่มีเพื่อนส่งมาให้ดูบ้าง ก็ได้แต่บอกไปว่ายังไม่ได้นอนเลย และรู้สึกดีใจที่ได้ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างเต็มที่ แต่ขณะเดียวกัน แม้จะได้ช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกเป็นห่วงสภาพจิตใจของผู้เสียหายหลังจากนี้ด้วย


นอกจากนี้ สิบตำรวจโทวรชัย ยังเปิดเผยว่า ส่วนตัวตนเองเป็นคนที่อ่อนไหวกับเรื่องเด็กอยู่แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 23 ก.พ. ที่ผ่านมา ก็ได้ช่วยเหลือเด็กชายชั้นประถมที่หนีออกจากบ้าน โดยตนไปเจอน้องเดินอยู่คนเดียวตอนกลางคืน เลยเข้าไปสอบถาม ก็ทราบว่าน้องติดเกมจนผลการเรียนตกต่ำเลยไม่กล้ากลับบ้าน ตนจึงได้ติดต่อหาผู้ปกครอง และขออนุญาตบอกว่าจะพาน้องไปเที่ยวให้รู้สึกดีขึ้น ซึ่งพ่อแม่ก็อนุญาต ตนเลยพาน้องขึ้นรถ ซื้อน้ำซื้อขนมให้กิน แล้วพาน้องไปดูที่ต่างๆ เช่น แคมป์คนงานก่อสร้าง ไปดูคนเมา แล้วสอนน้องเกี่ยวกับการใช้ชีวิต จนท้ายที่สุดน้องก็บอกว่า รู้สึกดีขึ้น และจะตั้งใจเรียนมากขึ้น ตนก็พาน้องไปส่งที่บ้าน


โดยตำรวจทั้ง 2 นาย ยังบอกด้วยว่า ไม่ว่าเกิดเหตุอะไร ก็สามารถโทรแจ้งเข้ามาได้ ตำรวจสายตรวจพร้อมเข้าช่วยเหลือ หรือช่วยประสานงานต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้


ต่อมาทีมข่าวลงพื้นที่มายังห้องพักจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นห้องเช่าภายในอะพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ในซอยแจ้งวัฒนะ 10 ย่านหลักสี่ โดยเจ้าของหอพัก เล่าให้ฟังว่า ครอบครัวนี้มาเช่าห้องที่หอพักอาศัยอยู่ได้ประมาณ 4 ปีแล้ว โดยอยู่กัน 4 คน มีพ่อ ลูกสาว 2 คน กับลูกชายคนเล็กอีก 1 คน ซึ่งที่ผ่านมา ตนเองไม่เคยสังเกตเห็นความผิดปกติเลย ตนเห็นเพียงว่า พ่อมีอาชีพขับแท็กซี่ นิสัยดูค่อนข้างเรียบร้อย ไม่เคยเห็นว่ากินเหล้าเมาสุรา และก็ดูรักและดูแลลูกๆ ดี จะคอยขับรถไปรับไปส่งลูกไปเรียนหนังสือ แล้วช่วงบ่ายก็จะออกไปขับแท็กซี่จนถึงดึก


ส่วนผู้เสียหายทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านสะดวกซื้อด้วย ตนเลยจะไม่ค่อยเห็น ก็ไม่รู้มาก่อนว่าถูกพ่อกักขัง คิดว่าไปเรียนหรือไปทำงาน โดยตนมักจะเห็นลูกอีก 2 คนมากกว่า ที่เดินออกไปซื้อขนมตอนเย็นๆ ทั้งนี้ หลังจากรู้ว่าเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น ตนก็ตกใจมาก ไม่คิดว่าคนเป็นพ่อจะทำแบบนี้ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยระแคะระคายมาก่อน และไม่เคยได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือเลย


ด้านพนักงานรักษาความปลอดภัย ของอพาร์ตเมนต์ ระบุว่า ตนมักจะนั่งดื่มกับผู้ก่อเหตุอยู่เป็นครั้งคราว ซึ่งผู้ก่อเหตุไม่ได้เป็นคนดื่มหนักจนเมา และก็มักจะทักทายกันบ้างเวลาเจอ โดยเท่าที่รู้จักกัน ผู้ก่อเหตุก็เป็นคนอัธยาศัยดี ดูแลลูกดี ไปรับไปส่ง และไม่เคยมีมาพูดคุยเรื่องเพศกับตน พอรู้ข่าว ตนก็ไม่อยากจะเชื่อว่าผู้ก่อเหตุจะกระทำเรื่องดังกล่าว


ขณะที่ความคืบหน้าทางคดี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจได้นำตัว นายพล ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ ออกทางด้านหลัง สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อหลบผู้สื่อข่าว ไปฝากขังยังศาลอาญารัชดา โดยร้อยตำรวจเอกวรวุฒิ เกตุแก้ว พนักงานสอบสวนให้ข้อมูลว่า จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหาให้การปฎิเสธบางข้อหา แต่เบื้องต้นตำรวจยืนยันมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในข้อหากระทำชำเรา  กักขังหน่วงเหนี่ยว  และข้อหาอื่นๆ โดยตำรวจได้คัดค้านการประกันตัว เพราะเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี


สำหรับผู้เสียหาย ตอนนี้ได้อยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์แล้ว เพื่อดูแลจิตใจอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ มีข้อมูลว่า ผู้เสียหายถูกเลี้ยงดูโดยพ่อเพียงคนเดียวมาโดยตลอด หลังจากที่แม่ของผู้เสียหายเสียชีวิตไป ส่วนน้องสาวและน้องชายนั้น เป็นลูกคนละแม่


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/NgN8Z-UKMSQ

คุณอาจสนใจ