อาชญากรรม

ชายวัย 64 ปี โอนไวถูกสาวไม่ตรงปกหลอกโอนเงินสูญหลายแสน คบกันมา 3 ปี นึกว่าจะรักจริง

โดย kanyapak_w

20 มี.ค. 2566

663 views

ชายวัย 64 ปี โอนไว ญาตินักมวยชื่อดังถูกสาวไม่ตรงปกหลอกโอนเงินสูญหลายแสน



เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 20 มีนาคม 2566 ที่ชมรมทนายความจิตอาสา ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี นายยุฒธิพงษ์ อายุ 64 ปี พนักงานย้อมผ้าโรงงานแห่งหนึ่งย่านสมุทรปราการ ญาติของนักมวยชื่อดังท่านหนึ่ง เดินทางนำหลักฐานเข้าพบนายเกียรติคุณ หรือทนายโป้ง ประธานชมรมทนายความจิตอาสาเพื่อขอความช่วยเหลือหลังถูกนางสาวแหม่ม อายุ 46 ปี ที่รู้จักกันในโลกโซเชียลนาน 3 ปี หลอกจะดูแลกันหลังจากที่ตนเกษียณจากการงานแล้วจะมาเป็นแม่บ้านก่อนจะหลอกให้โอนเงินและดาวน์รถจักรยานยนต์สูญเงินหลายแสนบาท


นายุฒธิพงษ์ อายุ 64 ปี กล่าวว่า เพื่อนที่ทำงานตนบอกว่ามีผู้หญิงชื่อ น.ส.แหม่ม หน้าตาสวย โพสต์รูปอยู่ใน Facebook พอตนเห็นรู้สึกชอบเลยทักเข้าไปคุย 2 เดือนแรกแหม่มมายืมเงินไปลงทุนเปิดร้านขายน้ำ ตนให้ยืมไป 4,000 บาท ครั้งที่ 2 ขอ ยืมเงินไปทำสวนปลูกผัก จำนวน 15,000 บาท ครั้งที่ 3 มาขอยืมเงินไปทำสวนฝรั่งจำนวน 30,000 บาทตนไม่เอะใจอะไรรีบโอนเงินไปให้ ต่อมาตนถูกทวงเงินทำงานทุกวันไม่มีเวลาเลยโอนเงินให้แหม่มไปจ่ายค่าบัตรเครดิต 40,000 บาท รู้ทีหลังว่าแหม่มไม่ไปจ่าย พอตนถามทำไม่พอใจ และนัดให้ตนไปเจอที่ร้านจักรยานยนต์ พอตนเห็นตัวจริงนางสาวแหม่มตกใจมาก ภาพไม่ตรงปกตัวจริง ทั้งอวบและผิวเข้มกว่าที่คิด ให้ตนไปดาวน์รถจักรยานยนต์ราคา 120,000 บาท ฟรีดาวน์ผ่อนได้แค่ 2 เดือนๆ ละ 4,000 บาท มาขอยืมรถจักรยานยนต์ Honda Click กทม.ราคาประมาณ 40,000 บาท ก่อนเชิดรถทั้ง 2 คันรวมทั้งโทรศัพท์มือถือหลบหายไปเลย



ตนทำงานได้เดือนละ 12,000 บาท เงินเดือนออกมาโอนให้หมดเลยเงินโบนัสก็ให้ ถูกหวย ลอตเตอรีเลขท้าย 3 ตัวได้เงินมา 50,000 กว่า ไม่ได้ใช้เลยโอนให้หมด ตอนนี้ติดต่อไม่ได้ปิดเฟซและปิดมือหนี ตนมั่นใจว่าโดนหลอกเมื่อเดือนที่แล้วเลยโทรไปถามญาติของนางสาวแหม่ม แต่ทางญาติบอกว่านางสาวแหม่มไปหลอกคนอื่นมีผู้เสียหายมาถามหาหลายราย ตนเครียดมากพูดคุยกับนางสาวแหม่มมาเกือบ 3 ปี โอนเงินไปนับครั้งไม่ถ้วนขอเงินเมื่อไหร่โอนเมื่อนั้น ตนเก็บหลักฐานการโอนเงินไว้ทั้งหมด รวมแล้วหลายแสนบาทตอนนี้หมดตัวแล้ว อยากให้ทนายโป้งช่วยตามนางสาวแหม่มมาดำเนินคดีตามกฎหมายแต่ถ้านำเงินที่ตนโอนให้มาคืนตนจะไม่เอาเรื่อง




ทนายโป้งกล่าวว่า ทางผู้เสียหายติดต่อมาทางเพจ Facebook ทนายโป้ง มาขอความช่วยเหลือแจ้งว่าได้คบหากับผู้หญิงคนหนึ่งประมาณ 3 ปีเริ่มต้นที่พูดคุยกันในโลกโซเชียล มีการอุปการะเลี้ยงดูกัน ทางผู้เสียหายคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะรักจริง แก่แล้วจะดูแลกันหลังจากเกษียณการงานแล้วจะเอามาเป็นแม่บ้าน ทางผู้เสียหายก็เชื่อ มีเงินเก็บอยู่ก้อนนึง ทางผู้หญิงบอกว่าอยากจะได้รถจักรยานยนต์ 1 คันผู้เสียหายเลยเอาคันเก่าไปรีไฟแนนซ์ให้ ทางผู้หญิงบอกว่าอยากได้จักรยานยนต์ใหม่อีก 1 คันผู้เสียหายเลยไปออกป้ายแดงให้ หลังจากคบกันทางผู้หญิงบอกว่ามีค่าใช้จ่ายต้องใช้เงินผู้เสียหายก็โอนให้ เงินเดือนออกมาทั้งหมด ไม่ได้ใช้ โบนัส แต๊ะเอียของบริษัทที่ได้ ผู้เสียหายโอนให้หมด เรื่องนี้เป็นเรื่องของการฉ้อโกงได้เนื่องจากผู้หญิงคนนี้เริ่มจากมีการติดต่อกับคุณผู้เสียหายไม่ได้ประสงค์เรื่องความรัก และมาโกหกว่าจะอยู่เป็นคู่ชีวิตผู้เสียหาย




แต่เป็นลักษณะของการหลอกลวงเอาทรัพย์สินเงินทองไป ผู้เสียหายเพิ่งมาจับได้เมื่อเดือนที่แล้วผู้เสียหายไปตามหาผู้หญิงแล้วไปเจอญาติ เขาบอกว่าผู้หญิงคนนี้หลอกคนอื่นไปเรื่อย ตอนนี้พนักงานสอบสวนยังไม่ได้รับคดี คาดว่าน่าจะสื่อสารไม่ครบถ้วน ตนเลยแนะนำให้ผู้เสียหายกลับไปอีกครั้งเพื่อไปบอกรายละเอียดให้ครบถ้วน จะได้ดำเนินคดีฉ้อโกงได้ ซึ่งคดีฉ้อโกงเป็นคดีที่ยอมความกันได้ หากคู่กรณีทราบแล้วก่อนที่ผู้เสียหายจะไปดำเนินคดีอาญาให้รีบมาไกล่เกลี่ยกับผู้เสียหายแล้วคืนเงิน ก่อนที่คุณผู้เสียหายจะดำเนินคดีเพราะอาจจะต้องไปติดคุกและต้องโทษ อยากจะฝากเตือน สำหรับคนที่ลงโปรไฟล์ในโลกโซเชียลน่าจะมีจิตสำนึกเอาข้อมูลที่เป็นจริงมาลง ไม่ใช่เอาข้อมูลไม่เป็นจริงมาหลอกกัน อันนี้อาจจะเข้าข่ายฉ้อโกงและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ด้วย ส่วนผู้ชาย ดูอะไรอย่าหน้ามืดตามัวต้องมีสติ อย่าไปหลงรูปรถกลิ่นเสียงในโลกโซเชียลจะได้รับความเสียหายได้ เพราะฉะนั้นต้องมีสติแล้วจะไม่เสียสตางค์



แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ