นักอาชญวิทยา ยันอาชีพตำรวจของไทยมีปัญหาความเครียดมากกว่าอาชีพอื่น 2 เท่า ชี้แก้ปัญหาคนอื่นยังต้องแก้ปัญหาส่วนตัวด้วย

นักอาชญวิทยา ยันอาชีพตำรวจของไทยมีปัญหาความเครียดมากกว่าอาชีพอื่น 2 เท่า เพราะนอกจากจะต้องแก้ไขปัญหาของคนอื่นแล้ว ยังต้องแก้ไขปัญหาส่วนตัวทั้งครอบครัว และ เรื่องงานที่ถูกเอาเปรียบ 

รองศาสตราจารย์พันตำรวจโทดอกเตอร์กฤษณพงษ์ พูตระกูล ผู้ช่วยอธิการบดี และประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยามหาวิทยาลัยรังสิต แสดงความคิดเห็นถึงเหตุการณ์ สารวัตรกานต์ มีอาการคุ้มคลั่งยิงปืนออกมาจากในบ้านพักย่านสายไหมว่า

เจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติงานต้องดูว่าผู้ก่อเหตุมีปืนชนิดไหนและมีกระสุนมากน้อยแค่ไหน สถานที่อยู่ของผู้ก่อเหตุเป็นเช่นไร เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าไปควบคุมสถานการณ์

จากนั้นจึงเริ่มเจรจาโดยศึกษาประวัติเกี่ยวกับการรักษาสุขภาพจิต โดยในต่างประเทศหากผู้ก่อเหตุไม่มีตัวประกันก็จะใช้วิธีการจับเป็นเพื่อจะได้รู้สาเหตุที่ก่อเหตุ กรณีที่ผู้ก่อเหตุไม่มีตัวประกันถือเป็นเรื่องดี ที่จะทำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานมีเวลาวางแผนได้อย่างรอบคอบ

ส่วนการปิดล้อมที่ใช้ระยะเวลานานกว่า 24 ชั่วโมง ถือเป็นผลดีกับเจ้าหน้าที่เพราะผู้ก่อเหตุจะเกิดความเครียด และร่างกายอ่อนล้า ทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้ง่ายขึ้น

ทั้งนี้ในปัจจุบันหน่วยงานของตำรวจในไทย ได้มีผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวชมาให้คำปรึกษาทั้งเรื่องสุขภาพและการปฏิบัติงาน // โดยเฉพาะกับผู้ก่อเหตุที่มีอาการทางจิตเวช ก็จะมีผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบเรื่องการรักษาและยาที่ใช้ว่าเป็นยาชนิดใดหรือขาดยาชนิดใด เพื่อนำมาประเมินเข้าสู่ยุทธวิธี

อย่างเช่นในประเทศอังกฤษหรือสหรัฐอเมริกา พบว่าหน่วยงานตำรวจจะเปิดรับบุคลากรจากหน่วยงานอื่น ๆ เข้ามาเป็นตำรวจนอกเวลา เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล และพัฒนาศักยภาพบุคคล

และต้องยอมรับว่าตำรวจไทยมีความเครียดมากกว่าอาชีพอื่น ๆ ถึงสองเท่า เพราะนอกจากจะต้องเป็นที่พึ่งของประชาชนแล้วยังต้องรับฟังและหาทางออกให้กับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น โดยยังไม่นับรวมถึงปัญหาส่วนตัวที่ตำรวจต้องเผชิญทั้งเรื่องครอบครัว การโยกย้ายโดยไม่เป็นธรรม ถูกหัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงานเอาเปรียบ