อาชญากรรม

เหี้ยมเกินมนุษย์! ผัวหึงโหดราดน้ำมันจุดไฟเผาเมีย วิ่งหนีตายลงน้ำ ตามรัวแทงซ้ำดับ พลเมืองดีเข้าช่วยเจ็บด้วย

โดย petchpawee_k

7 มี.ค. 2566

963 views

สามีโหด! ใช้น้ำมันสาดใส่ภรรยาจุดไฟเผา พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือโดนน้ำมันสาดใส่ถูกไฟเผาด้วยวิ่งลงร่องน้ำข้างทาง ไม่หนำใจสามีตามลงไปใช้มือกดคอภรรยา-ใช้มีดดาบกระหน่ำแทง 6 แผล เสียชีวิตอนาถสภาพร่างเปลือยไม่สวมใส่เสื้อผ้า ก่อนขับกระบะเผ่นหนี พี่สาวผู้ตายร่ำไห้“แค้นใจทำไมทำรุนแรงขนาดนี้” เพื่อนเผยเคยขู่ฆ่าภรรยาหึงหวงคิดว่าจะตีตัวออกห่าง ตร.เร่งล่าตัว

วานนี้ (6 ก.พ.) เวลา 15.00 น. เกิดเหตุสะเทือนขวัญ สามีใช้น้ำมัน ซึ่งคาดว่าเป็นน้ำมันเบนซิน สาดใส่ภรรยาจุดไฟเผา ขณะนั้นมีพลเมืองดีเข้าช่วยเหลือก็โดนน้ำมันสาดใส่ถูกไฟเผาด้วย ทั้งสองร้อนทุรนทุรายวิ่งลงไปในร่องน้ำข้างทาง ฝ่ายสามีไม่หนำใจตามลงไปในร่องน้ำใช้มือกดคอภรรยาแล้วใช้มีดดาบกระหน่ำแทง 6 แผล จนเสียชีวิตสภาพร่างเปลือยไม่สวมใส่เสื้อผ้า

ทั้งนี้ มีคลิปที่คนงานโรงงานละแวกนั้นถ่ายด้วยโทรศัพท์มือถือ เป็นเหตุการณ์ขณะที่กระบะมิตซูบิชิ ไททัน แบบแค็บ สีขาว ทะเบียน 2 ฒฎ 5783 กรุงเทพมหานคร ขับมาจอดใกล้เคียงจุดที่นายประภาส กาภูคำ พลเมืองดีจอดรถสองแถวพักผ่อนและเช็ดรถอยู่ แต่จู่ๆ มีผู้หญิงที่นั่งมาในรถกระบะคันดังกล่าววิ่งอออกมาจากรถ ร้องไห้ตะโกนขอความช่วยเหลือ “ช่วยด้วย ช่วยหนูด้วย”

 ขณะนั้นพบว่าเธอมีเพียงผ้าขนหนูสีน้ำตาลผืนเดียวปิดคลุมร่างเท่านั้น ชายที่ขับรถมาด้วยนั้นเดินลงมาจากรถในสภาพไม่สวมเสื้อ สวมเพียงกางเกงขาสั้นตัวเดียว ลักษณะกำลังทะเลาะกับฝ่ายหญิง นอกจากนี้มีนายปัญญา พลเมืองดีอีกรายพยายามห้ามปรามฝ่ายชาย โดยฝ่ายชายเดินกลับไปที่รถหยิบขวดน้ำมาดื่ม ระหว่างนั้นนายปัญญา โทรแจ้งตำรวจ ตัวผู้ก่อเหตุก็เดินกลับไปที่รถ จากนั้นคลิปถูกตัดไป

หลังจากนั้นตัวสามีที่ก่อเหตุทราบชื่อนายพิสุทธิ์ศิริ หรือต้น อายุ 42 ปี ใช้น้ำมันสาดใส่ภรรยาและนายประภาส พลเมืองดี ก่อนจุดไฟแช็กเผา ทั้งสองวิ่งลงไปในร่องน้ำข้างทาง ฝ่ายสามีตามลงไปใช้มือกดคอภรรยาแล้วใช้มีดกระหน่ำแทง 6 แผล บริเวณต้นขาซ้าย 2 แผล /สะโพกซ้าย 1 แผล /ราวนมขวา 1 แผล /หน้าท้อง 1 แผล /หลังซ้าย 1 แผล ส่วนสะโพกขวามีรอยไฟไหม้ เสียชีวิตอนาถ

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบริเวณหน้าบ่อบำบัดน้ำเสีย บริษัท โกลบอล เอ็มไวรอนเมนทอล เทคโนโลยี จำกัด ซอยนิคมอุตสาหกรรมบางปู 9A ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งตำรวจ สภ.บางปู พร้อมด้วย ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุพบนายประภาส  อายุ 58 ปี พลเมืองดีจอดรถสองแถว ได้รับบาดเจ็บถูกไฟไหม้ที่หลังและแขน เจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่งโรงพยาบาลสมุทรปราการ ภายในร่องระบายน้ำพบร่างนางณัฐนันท์  หรือ หมอน อายุ 45 ปี สภาพเปลือยกาย นอนคว่ำหน้าอยู่ในร่องน้ำ พลิกศพพบบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคม

ตรวจสอบบริเวณกลางถนนใกล้ที่เกิดเหตุ พบเศษเสื้อผ้ามีรอยถูกเผาไหม้และมีคราบน้ำมันตกอยู่ที่พื้น เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ที่จุดเกิดเหตุยังพบคราบน้ำมันอยู่ที่บริเวณโคนต้นไม้ ใกล้กับรถสองแถว 6 ล้อ รับส่งพนักงานและบนพื้นถนนหลายจุด ส่วนผู้ก่อเหตุได้ขับรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ ไททัน แบบแค็บ สีขาว ทะเบียน 2 ฒฎ 5783 กรุงเทพมหานคร หลบหนีไป  


พลเมืองที่ได้รับบาดเจ็บ เล่าว่า พบกระบะมิตซูบิชิ ไททัน แบบแค็บ สีขาว ทะเบียน 2 ฒฎ 5783 กรุงเทพมหานคร ขับเข้ามาในซอย 9A ก่อนที่จะเข้ามาจอด บริเวณดังกล่าวและมาขอซื้อไอติมจากลุงที่ขายอยู่ข้างทาง ตนจึงถามไปว่าจะไม่ลงมาเอาไอติมหรอ จู่ๆ หญิงสาวอาศัยจังหวะที่ฝ่ายชายเผลอ วิ่งหนีลงมาจากรถพร้อมกับคว้าผ้าถุงมาปิดหน้าอก เข้ามาขอความช่วยเหลือจากตนเองและชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์


ขณะนั้นฝ่ายชาย ไม่สวมเสื้อนุ่งเพียงกางเกงขาสั้น เดินตามลงมา พยายามจะเข้ามากระชากแขนหญิงคนดังกล่าวกลับไปที่รถ และบอกว่า “ห้ามมายุ่งเรื่องของผัวเมีย” ก่อนผู้ก่อเหตุจะเดินกลับไปที่รถ หยิบขวดน้ำมันมาสาดใส่หญิงคนดังกล่าวและจุดไฟเผา จนทำให้ตนเองถูกไฟลวกบริเวณแขนไปด้วย ส่วนหญิงสาวหลังถูกไฟลวก พยายามวิ่งหนีตายลงไปในร่องระบายน้ำ แต่ฝ่ายชายไม่ยอมละมือถือมีดวิ่งตามลงไปในน้ำ เข้าไปแทงซ้ำหลายทีจนหญิงสาวแน่นิ่งไป หลังลงมือฝ่ายชายยังข่มขู่คนที่เห็นเหตุการณ์ จนไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย ก่อนที่จะเดินขึ้นรถขับหนีไปอย่างรวดเร็ว


นายปัญญา ศิริเพชร (ใส่เสื้อน้ำเงินในคลิป) พลเมืองดีอีกรายที่เข้าไปช่วย เล่าว่าขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาเจอกำลังจะไปทำงาน เห็นผู้หญิงไม่ใส่เสื้อผ้าขอความช่วยเหลือจึงจอดรถาม “มีอะไรกัน” ฝ่ายชายบอก “เรื่องของผัวเมียพี่อย่ามายุ่งดีกว่า” ตนจึงตอบไปว่า “ผัวเมียอะไรทำไมแก้ผ้าอย่างนี้ มีอะไรโทรหาตำรวจดีกว่า”  ฝ่ายหญิงร้องไห้ “พี่ช่วยหนูด้วยมันเอาน้ำมันราดใส่หนู” จากนั้นฝ่ายชายท้าให้โทรหาตำรวจแล้วพูดว่า “ผมนี่ล่ะผัวมัน มันหายไป 10 ไม่รู้มันไปนอนกับใคร”


ตนจึงยืมโทรศัพท์ของนายประภาส โทรแจ้งตำรวจ ฝ่ายชายฉุนฉียวพูดว่า “พี่ไม่น่ามายุ่งเลย พี่ทำให้ผมเดือดร้อนแล้ว” ตนจึงบอกมีอะไรให้ใจเย็นๆ ส่วนฝ่ายหญิงยืนหลบอยู่ด้านหลังนายประภาส (ลุงขับรถสองแถว) ด้วยความหวาดกลัว จากนั้นฝ่ายเดินไปที่รถหยิบแกลอนน้ำมันมาสาดใส่ฝ่ายหญิงแต่โดนตัวนายประภาสด้วย ก่อนจะล้วงไฟแช็กมาจุดไฟใส่ทั้งคู่ โดยไฟเผาร่าง โดยนายประภาสโดนเยอะเพราะอยู่ข้างหน้า


จากนั้นตนเห็นไฟลุก จึงบอกทั้งฝ่ายหญิงและลุงขับรถสองแถวกระโดดลงไปในร่องน้ำ ผู้ก่อเหตุเดินเอาแกลอนไปไว้ในรถแล้วหยิบมีดดาบออกมาจะทำร้ายตน ตนเองจึงใช้เก้าอี้ไม้ซึ่งวางใต้ต้นไม้ริมทางเขวี้ยงใส่เพื่อป้องกันตัว ปรากฎว่านายพิสุทธิ์ศิริ กระโดดลงไปในร่องน้ำ ใช้มือกดคอภรรยา กระหน่ำแทงไม่ยั้ง ตนตะโกนบอก “พี่พอแล้ว” ภาพติดตาสลดหดหู่ใจมาก โหดเหี้ยมตอนมันแทง คนรักกันทำไมทำขนาดนี้


จากนั้นนายพิสุทธิ์ศิริ ขึ้นจากร่องน้ำถือมีดจะมาฟันตนอีก แต่มีนายชัชวาลย์ โตโส อายุ 29 ปี พลเมืองอีกคนมาช่วย เอาไม้ยาวมาจะฟาดใส่นายพิสุทธิ์ศิริ จนกระทั่งขึ้นรถกระบะขับหนีไป ตอนแรกไม่มีใครมาช่วย เรียกให้คนจอดรถช่วยก็ไม่มีใครยอมจอด คิดว่าถ้าคนเยอะเขาคงกลัว พอมีคนเริ่มจอดรถดูและลงมาช่วย นายพิสุทธิ์ศิริ ก็ขับรถหนีไปแล้ว


ขณะภรรยานอนแน่นิ่งเสียชีวิต ทั้งนี้ก่อนที่ภรรยาจะโดนสามีสาดน้ำมันใส่ เธอพูดว่า “พี่อย่าทิ้งหนูนะ” “ผมเสียใจมากที่จะช่วยเขาแต่ผมช่วยเขาไม่ได้ ผมก็ช่วยเต็มที่แล้ว แต่ก็ช่วยไม่ได้เพราะฝ่ายสามีมีมีด มีดยาวมาก ผมไม่กล้าเสี่ยง ลูกผมยังเล็กด้วย ถ้าผมเป็นอะไรลูกผมก็ลำบาก ผมช่วยเต็มที่แล้วครับ”


ด้านนายชัชวาลย์ โตโส อายุ 29 ปี พลเมืองอีกคนที่มาช่วยเหลือ เล่าว่า ขับรถยนต์ผ่านมาได้ยินเสียงคนร้องขอความช่วยเหลือ เห็นจังหวะที่ฝ่ายสามีราดน้ำมันใส่ภรรยากับลุงขับรถสองแถวแล้วจุดไฟแช็กใส่จนไฟลุกไหม้ลำตัว ตนจึงรีบเข้าไปช่วยจะเอาฟาดตัวผู้ก่อเหตุแต่เขามีมีดดาบ ตนก็ไม่กล้าเข้าไปใกล้ ตนเห็นฝ่ายสามีกดคอภรรยาในร่องน้ำแล้วใช้มีดกระหน่ำแทง โหดมาก


ต่อมาเมื่อเวลา 16.30 น. นางสาวโชติกา (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี หลานสาวของผู้เสียชีวิต เดินทางมาที่เกิดเหตุ เมื่อเห็นศพน้าสาวถึงกับร้องไห้ปล่อยโฮด้วยความเสียใจจนทรุดลงกับพื้น ยืนยันว่าผู้ตายคือน้าสาวของตนชื่อนางณัฐนันท์ หรือ อายุ 45 ปี ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นสามีของน้า ชื่อนายพิสุทธิ์ศิริ หรือต้น อายุ  42 ปี


จากนั้นหลานสาวของผู้เสียชีวิต เดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.บางปู เผยทั้งน้ำตาว่า หลังจากที่ตนเห็นภาพและข่าวในเพจ จึงเดินทางมาเพื่อยืนยันศพผู้ตาย ตนเป็นหลานสาวแท้ๆ ของผู้ตาย โดยทั้งคู่คบหาและอยู่ในหอพักซอยรสทิพย์ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร ทั้งคู่คบหากันมาหลายปีแล้ว เคยมีปากเสียงทะเลาะกันบ้าง แต่ตนก็ไม่ได้ไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของน้า ส่วนใหญ่เป็นเรื่องหึงหวง แต่ไม่เคยรุนแรงถึงขนาดนี้

น้าเขย (ผู้ก่อเหตุ) เป็นพนักงานขับรถส่งของ ส่วนผู้ตายเป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งรถคันก่อเหตุก็เป็นรถของน้าสาวที่ออกร่วมกับผู้ก่อเหตุ ส่วนปมสาเหตุในครั้งนี้ตนไม่ทราบ “ทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้ มันรุนแรงมมาก ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับครอบครัวตัวเอง เคยเห็นแต่ในข่าว ไม่คิดว่าเขาจะทำถึงขนาดนี้ แค่สาดน้ำมันจุดไฟเผามันก็เกินพอแล้ว นี่ยังตามลงไปใช้มีดแทง มันรับไม่ได้ เราก็มองเขาเป็นคนดีคนหนึ่ง ไม่คิดว่าจะใจเหี้ยม อยากวิงวอนให้น้าเขยเข้ามอบตัวกับตำรวจโดยเร็ว”


ทีมข่าวยังได้คุยกับนางสนิท (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี พี่สาวของผู้เสียชีวิต เผยทั้งน้ำตาว่า น้องสาวไม่เคยเล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟัง ต่างคนต่างทำงานและไม่ได้พักอาศัยอยู่ด้วยกัน หลังจากน้าสาวเลิกกับสามีเก่า ก็มาคบหากับนายพิสุทธิ์ศิริ ได้ 4-5 ปี ไปที่ไหนก็ไปด้วยกันเหมือนจะรักกันดี หลังเกิดเหตุนี้มีคนโทรมาบอกตนว่าน้องสาวโดนนายพิสุทธิ์ศิริ ฆ่าตาย ทีแรกตนไม่เชื่อ


“เสียใจไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับครอบครัวเรา ตนเองเคยเจอนายพิสุทธิ์ศิริ แต่ก็ไม่ค่อยได้คุยกันและไม่รู้จักนิสัยใจคอเขา ไม่รู้ว่าทั้งคู่มีปัญหาอะไรกัน ตอนนี้ตนทำอะไรไม่ถูก อยากให้ตำรวจจับได้มาลงโทษโดยเร็ว ไม่คิดว่ามันจะรุนแรงขนาดนี้ แค้นใจมาก ทำไมถึงทำได้ขนาดนี้เพราะอะไร ตนยังไม่ได้ดูคลิปเหตุการณ์ แม้แต่ศพน้องสาวก็ยังไม่เห็น ถ้าน้องพูดอะไรให้ฟังบ้างก็พอจะรู้เรื่องแต่นี่เก็บเงียบไม่เอ่ยปากพูดเลย ส่วนศพทางญาติหารือกันจะรับกลับไปบำเพ็ญกุศลที่ จ.อุดรธานี” 

ทีมข่าวได้คุยกับนายเกษา ศิลาวุธ อายุ 41 ปี เพื่อนของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า เมื่อสองถึงสามวันที่แล้ว นายพิสุทธิ์ศิริ ได้โทรศัพท์มาหาตนเอง บอกว่าให้รอดูข่าวได้เลย ก็ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริง เท่าที่ทราบผู้ก่อเหตุทะเลาะกับผู้ตายมาหลายวันแล้ว ฝ่ายหญิงแยกไปอยู่ที่อื่น ก่อนที่จะกลับมาที่ห้องพัก ปัญหาที่ทะเลาะกันเป็นเรื่องที่ฝ่ายชายหึงหวงฝ่ายหญิง ชอบคิดว่าฝ่ายหญิงจะตีตัวออกห่าง พร้อมกับทิ้งหนี้สินเอาไว้ให้ ก่อนหน้านี้เคยขู่ฆ่าฝ่ายหญิงมาแล้ว


ขณะที่เพื่อนของผู้เสียชีวิต บอกว่า ผู้ตายเคยคุยว่าอยากเลิกกับสามี แต่สามีไม่ยอมเลิก แต่ผู้ตายก็ไม่ได้เล่าให้ฟังว่ามีปัญหาอะไรกัน แต่มักจะบอกว่าทะเลาะกันเป็นประจำเป็นเรื่องทั่วไป ก่อนเกิดเหตุไม่นานผู้ตายเคยบอกกับตนว่าทะเลาะกับสามีกำลังจะหาที่อยู่ใหม่ และเมื่อวันที่ 5 มี.ค.ผู้ตายจะกลับห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อไปงานบวช (ก่อนหน้านี้ผู้หนีไปนอนกับเพื่อน) แต่ตนบอกไม่ต้องไป เพราะฝ่ายสามีจ้องอยู่เพราะขู่จะฆ่าภรรยา กระทั่งมาเกิดเหตุสลดขึ้นเมื่อวานนี้ (6 มี.ค.)


พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผู้กำกับการ สภ.บางปู เปิดเผยว่า เบื้องต้นสาเหตุน่าจะมาจากเรื่องหึงหวง ก่อนเกิดเหตุนายพิสุทธิ์ศิริ ผู้ก่อเหตุ น่าจะบังคับฝ่ายหญิงขึ้นรถมา ระหว่างทางเกิดมีปากเสียงกัน ฝ่ายหญิงจึงจะอาศัยจังหวะที่ฝ่ายชายเผลอ เปิดประตูวิ่งมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน กระทั่งฝ่ายชายตามมาลงมือก่อเหตุจนเสียชีวิต ต่อมาเจ้าหน้าที่นำกำลังไปตรวจสอบห้องพักของผู้ก่อเหตุ ซึ่งอยู่ย่านตำรุ บางปู แต่ไม่พบตัว เชื่อว่าน่าจะหนีออกนอกพื้นที่แล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี


ด้าน พล.ต.ต. พัลลภ แอร่มหล้า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ สั่งการระดมฝ่ายสืบสวนฝีมือดีและสั่งการตำรวจทุก สภ.ออกไล่ล่าตรวจหารถกระบะคันที่คนร้ายใช้หลบหนี แต่ยังไม่มีรายงานว่าพบรถหรือตัวคนร้ายแต่อย่างใด



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/7-vHofJPC08

คุณอาจสนใจ

Related News