เปิดแชทลับ นาย ‘พ’ คุยกับภรรยาบังคับขายบริการ-ถ่ายภาพลับ ซ้ำรู้เห็นเป็นใจให้มีสัมพันธ์กับนาย ‘จ’

ความคืบหน้าคดีน้องต่อเด็กชายวัย 8 เดือนที่สูญหายจากบ้านพักเป็นปริศนากว่า 18 วันแล้วยังไร้วี่แวว  

ทีมข่าวของเราได้รับแชทการสนทนาระหว่าง น. กับ พ. พบถึงการกระทำความผิดชัดเจน โดยพบว่าพ. มีการบอกให้ น.ไปขายบริการให้กับชายอื่น และยังบังคับให้ถ่ายรูป โดยลักษณะของการถ่ายรูปและการสนทนาจะเกี่ยวกับเรื่องการมีเพศสัมพันธ์กับบุคคลอื่น และเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง

ซ้ำยังพูดยังสั่งให้ น. มีการถ่ายภาพลับของตนเองเพื่อส่งมาให้เป็นประจำ แม้กระทั่งเป็นประจำเดือนก็สั่งให้ถ่ายภาพมาให้ดู

โดยบทสนทนาแชทนี้ ส่วนใหญ่นายพ. จะสนทนา เรื่องการจัดหาเป็นธุระขายบริการทางเพศนิ่มให้กับบุคคลอื่น โดยมีนาย พ. รวมถึงลุง จ. และยังมีบุคคลปริศนาในสนามกอล์ฟอีกด้วย

ซึ่งในแต่ละวันจะให้ น.ออกไปขายบริการ แล้วยังบังคับข่มขู่ น. หากไม่ทำตาม มีบางข้อความระบุว่า น. พูดเรื่องเงินใช้จ่ายและสั่งให้ พ. เลิกใช้แอปติดตาม แต่ พ. ตอบกลับว่า “มีรูป น. เยอะจัง คลิปด้วย งงมากเลย”

นี่จึงเป็นหลักฐานสำคัญที่ถูกดำเนินคดี และผู้ชายรายใดที่ซื้อบริการ น. ตำรวจกำลังตรวจสอบและจะดำเนินคดีตามกฎหมายทุกราย

โดยในแชทยังมีการพูดคุยถึงเรื่องนมของลูกชาย ที่ให้ดื่มเวลานอนอีกด้วย

สำหรับเช้าวันนี้ (24 ก.พ.66) พนักงานสอบสวนจะนำตัว น.มาทดสอบสภาพจิตใจที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยแนวทางคดีนั้นพบว่าวันศุกร์นี้ จะมีการประมวลผลถังผลการเข้าเครื่องจับเท็จการสอบปากคำและการตรวจสอบสภาพจิตใจของนางสาวน.

ซึ่งมีรายงานข่าวว่าผลตรวจประเมินแล้ว หากนางสาว น.มีอาการป่วย อยู่ในกลุ่มไซโคพาธ (Psychopaths) จัดเป็นหนึ่งในกลุ่มของโรคบุคลิกภาพผิดปกติ แบบต่อต้านสังคม (Antisocial Personality Disorder) ผู้ป่วยจะมีลักษณะขาดความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ขาดความสำนึกผิด ไม่มีความยับยั้งชั่งใจ ดูคล้าย ๆ คนที่มีนิสัยแข็งกระด้าง ไร้ความเมตตาปรานีที่เป็นโรคไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี รวมทั้งอาการของความกดดันและการต่อสู้ชีวิตที่ถูกกระทำมาตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน

ตำรวจ ก็จะต้องนำตัวไปบำบัดรักษาแต่ก่อนจะนำไปบำบัดรักษานั้น น.จะต้องบอกเจ้าหน้าที่ว่าน้องต่อ อยู่ที่ใดเพื่อที่จะตามหาน้องต่อให้ได้เร็วที่สุด

ส่วนการดำเนินการกับบุคคลที่เคยซื้อบริการน.นั้นตำรวจมีข้อมูลทั้งหมดแล้ว และเตรียมจะขยายผลแจ้งข้อกล่าวหาเป็นรายบุคคลซึ่งข้อมูลทั้งหมดนั้นก็มาจากโทรศัพท์ของน.และพุดเคยใช้ติดต่อลูกค้าในอดีตที่ผ่านมา

ขณะที่ ทีมข่าวสอบถาม พี่สะใภ้ของพ่อนายพ. อีกครั้ง ถึงไทม์ไลน์ในช่วงวันเกิดเหตุ ซึ่งพบว่ามีบางข้อมูลที่เหมือนจะไม่ตรงกับที่แม่ของเด็กให้การไว้

22.00น. วันที่ 4 กุมภาพันธ์ ช่วงก่อนที่เด็กวัย 8 เดือนจะหายตัวไป นั่งทานหมูกระทะกันหน้าบ้าน พบความผิดปกติ คือ เด็ก 8 เดือนไม่ร้อง ช่วงกลางดึก เหมือนปกติ

05.00 น. ตื่นมาแต่งตัว เตรียมไปทำงาน ไม่ได้ยินเสียงหลานร้อง ขณะที่ข้อมูลของแม่เด็กที่บอกว่า ลูกร้องหิวนมหลายครั้ง

05.50 น. ของวันที่ 5 กุมภาพันธ์ เดินสวนกับแม่เด็ก ที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำ และกลับเข้าไปนอน ปกติแม่ของเด็กเป็นคนตื่นสาย

เกือบ 06.00 น. ระหว่างขายเหล้าให้ลูกค้า ได้ยินเสียงเด็กร้อง แต่ไม่ได้ชะโงกเข้าไปดูว่าน้องต่ออยู่หรือไม่

ทั้งนี้มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้พยามไล่ภาพกล้องวงจรปิด ตรวจสอบซ้ำ ก่อนเวลาตี 5 ก่อนที่เด็กจะหายไป ว่าพบพิรุธของบุคคลใดที่ขี่รถเข้าออกหรือไม่ รวมถึงแกะรอยหาเบาะแสของกล้องวงจรปิดบริเวณแวดล้อม ตรวจสอบรถนับร้อยคัน แต่ก็ยังไม่พบว่ามีรถจากนอกพื้นที่เข้ามาภายในหมู่บ้าน

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/5_B5ryVr0gw